เข้าใกล้ศึก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือการชิงกัน เป็นจ้าวอาเซียน กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยจะเริ่มโม่แข้ง กันในวันที่ 5 ธันวาคม นี้ ซึ่งสำหรับทีมชาติไทย หลายยุคหลายสมัย ต่างก็เน้นหนักกับรายการนี้ มากเป็นพิเศษ จนหลายคนคงคิดว่า ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน สำคัญแค่ไหน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนทำให้ ทีมชาติไทย ก้าวข้าวไม่พ้นอาเซียนซักที
วันนี้ เก่งหลังเกม ก็เลยถือโอกาส มาวิเคราะห์กันซักหน่อย ว่าฟุตบอลรายการนี้สำคัญแค่ไหน ทำไมทีมชาติไทยของเรา ถึงก้าวไม่พ้นซักที
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน สำคัญแค่ไหน ในโลกฟุตบอล
โดยทัพ ช้างศึก ปัจจุบันเตรียมตัวกันเต็มที่ ล่าสุดดีลกับ นักเตะที่ไปเล่นต่างประเทศ ทั้งสามราย อย่าง เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เจ้าอุ้ม ธีราทร บุญมาทัน และ เจ้าพี ศศลักษณ์ ไหประโคน
แม้รายหลังจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังรอการตัดสินใจ ของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย คนปัจจุบัน ว่าจะตัดสินใจยังไง ซึ่งหากเป็นชาติอื่น คงถูกตัดตัวไปแล้ว
นั่นแสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของถ้วยใบนี้ ต่อทีมชาติไทย ได้แบบเห็นภาพเลย เพราะเกือบทุกครั้ง และนายกสมาคมเกือบทุกคน ต่างเอารายการนี้ เป็นตัวชูโรง บางปีถึงกับต้องปล่อยรายการอื่น เพื่อมาเน้นรายการนี้
ซึ่งจริงๆ แล้ว ฟุตบอลรายการนี้ อาจจะต่างจาก ฟุตบอลรายการอื่นๆ แบบที่เพื่อนๆ เคยดูมา อย่าง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือฟุตบอลชิงแชมป์ทวีป รายการอื่นๆ พอสมควร
เพราะรายการนี้ ประกอบไปด้วยทีมจาก ประเทศในเขตอาเซียนเท่านั้น ไม่ได้มีความสำคัญใดๆ มากไปกว่านี้เลย ไม่ได้แม้กระทั่ง เป็นรายการทัวนาเม้นต์ ที่มีคะแนนให้เก็บแชมป์โดยเฉพาะ
แม้ทาง ฟีฟ่า จะรับรองรายการนี้ก็ตาม โดยคุณค่าของฟุตบอลรายการนี้ เทียบเท่ากับ ฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับ A หรือเป็นการเจอกันของทีมชุดใหญ่ ของแต่ละชาติก็เท่านั้น
โดยคะแนนฟีฟ่าเดย์ จะบวกลบกันตามเรต ฟุตบอลอุ่นเครื่องปกติ โดยนับเอาเป็นรายแมตช์ ซึ่งก็มีผลสำคัญ ต่อการจัดอันดับของ ฟีฟ่า อยู่ก็จริง แต่ในทุกนั้นก็เพียง ฟุตบอลอุ่นเครื่องเท่านั้น
ยิ่งชาติแต่ละชาติ ก็มีอันดับฟีฟ่า แรงค์กิ้ง ที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว การชนะทีมเหล่านี้ได้ทุกนัด ย่อมไม่ส่งผลต่ออันดับ ซักเท่าไหร่ แต่หากแพ้ขึ้นมาละก็ คะแนนร่วงกราวแน่นอน
สำหรับประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศในโซนนี้ อาจจะไม่ได้มองรายการนี้ อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นเพียงรายการ ที่ชาติเล็กๆ เจอกันเอง ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย
เทียบกับชาติชั้นนำ ในทวีปเอเชีย อย่าง ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีฟุตบอลรายการรองๆ เช่น ฟุตบอลคิริน คัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันออก (EAFF E-1 Championship) พวกเค้าไม่เอานักเตะชุดใหญ่ มาแข่งเลยด้วยซ้ำ
โดยนักเตะส่วนใหญ่ จะเป็นนักเตะเกรดรอง ที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศ รวมถึงบางราย เป็นเพียงตัวเกรดรองๆ ที่ไม่ได้มีส่วนกับเกมทีมชาติ เนื่องจากทาง ญี่ปุ่น มักมองว่า รายการพวกนี้ ควรมีไว้เพื่อ ค้นหาตัวเลือกใหม่ๆ ที่จะมาช่วยทีมชุดใหญ่ในอนาคต
อย่างรายการ เอเชี่ยน เกมส์ ที่กำหนดให้ใช้แข้งอายุไม่เกิน 23 (U-23) โดยให้นำ ผู้เล่นอายุเกินมาได้ ไม่เกิน 3 คนต่อทีม พวกเขาส่งนักเตะระดับมหาวิทยาลัย มาเล่น ผิดกับทีมชาติไทย ที่ใส่สุดทุกอย่าง
จนทีมชาติไทย ประสบปัญหา ไม่ค่อยมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้ามาติดทีมชาติมากนัก หรือพอเรียกคนใหม่ๆ มา พอมาเจอกับเกมทีมชาติ ก็ไปไม่เป็น เนื่องจากขาดประสบการณ์ กลายเป็นลูปนรกต่อไป
ล่าสุด นักเตะลูกครึ่งไทย ที่ได้อยู่กับทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อย่าง เจ้ากัน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร ก็ถูกเรียกมาเป็น 1 ใน 30 รายชื่อของทีมชาติไทย ชุดลุย ซูซูกิ คัพ 2021 ซึ่งจะเตะกันในช่วงเวลาเดียวกับ ที่ฟุตบอลลีกของประเทศอังกฤษ ลงแข่งกันอยู่
ยังพออ้างได้ ว่าเจ้าตัวเป็นนักเตะเยาวชน หรืออยู่ในชุดสำรองซะมากกว่า การดึงตัวมาเล่น ย่อมสร้างประโยชน์ให้กับเจ้าตัว สโมสร รวมถึงทีมชาติ ได้อยู่แล้ว
แต่เชื่อเถอะ ว่าหากทีมชาติไทยเรา มีนักเตะระดับโลกซักคน ก็คงถูกเรียกมาเล่น ในรายการนี้ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่ง เมสซี่ เอง ต้องขอบคุณแล้ว ที่เจ้าตัวไม่ใช่คนไทย ไม่งั้นคงถูกเรียกมาเล่น รายการในกะลาของชาติอาเซียน แม้จะค้าแข้งอยู่ในระดับท็อปสุดของโลก อย่างแน่นอน
แฟนบอลโปรไลเซนส์