คาราบาว คัพ 2021 รอบชิงชนะเลิศ กับถ้วยแรกอย่างเป็นทางการของฟุตบอลอังกฤษ

วันนี้พวกเราพาเพื่อนๆ ทุกคน ไปสรุปผลฟุตบอล คาราบาว คัพ 2021 รอบชิงชนะเลิศ หลังจากเกมนัดชิงระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ลงเล่นไปเป็นที่เรียบร้อย ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งต้องบอกเลยว่า บอลคู่นี้เป็นบอลระดับ 5 ดาว อย่างแท้จริง

โดย เก่งหลังเกม จะมาสรุปผลฟุตบอล นัดชิงชนะเลิศ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา เช่นเคย

คาราบาว คัพ 2021 รอบชิงชนะเลิศ กับถ้วยแรกอย่างเป็นทางการ ของฟุตบอลอังกฤษ

แน่นอนว่าฟุตบอลระดับนี้ ทั้งสองทีมใส่เต็นกันทั้งคู่ โดยทาง มุมน้ำเงิน ส่งชุดที่ดีที่สุดลงเล่น โดยเน้นนักเตะ จากชุดที่พวกเขา เจอกับ ลิเวอร์พูล ในเกมลีก ที่เสมอกันไป 2-2 ขนาดผู้รักษาประตู ยังใช้ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม

ด้านมุมแดง มาด้วยชุดใหญ่เช่นกัน นอกจากตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่เกมนี้ ให้โอกาส ควีวีน เคเลเฮอร์ ที่ลงในถ้วยนี้เป็นประจำ แต่น่าเสียดาย ที่ช่วงวอร์มอัพ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ดันไปเจ็บซะก่อน เลยเป็นโอกาสของ นาบี เกอิต้า ได้ออกสตาร์ท

ต้นเกมเป็นฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ทำได้ดีกว่า อาศัยการบุกเข้าใส่ ด้วยบอลทะลุช่อง และได้ทักทายก่อน จาก คริสเตียน พูลิซิซ แต่บอลไปตรงตัว เคเลเฮอร์ เซฟช่วยชีวิตฝั่งมุมแดงเอาไว้ แบบหวุดหวิด

ก่อนที่ หงส์แดง จะเกือบมาได้ประตูนำ แบบใกล้เคียงสุดๆ จากจังหวะยิงของ นาบี เกอิต้า แล้ว เมนดี้ ปัดไม่ดี บอลมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ที่ได้ซ้ำจ่อๆ แต่ก็โดนผู้รักษาประตู เพื่อนร่วมชาติ ตะกายมาเซฟลูกยิงจ่อๆ ได้แบบเหลือเชื่อ

หลังจากนั้น รูปเกมก็เป็นของฝั่งมุมแดง แบบค่อนข้างชัดเจน ทำให้ทางมุมน้ำเงิน ต้องอาศัยการสวนกลับเร็ว แต่การพยายามเอาชนะ กับดักล้ำหน้า ด้วยการใช้ผู้เล่นไม่กี่คน แต่ก็ถือว่าได้ลุ้นครับ เพราะมีโอกาสจบแบบจ่อๆ จาก เมสัน เมาท์ แต่บอลดันไม่ตรงกรอบ

เริ่มครึ่งหลัง ในช่วงแรก เชลซี ยังพอได้หืออืออยู่บ้าง แต่พอทาง ลิเวอร์พูล ตั้งหลักได้ พวกเขาก็เป็นฝ่ายครองเกมได้อีกเช่นเคย ซึ่งแน่นอนว่า สิงห์ไฮโซ เองก็ทำได้ดี โดยเฉพาะในเกมแดนกลาง ที่มี ก็องเต้ และ โควาซิส ทำให้ภาระ ไม่ไปตกที่กองหลังมากนัก

โดยทาง หงส์แดง เน้นเจาะทางด้านซ้าย โดยขึ้นบอลทางฝั่ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ หลุยส์ ดิอาซ มากเป็นพิเศษ เนื่องจากทะลวงทาง ชาโลบาห์ ถือว่าเป็นงานง่ายกว่าอีกด้าน ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แทบจะไม่ผ่าน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ได้เลย ตลอดทั้งเกม

ซึ่งทางฝั่ง เชลซี คนที่น่าผิดหวังซักหน่อย คงเป็น เมสัน เมาท์ ที่เกมนี้ได้โอกาสจ่อๆ หลายหน แต่ดันจบไม่ลงซักประตู ส่วนทาง ลิเวอร์พูล ก็มี โม ซาลาห์ ที่ได้โอกาสหลุดเดี่ยว แต่ดันชิพซะเบาหยอง แถมบอลก็ไม่น่าตรงกรอบอีกด้วย

ก่อนที่ฝั่งมุมแดง จะมาใกล้เคียงสุดๆ ก็จากจังหวะฟรีคิกลูกสูตร ที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ หยอดไปให้กับ มาเน่ โหม่งตั้งกลับมาให้ โจเอล มาติป ได้โหม่งจ่อๆ เข้าประตูไป แต่กรรมการดู VAR แล้วดันจับล้ำหน้า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ตัวไปสกรีน รีซ เจมส์ ไว้

หลังจากนั้นสองทีม ก็สู้กันได้อย่างสนุก ไค ฮาเวิร์ตซ์ ได้โหม่งบอลผ่านเส้นประตู แต่โดนกรรมการจับล้ำหน้า ส่วนทาง หงส์แดง ที่ได้โอกาสยิงเป็นพายุ แถมแต่ละลูกค่อนข้างใกล้เคียง แต่ดันชายที่ชื่อ เมนดี้ ป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ

เกมนี้มีเรื่องแปลกอย่างนึงคือ การเปลี่ยนตัวของทั้งสองทีม ทำให้เกมดูดรอปลง ด้วยกันทั้งคู่เลย โดยทาง เชลซี เปลี่ยนแนวรุกยกทีม กลายเป็นบอลสวนกลับ ลดความน่ากลัวลงไป เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่เกมขาดความไหลลื่น จนในช่วงต่อเวลา ดูน่าเบื่อพอสมควร

แม้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ สิงโตน้ำเงินคราม จะได้โอกาสส่งบอลไปนอนก้นตาข่าย ถึงสองครั้ง แต่ก็ต้องชม แนวรับของ หงส์แดง ที่ดักล้ำหน้าไว้ได้ตลอด ทำให้ 120 นาที ไม่มีสกอร์เกิดขึ้นแบบน่าเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ มีโอกาสทำประตูกันมากมาย

ในการดวลจุดโทษ เชลซี ส่ง เกป้า อาร์ริซาบาลากา ลงมาทำหน้าที่แทน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้ 10/10 ไม่หักแม้แต่น้อย หลังเคยทำได้ผล ในเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่พวกเขาเอาชนะ บียาร์เรอัล ในการดวลจุดโทษ

โดยการดวลจุดโทษ ผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์ของทั้งคู่ ต่างก็ยิงเข้าทั้งหมด ฝ่ายละ 10 คน ทำให้ต้องถึงคิวผู้รักษาประตู ที่จะต้องรับหน้าที่เป็นคนที่ 11 นั่นเอง

เริ่มจาก ควีวิน เคเลเฮอร์ ไม่เสียเชื่อกองหน้าเก่า ยิงเข้าไปทางซ้ายมือของตัวเอง ได้แบบงดงาม ทำให้ความกดดัน ไปตกอยู่ที่ เกปา อย่างเสียไม่ได้ ซึ่งพอถึงคิวเจ้าตัว ดันยิงข้ามคานไปไกลแบบไม่ได้ลุ้น ทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะไปในการดวลจุดโทษ 10-11 คว้าแชมป์ไปครอง

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *