ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก

ยังอยู่กับควันหลง ฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ โดยวันนี้เราจะมาชวนคุยเกี่ยวกับชาติเจ้าภาพอย่าง ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ว่าพวกเค้าทำผลงานเป็นอย่างไร และโดยรวมถือว่าสอบผ่านหรือไม่ ด้วยครั้งนี้พวกเค้าถือว่ามาในฐานะตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญรางวัล หลังจากครั้งสุดท้าย ต้องย้อนไปถึงปี 1968 ที่ทัพซามูไรบลูส์ คว้าอันดับ 3 มาครองได้

วันนี้ Kickoff88 จะมาพาเพื่อนๆ ไปวิเคราะห์กันดู เกี่ยวกับผลงานของ ทีมชาติญี่ปุ่น ใน โตเกียวเกมส์ หากเพื่อนๆ ไม่อยากพลาด บทวิเคราะห์ฟุตบอล ดีๆ จากพวกเรา อยากให้ติดตามกันไว้ด้วยนะครับ

ตัดเกรด ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ในโอลิมปิกเกมส์ 2020

อย่างแรก ต้องบอกว่าพวกเค้ามาแบบจัดเต็มสุดๆ พยายามพาแข้งชุดที่ดีที่สุดมาแข่งขัน นำโดย ทาเคฟุสะ คุโบะ, มายะ โยชิดะ, ริทสึ โดอัน, ฮิโรกิ ซากาอิ และ วาตารุ เอ็นโดะ โดยขายไปเพียง ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ถอนตัวออกไป เนื่องจากอยากโฟกัสกับ ลิเวอร์พูล มากกว่า

ผิดกับครั้งอื่นๆ ที่พวกเค้าใช้นักฟุตบอลในประเทศเป็นหลัก และแข้งอายุเกิน ยังไม่เคยเรียกตัวหลักของทีมชาติชุดใหญ่ มาเลยด้วยซ้ำ ส่วนครั้งนี้ก็อย่างที่ทราบ พวกเค้าเรียกกัปตันทีมชาติชุดใหญ่ รวมถึงแข้งตัวหลักอย่าง ฮิโรกิ ซากาอิ

รวมกับกองหลังตัวจริงทีมชาติอีกรายอย่าง ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ที่เป็นแข้งอายุไม่เกินโควต้า ทำให้ ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ในครั้งนี้ มีกองหลังตัวจริงจากทีมชาติชุดใหญ่ถึง 3 คน ด้วยกัน

นี้เป็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของทีมชาติญี่ปุ่น หลังฟุตบอลในรายการโอลิมปิก มีการจำกัดอายุผู้เล่น โดยให้ใช้ทีมชุด U-23 มาแข่งเป็นครั้งแรกใน โอลิมปิก ปี 1992 ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมา ในปี 1996 จะมีการอนุญาตให้นำแข้งอายุเกินมาได้ ทีมละไม่เกิน 3 คน

โดยในครั้งนี้ ญี่ปุ่น ในฐานะเจ้าภาพ อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เม็กซิโก, ฝรั่งเศส และ แอฟริกาใต้ ซึ่งแต่ละทีมไม่ได้นำผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดมา เนื่องจาก เม็กซิโก ติดภารกิจในรายการ คอนคาเคฟ โกลคัพ ส่วน ฝรั่งเศส ที่เพิ่งแข่งยูโร 2020 ก็ใกล้จะเปิดลีก ช่วงเวลาเดียวกับ โอลิมปิก ครับ

และยิ่งดูจากฟอร์มในการอุ่นเครื่อง ญี่ปุ่น สามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากตัดตัวแล้วชนะเกือบทุกนัด มีเพียงเกมที่เสมอกับ สเปน 1-1 ซึ่งฟอร์มในเกมนั้นพวกเค้าก็ทำได้ดีกว่าทาง กระทิงดุ เสียอีก

นัดแรกในเกมรอบแบ่งกลุ่ม พวกเค้าเอาชนะ แอฟริกาใต้ 1-0 จากประตูชัยของ ทาเคฟุสะ คุโบะ ความหวังใหม่ของฟุตบอลญี่ปุ่น อดีตเด็กฝึกจาก ลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า ที่ปัจจุบัน เป็นผู้เล่นของ เรอัล มาดริด

ส่วนนัดต่อมาเอาชนะ เม็กซิโก แบบไม่ยาก 2-1 เพราะพวกเค้าขึ้นนำตั้งแต่หัววัน ก่อนจะมาโดนตีตื้นให้เสียวท้องน้อยในช่วงท้ายเกม ทำให้พวกเค้าแทบจะการันตีการเข้ารอบ ขอเพียงไม่แพ้ ฝรั่งเศส ในนัดสุดท้ายก็พอ

ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เจอกับทีมชื่อชั้นสูงกว่ามากมายอย่าง ฝรั่งเศส แต่อย่างที่บอก ฝรั่งเศส ชุดนี้มาด้วยนักเตะเกรดรองทั้งสิ้น แล้วก็เป็นทาง ญี่ปุ่น ถล่มไปแบบไม่เหลือซาก เนื่องจากทาง ฝรั่งเศส ต้องเปิดเกมบุกเพื่อเอาชนะเท่านั้น

ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด พวกเค้าสามารถเก็บได้ถึง 9 แต้มเต็ม เป็นทีมเดียวในรายการ ทำให้พวกเขากลายมาเป็นตัวเต็งคว้าเหรียญทอง ในทันที

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของ ญี่ปุ่น ทุกชุดทุกสมัย คือขาดยอดดาวยิง ที่จะมาเป็นตัวความหวังในการจบสกอร์ให้กับทีม ซึ่งผู้เล่นที่เหลือก็เล่นกันตามตำรา สมกับเป็นประเทศญี่ปุ่นนั่นแหละครับ

ปัญหาที่ตามมาในรอบน็อคเอ้าท์ คือพวกเค้าแทบจะทำประตูคู่แข่งไม่ได้เลย แม้ทางเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มจะยิงได้ถึง 4 ประตู แต่นั่นก็เพราะสถานการณ์บีบบังคับของฝรั่งเศส นั่นเอง

ทำให้รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่พวกเค้าเจอกับ นิวซีแลนด์ พวกเค้าสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย โอกาสยิงทั้งเกมอาจจะเกิน 20 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ ก่อนที่จะต้องไปวัดกันที่การดวลจุดโทษ ซึ่งพวกเค้าทำได้ดีกว่า

ต่อมาในรอบรอง พวกเค้าต้องเจอกับก้างชิ้นโตอย่าง สเปน ที่ฟอร์มค่อนข้างกระท่อนกระแท่น แต่ด้วยคุณภาพผู้เล่น พวกเค้านำผู้เล่นทุกคนที่อายุไม่เกินในทีมชาติชุดใหญ่ ติดทีมชุดนี้มาด้วย หลายๆ คนก็มาเล่นในรายการนี้ต่อเลย จากที่เพิ่งเล่นรายการ ยูโร 2020 มา

เกมนี้ทาง สเปน ทำได้ดีกว่าชัดเจน ด้วยคุณภาพของนักเตะที่เหนือกว่า ทำให้ทางเจ้าภาพได้แต่ยื้อไปรอดวลจุดโทษ แต่ใจเจ้ากรรม ดันมาโดน มาร์โก อเซนซิโอ ยิงดับฟันในช่วงก่อนหมดเวลาไม่นาน ทำเอาความฝันในการคว้าเหรียญทองของเจ้าบ้านหลุดลอยไปทันที

พวกเค้าต้องมาวัดในการชิงเหรียญทองแดงกับ เม็กซิโก ที่พวกเค้าชนะมาได้ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเกมแรกทาง เม็กซิโก อาจจะมีโอกาสเยอะกว่า เนื่องจากทาง ญี่ปุ่นออกนำเร็วถึงสองประตู

เกมนี้ ญี่ปุ่น ก็พยายามมาเล่นในสไตล์ตัวเอง ตามตำราของพวกเค้า ซึ่งคราวนี้พวกเค้ากลับโดนออกนำเร็วไปก่อน ทำให้เกมนี้กลับตาลปัตร จากเกมแรกอย่างสิ้นเชิง

ซึ่งกว่าที่ ญี่ปุ่น จะปรับแท็คติก เหมือนฉีกออกจากกฎก็ปาไปช่วงท้ายเกมแล้ว สุดท้ายไม่ทันการณ์ได้ประตูคืนมาเพียงลูกเดียว ทำให้พวกเค้าอกหัก คว้าได้เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

ปัญหาของ ญี่ปุ่น หลักๆ แล้วมีไม่กี่อย่าง ซึ่งหนึ่งก็คือการตัวจบสกอร์ ซึ่งพวกเค้าเป็นแบบนี้มานานแสนนานแล้ว สองคือผู้เล่นพยายามเล่นแบบไม่เสี่ยง ทุกคนเล่นตามตำรามากเกินไปเหมือนหุ่นยนต์ ทำให้การสร้างสรรค์เกมรุก เวลาเจอกับทีมใหญ่ๆ ทำได้ไม่ดีพอ

คล้ายๆ กับทีมชาติไทย คือการที่เกือบทุกสโมสร ใช้นักเตะต่างชาติในตำแหน่งกองหน้ามากเกินไป อัตราส่วนของผู้เล่นที่ก้าวขึ้นมาจากระบบเยาวชน เทียบกับตำแหน่งอื่นแล้ว ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก

ปัจจุบันทีมชาติชุดใหญ่ของพวกเค้า มีการนำนักเตะลูกครึ่งเข้ามาติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่ที่น่าสังเกตุคือเป็นนักเตะตำแหน่งกองหน้าทั้งนั้นเลย (อโด โอไนวู, มุซาชิ ซูซูกิ)

ดังนั้นเชื่อว่า ญีปุ่น เอง น่าจะมองเห็นปัญหาตรงนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งหากพวกเค้าพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แบบนี้ รับรองว่าในอนาคตชาติใหญ่ๆ มีหนาวแน่ๆ

หลักฐานคือรายการ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ พวกเค้ากำลังส่งสารบอกชาติอื่นๆ ในโลกฟุตบอลแบบกลายๆ ว่าพวกเค้าใกล้ที่จะท้าทายพวกคุณแบบเต็มตัวแล้วนั่นเอง

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *