แม้เรือใบสีฟ้า จะประเดิมสนามนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ต่อ สเปอร์ส 0-1 แต่เกมนั้นพวกเราก็เห็น แจ็ค เกรียลิช แข้งใหม่ป้ายแดงของพวกเค้า ประเดิมสนามในฐานะตัวจริงเป็นนัดแรก ส่วนเป้าหมายอีกรายนั้น คงหนีไม่พ้น แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ที่ยังมีปัญหาคาราคาซังกับต้นสังกัดจนถึงทุกวันนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เข้า ว่าทำไม เกรียลิช เคน ถึงเป็นสองเป้าหมายหลักของทาง แมนซิตี้ แบบที่พวกเค้าไม่มองเป้าหมายอื่น
วันนี้ Kickoff88 จะมาวิเคราะห์ให้เพื่อนๆ หายข้องใจ แบบฉบับ เก่งหลังเกม เช่นเคย เชื่อว่า บทวิเคราะห์ฟุตบอล นี้จะทำให้เพื่อนๆ หายสงสัยเลยครับ เพราะเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้อ่านแล้ว จะเข้าใจในมุมของทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบชัดเจน
ทำไม เกรียลิช เคน ถึงเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของ แมนซิตี้ ในฤดูกาลนี้
ปัจจัยแรกเลย คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งสองคนคือนักเตะหัวแถวของฟุตบอลอังกฤษ โดยผลงานของ เคน กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีกมาตลอด อาจจะมีคนที่เด่นกว่าในตำแหน่งกองหน้า เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
สองเลยคือทดแทนการจากไปของ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ได้พอดิบพอดีเลย เนื่องจากทาง กุน เพิ่งจะหมดสัญญากับทีมไป เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พวกเค้าพึ่งพา กุน ในการจบสกอร์มาโดยตลอด ดังนั้นน่าจะเป็นการอุดรอยรั่วได้ดี
ด้าน เกรียลิช เองก็สามารถพูดได้เต็มปาก ว่าแบกทีมอย่าง แอสตัน วิลล่า มาโดยตลอด โดยเฉพาะสองฤดูกาลหลัง ที่กลับมาเล่นบนลีกสูงสุด ฟอร์มของเจ้าตัวได้รับการยอมรับ ไปทั่วแผ่นดินผู้ดี ว่าคลาสบอลค่อนข้างเหนือชั้น
ซึ่งต้องบอกว่า ทั้งคู่ดีพอที่จะมาเล่นให้กับทีมอย่าง แมนซิตี้ แน่นอน โดยทาง เคน นั้นหากย้ายมา น่าจะการันตีการเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ส่วนทาง เกรียลิช ที่เล่นได้ทั้งกองกลางและตัวริมเส้น น่าจะมาเพิ่มมิติเกมรุกให้กับทีม โดยเฉพาะสกิลการเลี้ยงกินตัว เรียกว่าหายห่วง
แต่ปัจจุบัน คงเป็น แจ็ค เกรียลิช คนเดียวที่ทาง เรือใบสีฟ้า ดึงตัวมาสำเร็จ ด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้านปอนด์ ด้าน แฮร์รี่ เคน ทางต้นสังกัดอย่าง ไก่เดือยทอง เรียกค่าตัวไปถึง 150 ล้าน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวมีอายุ 28 แล้ว
เอาจริงๆ เหตุผลสำคัญที่เป้าหมายของ แมนซิตี้ เป็นทั้งคู่ น่าจะมาจากปัญหาโควต้าโฮมโกรนมากกว่า โดยปัญหานี้เป็นปัญหาที่พวกเค้า ต้องรับมืออย่างยากลำบากมาหลายฤดูกาลแล้ว
ด้วยกฎที่ว่า ทีมในพรีเมียร์ลีก สามารถเซ็นนักเตะที่ไม่ได้ถูกบ่มเพาะบนดินแดนลูกหนังผู้ดี (Non-HG) ได้ทีมละ 17 คน จาก 25 คนเท่านั้น ทำให้แต่ละทีมต้องมีผู้เล่นโฮมโกรน อย่างน้อยทีมละ 8 คน ถึงจะสามารถลงทะเบียนผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ได้ครบโควต้า
แต่ด้วยทีมที่สร้างจาก การใช้เงินทุ่มซื้อผู้เล่น รับมือกับปัญหานี้ได้ลำบาก เพราะดาวรุ่งในทีมไม่มียืน จนกลายเป็นว่า ปีก่อนพวกเค้าลงทะเบียนนักเตะได้ไม่ครบ เพราะมีผู้เล่น HG เพียง 5 รายเท่านั้น
โดยหนึ่งในนั้นคือ นาธาน อาเก้ ปราการหลังชาวฮอลแลนด์ ที่ฟอร์มไม่ค่อยดี แต่ทีมก็ซื้อตัวมาเมื่อปีก่อน ก็เพราะเจ้าตัวเป็นนักเตะที่ได้ HG ของประเทศอังกฤษนั่นเอง เพราะเจ้าตัวมาเป็นเด็กในอคาเดมี่ของ เชลซี ตั้งแต่อายุ 16-17
สังเกตุได้ว่านักเตะ ทีมชาติอังกฤษ ของ แมนซิตี้ แต่ละรายราคาแพงเหลือขนาด ไล่ตั้งแต่ ไคล์ วอร์คเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง และ จอห์น สโตนส์ เรียกได้ว่าค่าตัวประมาณ 50 ล้านปอนด์กันทั้งนั้น
ก็ด้วยพวกเขาต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้เท่านั้น เพราะนักเตะอังกฤษในปัจจุบัน ถือว่าหายากที่จะทะลุขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ ของแต่ละสโมสรบนลีกสูงสุด ยิ่งฝีเท้าที่จะดีพอที่จะเล่นให้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรียกว่านับนิ้วได้เลย
เพราะหากดู นักเตะสัญชาติอังกฤษ ที่ดีพอที่จะเล่นในระดับสูง ส่วนใหญ่ก็เล่นในทีมใหญ่ๆ อยู่แล้ว การที่จะย้ายตัวระหว่างคู่แข่งโดยตรง ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
ขนาดนักเตะเกรดรองๆ ลงไปอย่าง เบน ไวท์ ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในการเล่นระดับสูง แค่พอมีแววสมัยถูกยืมตัวไปเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยังมีค่าตัวในการย้ายทีมระดับ 50 ล้านปอนด์เลย
ส่วนทางนักเตะที่ยังพอจะอยู่ในตลาด อย่าง เดแคลน ไรซ์ ที่ต่อคิวเตรียมย้ายเข้าสู่ทีมใหญ่ ก็คงมีค่าตัวเกิน 60-70 ล้านปอนด์ เป็นแน่ ทำให้มีคำพูดติดปากในหมู่แฟนบอลว่า เป็นค่าสัญชาติ
และนี่น่าจะเป็นเหตุสำคัญที่สุด ที่พวกเค้าต้องการเซ็นสัญญา กับนักเตะทีมชาติอังกฤษทั้งคู่ ในซัมเมอร์นี้ให้ได้ แต่ต่อให้เซ็นได้ทั้งคู่ โควต้าผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ ก็ยังไม่สามารถลงให้ครบคนได้อยู่ดี
แฟนบอลโปรไลเซนส์