ฟุตบอลชายโอลิมปิก

ฟุตบอลชายโอลิมปิก รอบแบ่งกลุ่ม ก็ลงเล่นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 4 กลุ่ม ทำให้พวกเราทราบทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย โดยหนึ่งทีมที่สปอร์ตไลท์ฉายแสงมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ทีมชาติญี่ปุ่น เจ้าภาพ ที่สามารถทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยม จากการเก็บชัยชนะรวดได้ทั้ง 3 นัด

วันนี้ kickoff88 จะมาชวนคุย ถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมทัพ ซามูไรบลูส์ ถึงทำผลงานในฟุตบอลโอลิมปิก รอบแบ่งกลุ่ม ได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ตามสไตล์ เก่งหลังเกม เช่นเคย

ผลงานทีมชาติญี่ปุ่นใน ฟุตบอลชายโอลิมปิก รอบแบ่งกลุ่ม

อย่างที่เคยเรียนไปให้ทราบ ในบทความก่อนหน้านี้ ว่า ทีมชาติญี่ปุ่น ในฟุตบอลโอลิมปิก ครั้งนี้ มาแบบจัดเต็ม ผิดกับทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะพวกเค้าเลือกทีมชุดที่ดีที่สุด อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยทีมชุดนี้ขาดเพียง ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองกับ ลิเวอร์พูล จึงถอนตัวไป เพียงคนเดียว

ที่เหลือรายอื่น พวกเค้ามาด้วยทีมที่ดีที่สุด อย่างในรายของ แข้งอายุเกิน ก็จัดสามกำลังหลักใน ทีมชาติชุดใหญ่ มาแบบเบิ้มๆ คือลือ ทั้ง ฮิโรกิ ซากาอิ ที่ประสบการณ์โชคโชน ในลีกใหญ่ของยุโรป มายะ โยชิดะ กัปตันทีมชาติชุดใหญ่ และ วาตารุ เอ็นโดะ

โดยแข้งที่ ชาติเจ้าบ้าน น่าจะตั้งความหวังไว้สูงที่สุด คงหนีไม่พ้น ทาเคฟุสะ คุโบะ แข้งดาวรุ่ง พรสวรรค์สูง ที่หลายคนมองว่า นี่คือผู้เล่นที่จะพาความสำเร็จ มาสู่ทัพ ซามูไรบลูส์ ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

นั่นคือสิ่งที่ พวกเค้าแสดงออกมา ในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิก คือครั้งนี้ พวกเขามาในแบบ “จัดเต็ม” ผิดกับทุกครั้ง แปลได้ตรงตัวเลยว่า พวกเค้ามาครั้งนี้ แบบหวังเหรียญ หลังเคยได้เหรียญทองแดง ในโอลิมปิก 1968 ที่ เม็กซิโก

ยิ่งฟอร์มในการอุ่นเครื่องก่อนรายการนี้ ก็ทำได้ค่อนข้างดี โดยถล่มคู่แข่งยับเยินมาตลอด แถมการดวลกับ สเปน ก็ทำได้ดีกว่าอีกด้วย แม้จะเสมอกันในท้ายที่สุด 1-1

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือชาติอื่นๆ ไม่ได้ส่งทีมชุดที่ดีที่สุดมาเลย เพราะทั้งทีมชาติใหญ่ๆ ในยุโรป และ อเมริกาใต้ ต่างก็เพิ่งผ่าน ฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปมาเมื่อช่วงต้นเดือน ทำให้ทุกทีมไม่ได้มาด้วยชุดที่ดีที่สุด

ในรอบแบ่งกลุ่มนั้น พวกเค้าอยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับ เม็กซิโก, ฝรั่งเศส และแอฟริกาใต้ ที่ดูแล้วอาจจะไม่ใช่เกมที่ยากเท่าไหร่ เนื่องจากทั้งสามทีม ไม่ได้ขนตัวหลักจากทีมชุดใหญ่มาเลย โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส นี่มีแต่ชื่อเท่านั้น นักเตะเป็นเพียงตัวสำรองในสโมสรรองๆ ในลีกเท่านั้น

ซึ่งในเกมแรกพวกเค้าต้องเจอกับ แอฟริกาใต้ แม้อาจจะหืดอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็สามารถคว้า 3 แต้มมาได้ จากประตูชัยของ คุโบะคุง ในช่วงครึ่งหลัง ถือว่าเป็นการออกสตาร์ทได้ดีในระดับนึง

ส่วนในเกมที่สอง พวกเค้าเอาชนะ เม็กซิโก ได้ 2-1 จากสองประตูที่ได้จากช่วงต้นเกม ซึ่งลูกแรกก็เป็นฝีเท้าของ คุโบะ อีกแล้ว เท่ากับว่า ญี่ปุ่น สามารถเก็บ 6 แต้มเต็มในได้สองนัดแรก แต่ยังไม่การันตีการเข้ารอบ เนื่องจากหากแพ้ ฝรั่งเศส และ เม็กซิโก นั้นมีทีมละ 3 คะแนน

ในนัดสุดท้าย เจอกับทาง ฝรั่งเศส ที่ยังมีหวังลุ้นเข้ารอบ โดยเกมนี้ ญี่ปุ่น ของเพียงเสมอ ก็การันตีการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มทันที ซึ่งพวกเค้าทำได้ดีเกดินคาด หลังถล่มไปถึง 4-0 แบบไม่ซ้ำหน้า และทาง คุโบะ ก็เป็นคนยิงเปิดหัวให้กับทีมอีกด้วย

ทำให้ในรอบแบ่งกลุ่มนั้น พวกเค้าคว้ามา 9 แต้มเต็ม แบบเสียไปแค่ลูกเดียว ต้องยอมรับว่าสิ่งสำคัญ คือความมุ่งมั่นของพวกเค้าในฐานะเจ้าภาพ ที่ดูแล้ว แทบจะเป็นทีมเดียวในรายการที่มุ่งมั่น แบบใส่สุดเลยด้วย

เนื่องจากต้องยอมรับว่า โอลิมปิกเกมส์ 2020 นั้นเจอปัญหาจาก โควิด-19 ทำร้ายเอาซะมาก จนแทบจะเป็น มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่กร่อยพอสมควร ยิ่งในกีฬาฟุตบอล ยิ่งเห็นได้ชัด ขนาดทีมชาติใหญ่ๆ อย่าง อาร์เจนติน่า ฝรั่งเศส และ เยอรมัน พาเหรดกันตกรอบแรกทั้งหมด

ที่เขียนแบบนี้ ไม่ได้มีเจตนา “เนิฟ” ทีมชาติญี่ปุ่น แม้แต่น้อย แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ทีมอื่นๆ ไม่ได้ขนผู้เล่นชื่อดังมาเลย แม้กระทั่งชาติเล็กๆ เองก็ตาม

ซึ่งแม้ ทีมชาติบราซิล ที่น่าจะเป็นหอกข้างแคร่ หนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในรายการก็เช่นกัน แม้ในโอลิมปิกหนนี้ จะขนดาวดังมาหลายคน แต่ก็ด้วยคุณภาพของพวกเค้า ผู้เล่นรองๆ เลยดูเจ๋งกว่าทีมอื่นๆ เท่านั้นเองครับ

ยิ่งพอดูการจับสาย ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก้างชิ้นเดียวคือ สเปน เท่านั้นที่จะหยุดไม่ให้พวกเค้าเข้าชิง แต่มองตามเนื้อผ้า และฟอร์มจากรอบแบ่งกลุ่ม มีลุ้นพอสมควร ที่คู่ชิงปีนี้จะเป็น ญี่ปุ่น กับ บราซิล ที่จะแย่งเหรียญทองกันครับ

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *