ความชื่นชอบของแฟนบอลต่อเจ้าของทีม บอกอะไรเราได้บ้าง

มีข่าวฟุตบอล ข่าวนึงที่น่าสนใจ ในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นข่าว ความชื่นชอบของแฟนบอลต่อเจ้าของทีม สำหรับทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งแต่ละทีม ก็มากน้อยต่างกันไป โดยไม่ได้วัดกันที่อันดับทีม เป็นหลัก จึงทำให้เห็นว่า ทีมหัวตารางบางทีม จมอยู่ในอันดับท้ายๆ

วันนี้ เก่งหลังเกม เลยจะลองมาชวนเพื่อนๆ คุย เกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ว่า ความชื่นชอบของเหล่าแฟนบอล ต่อเจ้าของทีมของพวกเขา สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง

ความชื่นชอบของแฟนบอลต่อเจ้าของทีม บอกอะไรเราได้บ้าง

1. เบรนท์ฟอร์ด : 98.8%

2. ลีดส์ ยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า : 98.3%

4. ไบรท์ตัน แอนด์ โฮลฟ์ อัลเบี้ยน : 98%

5. เลสเตอร์ : 97.9%

6. คริสตัล พาเลซ : 95.7%

7. เชลซี : 92.5%

8. วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส : 92.4%

9. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 90.5%

10. ลิเวอร์พูล : 88.6%

11. นอริช ซิตี้ : 83%

12. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : 76.3%

13. วัตฟอร์ด, เบิร์นลี่ย์ : 69.8%

15. เซาธ์แฮมป์ตัน : 47.4%

16. อาร์เซน่อล : 30.3%

17. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : 15.1%

18. เอฟเวอร์ตัน : 14.2%

19. นิวคาสเซิ่ล : 10.9%

20. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 4.04%

อย่างทีมในโซนแรก พูดถึงกลุ่มที่ แฟนบอลค่อนข้างรัก กันก่อนเลย โดยในกลุ่มนี้ มีหลายทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา และยังเป็นทีมระดับกลาง ไม่ใช่ขาประจำลุ้นแชมป์ หรือลุ้นโควต้าฟุตบอลยุโรป

อาจจะยกเว้นทีมเดียว คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องยอมรับว่า กลุ่มคิงพาวเวอร์ ที่นำโดยตระกูล ศรีวัฒนประภา เข้ามาเปลี่ยน จิ้งจอกสีน้ำเงิน จากหน้ามือเป็นหลังมือ สามารถยกระดับทีม ได้อย่างชัดเจน

ผลงานสำคัญ คือการพาทีมเลื่อนชั้น รวมถึงสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2015-2016 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของสโมสรอีกด้วย

และล่าสุดในปีที่แล้ว พวกเขาคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แม้ในปีนี้ผลงานของทีม จะดรอปลงก็ตาม แต่พวกเขาก็มาไกล จากที่เคยอยู่ใน ดิวิชั่นล่างๆ มาเป็นเวลากว่า 10 ปี

ส่วนทีมอื่นๆ อย่าง เบรนท์ฟอร์ด ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า แต่เดิมก็เคยอยู่ ในดิวิชั่นล่างๆ เช่นเดียวกัน แต่การมาของเจ้าของสโมสรใหม่ ทำให้พวกเขา พลิกฟื้นขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุด

ส่วนทีมระดับรองลงมา อย่าง คริสตัล พาเลซ เชลซี วูล์ฟแฮมป์ตัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต่างก็ยกระดับทีม ได้อย่างชัดเจน หลังเปลี่ยนเจ้าของใหม่

โดยเฉพาะสามทีม อย่าง สิงโตน้ำเงินคราม เรือใบสีฟ้า และ หงส์แดง ที่ต่างแย่งชิง ความเป็นหนึ่งในวงการฟุตบอลอังกฤษ และในระดับยุโรป ซึ่งต้องบอกว่า การมาของเจ้าของใหม่ ยกระดับพวกเขาชัดเจน

แม้ทาง เชลซี จะเจอกับวิกฤติ หลังจากโดนลูกหลง จากกรณี สงคราม รัสเซีย-ยูเครน จนมีการแซงชั่น ทำให้ โรมัน อับราโมวิช ต้องถูกบีบให้ขายสโมสร แต่เชื่อว่าผลงานของ เสี่ยหมี จะอยู่ในใจแฟนบอล ตลอดไป

ซึ่งสามทีมนี้ อาจจะมีแผลเดียว ที่กวนใจแฟนบอล นั่นคือการเข้าร่วม ในการจัดตั้ง ซูเปอร์ลีก ที่สุดท้ายก็ต้องถอนตัวออกไป หลังจากถูกกดดันอย่างหนัก จากเหล่าแฟนบอลของตัวเอง อย่างหนักหน่วง

ทีมรองๆ ลงมา อย่าง นอริช ซิตี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วัตฟอร์ด และเบิร์นลี่ย์ เรียกว่าทรงๆ ซะมากกว่า เพราะทีมเหล่านี้ ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฎ

ไล่ลงมาตั้งแต่ เซาแธมป์ตัน แม้จะฉุดทีมขึ้นมาจากนรก แต่พฤติกรรมที่ชอบขายตัวหลัก อยู่เป็นประจำ ทำให้แฟนบอลอาจจะมองว่า เหล่าผู้บริหารเห็นแก่เงิน ทำให้ทีมไม่พัฒนาเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่มีต้นทุนค่อนข้างดี

ส่วน อาร์เซน่อล ผู้บริหารของทีม เคยเป็นเป้าให้แฟนบอล ด่าเช้าด่าเย็น แต่อาศัยช่วงหลัง ที่ลูกชายเริ่มเข้ามาดูแล ทำให้ทีมเริ่มทุ่มเงินมากขึ้น จนน่าจะมีส่วน ให้เปอร์เซ็นต์ที่ออกมา ดูดีกว่าที่คิด

กลุ่มล่างอย่าง เวสต์แฮม เอฟเวอร์ตัน และนิวคาสเซิ่ล ขึ้นชื่อเรื่องบริหารห่วย แถมมูฟแต่ละอย่าง ของเจ้าของทีม ไม่เคยทำให้แฟนบอลประทับใจ แต่ในส่วนของ สาลิกาดง นั้น ต้องเรียนให้ทราบว่า เป็นคะแนนสำหรับ เจ้าของเก่า อย่าง เฮียตือ ไมค์ แอชลีย์

ปิดท้ายด้วย ยอดทีมแห่งเมืองแมน โดยแฟนบอลของ ปีศาจแดง น่าจะเห็นตรงกันเกือบหมด ว่าผู้บริหารของทีม ล้มเหลวแค่ไหน กับการบริหารทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พร้อมทุกอย่าง

แต่ปัจจุบัน พวกเขาห่างจาก คำว่าประสบความสำเร็จ มากพอสมควร แถมแต่ละอย่าง ก็มาจากการบริหารที่ผิดพลาด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนมีข่าวแฟนบอลขับไล่ เหล่าเจ้าของทีม อยู่ทุกฤดูกาล

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *