ขึ้นชื่อว่าอาชีพกุนซือ การได้คุมทีมใหญ่ๆ ย่อมเป็นเป้าหมายของทุกคน ด้วยเหตุผลง่ายๆ ด้วยปัจจัยทางงบประมาณ แต่ก็แลกมาด้วย ความคาดหวังระดับสูง แต่การ คุมทีมเล็ก ข้อดี ก็มีอยู่เช่นกัน ไม่อย่างนั้นกุนซือหลายคน ไม่ยอมลดระดับตัวเอง จากที่เคยคุมทีมใหญ่ มาคุมทีมเล็กๆ ในลีกต่างๆ
โดย เก่งหลังเกม จะลองมาวิเคราะห์ ว่าการคุมทีมเล็ก มีข้อดีอะไรบ้าง ทำไมกุนซือหลายคน ยอมลดระดับตัวเอง ลงมาคุม
คุมทีมเล็ก ข้อดี มีอะไรบ้าง ทำไมกุนซือหลายคน ยอมลดระดับตัวเอง
ต้องยอมรับก่อน ว่ากุนซือทุกคน ย่อมอยากคุมทีมใหญ่ ที่มีงบประมาณเยอะๆ มีนักเตะดังๆ มีสนามใหญ่ๆ ที่รองรับแฟนบอลได้มาก หรือเปรียบง่ายๆ ว่า ทุกคนมีเป้าหมาย ในการคุมบิ๊กทีมนั่นเอง
แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่จะได้คุมทีมใหญ่กันหมด เนื่องจากแต่ละลีก มักจะมีทีมหัวแถม ไม่กี่ทีมเท่านั้น เรียกง่ายๆ ว่า ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนใหญ่ๆ เลยจะเป็นทีมระดับรองลงมา
ซึ่งการคุมทีมเล็กเอง ก็มีข้อดีในแบบของตัวเองเช่นกัน แม้จะเป็นทีมที่ไม่ได้งบเยอะ หรือไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐาน ที่พร้อมพอจะเทียบเคียงกับ ทีมใหญ่ๆ ที่ได้ลุ้นแชมป์กันอยู่ทุกปี
อย่างแรกเลย คือความคาดหวังของทีม โดยปกติแล้ว หากเป็นทีมใหญ่ๆ บอร์ดบริหารของทีม รวมถึงเหล่าแฟนบอล ย่อมคาดหวังว่าทีมของตน จะคว้าแชมป์ในบั้นปลายฤดูกาล หากไม่เป็นดังหวัง ย่อมถูถาโถม จากทั่วสารทิศ
ส่วนทีมรองลงมา ส่วนใหญ่เลย เป้าหมายหลักของทุกทีม คือการอยู่รอดปลอดภัย บนลีกสูงสุด หรือหากเป็นทีม ในดิวิชั่นรองลงมา ก็คาดหวังว่า จะขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุด เข้าซักวัน
ดังนั้น ความกดดัน ที่จะคอยถาโถมเข้ามา หากเป็นทีมเล็ก ก็ต้องบอกว่า ความกดดันนั้น มีน้อยตามไปด้วย ถ้าไม่คุมทีมได้ไร้ทรง จนเกินไป มักจะไม่ถูกกดดัน จากทั้งแฟนบอล และเหล่าผู้บริหาร
ทำให้ความเสี่ยง ในการตกงาน ก็ถือว่าน้อยมากเช่นกัน จึงได้เห็นว่า เหล่าทีมกลางตาราง อาจจะไม่ได้มีการ เปลี่ยนตัวกุนซือ กันบ่อยเท่าไหร่ ยกเว้นแต่เจอสถานการณ์ ต้องหนีตกชั้น ตรงนี้อาจจะมีการเปลี่ยนกุนซือ เพื่อเอาตัวรอดไปก่อน
อย่างปัจจุบัน เราจะเห็นได้ กุนซือชื่อดังอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เคยคุมแต่ทีมระดับลุ้นแชมป์ เปลี่ยนไปคุมทีม อย่าง โรม่า หรือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ โอกาสลุ้นแชมป์ มีไม่เท่าทีมเดิมๆ ในประวัติการคุมทีม ของเจ้าตัว
เพราะการไปคุมทีม ในระดับเล็กลง ย่อมทำให้ความกดดัน นั้นน้อยลงไปด้วย แถมอำนาจในมือของเจ้าตัว อาจจะมีมากกว่าเดิม หากเทียบกับเวลาคุมทีมใหญ่ๆ เพราะเหล่าบิ๊กทีม มักจะมีทีมงานมากมาย เพื่อช่วยแชร์หน้าที่
ทำให้ตัวกุนซือใหญ่ อาจจะไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาด ในทุกๆ เรื่อง แต่พอเหล่ากุนซือชื่อดัง อย่างที่ว่ามา ลดระดับของตัวเอง ลงไปคุมทีม มักจะได้อำนาจ การคุมทีมแบบเบ็ดเสร็จ หรือไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
นี่ก็เป็นข้อดีอีกอย่าง ที่ทำให้กุนซือชื่อดังหลายคน ยอมลงไปคุมทีมที่เล็กลง แต่สามารถสร้างทีมอย่างที่ตัวเองต้องการ ได้เป็นตัวของตัวเอง มากกว่าเวลาที่คุมทีมใหญ่ แล้วมีคนต่างๆ คอยมาคานอำนาจกัน
อย่างในเคสของ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่พักหลังๆ ไม่ค่อยได้คุมทีมใหญ่ จะได้คุมแต่ทีมระดับรองๆ ลงมา โดยปัจจุบัน ก็ไปคุมทีม เอฟเวอร์ตัน ที่อยู่ในช่วงรัดเข็มขัด ไม่ได้มีงบประมาณมากมาย เหมือนกับปีที่ผ่านๆ มา
นั่นก็ด้วยเจ้าตัวแยกทางกับ ต้นสังกัดเดิม ในศึก ไชนีส ซุเปอร์ลีก จากปัญหาโควิด เมื่อช่วงต้นปี แล้วกลับมารับงานในประเทศอังกฤษ และเป็นเมืองลิเวอร์พูล ที่เจ้าตัวยังมีบ้านเดิมอยู่ ตั้งแต่สมัยคุมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อสิบกว่าปีก่อน
ซึ่งก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ที่เรียกว่า เหตุผลทางครอบครัว ได้กลับมาอยู่ในที่ๆ คุ้นเคย ในเมืองที่ครอบครัว เคยชินกับการใช้ชีวิต แม้จะเป็นทีมในระดับเล็กลงมา แต่ก็ไม่แย่ ถ้าเทียบกับการไม่มีงานทำ
หรือจะเป็นในเคสของ เดวิด มอยส์ ที่เคยล้มเหลวไม่เป็นท่า สมัยที่ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ปัจจุบัน เดอะ จีเนียส สามารถพา ขุนค้อน ติดลมบน ปีนี้ก็ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป
ด้วยการคุมทีมทีมใหญ่ มักจะเจอกับคู่แข่งที่มาตั้งรับอยู่บ่อยๆ ทำให้กุนซือที่ไม่คุ้นชิน กับแท็คติกเกมบุก อาจจะเจอกับปัญหา ซึ่งพอมาคุมทีมเล็กลง กลับได้เจอกับเกมที่เปิดมากขึ้น กุนซือบางคนก็ชอบใจใหญ่ เนื่องจากเข้าทางสไตล์บอลสวนกลับอยู่แล้ว
และนั่นก็คือตัวอย่างเหตุผล ที่ทำไมกุนซือหลายคน อาจจะมีความสุขมากกว่า ในการคุมทีมระดับรองลงมา ไม่ใช่ทีมใหญ่ๆ ที่แม้จะได้ลุ้นแชมป์ทุกปี แต่ก็ต้องลุ้นไปในเวลาเดียวกัน ว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะถูกไล่ออกรึเปล่า