แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่ครั้งหน้า จะกลับไปแข่งในช่วงกลางปี

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งทวีปแอฟริกา หลังจากฟุตบอลรายการนี้ ได้เริ่มต้นแข่งขันกัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่แล้ว จนกระทั่ง แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ลงเล่นกันไป เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดย เก่งหลังเกม จะมาสรุปผล เกมนัดชิงชนะเลิศ รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พร้อมกับบทสรุปของรายการ ก่อนที่ครั้งหน้า จะเลื่อนกลับไปแข่งขันกัน ในช่วงกลางปี เหมือนเมื่อปี 2019 เพื่อให้เข้ากับปฎิทินฟุตบอลสากล

แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่ครั้งหน้า จะกลับไปแข่งในช่วงกลางปี

โดยเกมนัดชิงชนะเลิศ เป็นการเจอกันของ สองทีมเต็งของรายการ อย่าง เซเนกัล และ อียิปต์ ซึ่งทั้งสองทีม ก็ฟันฟ่าอุปสรรคมากมาย ก่อนที่จะทะลุ มาถึงรอบชิงชนะเลิศ ได้แบบหืดขึ้นคอ

ฝั่ง เซเนกัล ที่ขนสตาร์มาเต็มทีม การได้เข้าชิงชนะเลิศ ถือว่าเป็นเรื่อง ตามความคาดหมาย แถมหนที่แล้ว พวกเค้าต้องออกอกในรอบชิง ทำให้คว้าได้เพียง ตำแหน่งรองชนะเลิศ เท่านั้น หลังจากแพ้ต่อ แอลจีเรีย 0-1

ส่วนทัพ มัมมี่ เคยอกหัก คว้าเพียงรองแชมป์เช่นกัน โดยเป็นปี 2017 ที่แพ้ให้แก่ แคเมอรูน ในช่วงท้ายเกม 1-2 ส่วนในครั้งนี้ พวกเค้าดวลเป้า เอาชนะมาได้ถึงสองครั้ง คือในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และรอบรองชนะเลิศ

ทั้งสองทีม ต่างก็จัดทีมที่ดีที่สุด ลงสนามด้วยกันทั้งคู่ เพราะไม่ใส่สุดในเกมนี้ ก็ไม่รู้จะไปใส่เกมไหนแล้ว นำมาโดยสองสตาร์จาก ลิเวอร์พูล โดย เซเนกัล มี ซาดิโอ มาเน่ ส่วนทาง อียิปต์ ก็มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เช่นเดียวกัน

เริ่มเกมไปได้ไม่นาน เซเนกัล มาได้จุดโทษอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ซาลิยู ซิสส์ กระชากเข้ากรอบเขตโทษ แล้วโดน โมฮาเหม็ด อับเดลโมเนม สไลด์ร่วง กรรมการเช็ค VAR แล้วแจกจุดโษทันที

ผู้รับหน้าที่สังหาร ได้แก่ มาเน่ ที่ยิงกะเอาแรง เลยถูกทาง โมฮาเหม็ด อาบู กาบัล ที่ทัวร์นาเม้นต์นี้ เซฟมือเป็นระวิง จนแบก อียิปต์ เข้ารอบชิง เซฟไว้ได้

รูปเกมส่วนใหญ่ ก็เป็นทาง เซเนกัล ที่เหนือกว่า และหาจังหวะบุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคน รวมถึงแนวรุก มีความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ซ้ายที ขวาที

ผิดกับทาง อียิปต์ ที่เน้นไปทาง ซาลาห์ มากจนเกินไป ทำให้ง่ายต่อการดักทาง แต่ก็ต้องบอกว่า อียิปต์เชี่ยน คิงส์ ก็หาจังหวะจบได้หลายหน จากความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆ อย่างไรก็ตาม ครึ่งแรกก็ไม่มีใครทำอะไรกันได้ เสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังก็ทรงเดิม ทาง เซเนกัล ก็สลับขึ้นซ้ายที ขวาที แบ็คสองข้างเติมสูงมาก โดยเฉพาะแบ็คซ้าย อย่าง ซาลิยู ซิสส์ ที่เรียกจุดโทษให้ทีม ในช่วงต้นเกม ราวกับเป็นแท็คติกของทีม ที่เน้นขึ้นทางด้านนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาประตูของ อียิปต์ ก็ยังช่วยให้ทีมไม่เสียประตู ตั้งแต่นัดแรกมาจนนัดสุดท้าย สุดท้ายแม้ทั้งสองทีม จะหาโอกาสจบกันได้ แต่ก็ไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูของทั้งคู่ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ

โดยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก็เหมือนดูหนังม้วนเดิม ต่างกันแค่ช่วงเวลา ต้องบอกว่า อาบู กาบัล น่าจะแจ้งเกิดเต็มตัว ให้โลกฟุตบอลได้เห็น หลังยันให้ทีมไม่แพ้ใครเวลาปกติ ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด

คนแรกของ เซเนกัล อย่าง คาลิดู คูลิบาลี่ ยิงไปทางซ้ายมือตัวเอง โดยทาง อาบู กาบัล พุ่งถูกทาง แต่ปัดไม่พ้น ทำให้ เซเนกัล ขึ้นนไปก่อน 1-0

คนแรกของ อียิปต์ อย่าง อาเหม็ด ซาเยด ก็ยิงไม่พลาดเช่นกัน ทำให้สกอร์กลับมาอยู่ที่ 1-1

คนที่สองของ เซเนกัล อย่าง อับดุล ดิยาโล่ ยิงไปทางซ้ายมือตัวเองเช่นกัน และทาง อาบู กาบัล ก็พุ่งถูกทางอีก แต่ปัดไม่ถึง สกอร์ไปที่ 2-1

คนที่สองของ อียิปต์ อย่าง โมฮาเหม็ด อับเดลโมเนม ยิงไปชนเสาทางด้านซ้าย แม้ทาง เมนดี้จะพุ่งผิดทาง แต่บอลโดนเหลี่ยมนอก เลยกระเด้งออก ตอนนี้ มันมี่ ตกเป็นรองแล้ว

คนที่สามของ เซเนกัล อย่าง บูน่า ซารร์ ยิงไปทางเดียวกัน แต่ไม่มุมพอ เลยโดนเซฟไว้ได้ สกอร์ยังหยุดอยู่ที่ 2-1

คนที่สามของ อียิปต์ เป็น มาร์ฮวาน แฮมดี้ ยิงไปทางซ้ายมือของตัวเองแบบนิ่มๆ แต่ เมนดี้ พุ่งไปผิดทาง สกอร์เลยกลับมาเสมอกันที่ 2-2 หลังยิงไปทีมละ 3 คน

คนที่สี่ของ เซเนกัล เป็นทาง บัมบ้า เดียง ยิงไปทางซ้ายมือเหมือนเพื่อนๆ แต่เน้นโด่ง ส่วนทาง อาบู กาบัล ที่พุ่งถูกทางมาตลอด หนนี้เปลี่ยนทิศบ้าง เลยหมดสิทธิ์เซฟ สกอร์ขยับไปเป็น 3-2

คนที่สี่ของ อียิปต์ ให้ทาง โมฮานาด ลาชีน เป็นคนยิง แต่ยิงทั้งกลางประตู ตั้งเรียดพื้น เลยโดน เมนดี้ เซฟได้แบบชิลๆ

คนที่ห้าของ เซเนกัล รับหน้าที่สังหารโดย ซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงจุดโทษในเกมพลาด มาครั้งนี้ ยิงไปทางซ้ายมือตัวเองเช่นกัน บอลเสียบมุมเข้าแบบไป หมดสิทธิ์ที่ อาบู กาบัล จะเซฟถึง ทั้งๆ ที่พุ่งถูกทาง

ทำให้ทาง เซเนกัล คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์ 4-2 สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ไปครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ หลังเคยคว้ารองแชมป์มาถึงสองหน

ซึ่งในครั้งต่อไป ฟุตบอลรายการนี้ จะกลับไปแข่งในช่วงกลางปี เพื่อปรับปฏิทินการแข่งขัน ให้เข้ากับโซนยุโรป เพราะปัจจุบัน นักเตะดังๆ ส่วนใหญ่ของแอฟริกา ต่างก็ไปค้าแข้งในยุโรปทั้งหมด

ดังนั้นแฟนบอลทั้งหลาย ไม่ต้องห่วงว่านักเตะของตัวเอง จะพลาดการรับใช้สโมสร ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวา อย่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ กันอีก อย่างน้อยๆ ก็อีกหลายปีครับ

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *