คุมทีมใหญ่ ข้อดี มากแค่ไหน หากเทียบความเสี่ยงในการตกงาน

เรียกว่าเป็น ความฝันของกุนซือส่วนใหญ่ ที่ต้องการคุมสโมสรบิ๊กทีม ที่มีคุณภาพสูง มีความพร้อมมากมาย ทั้งในสนามและนอกสนาม เพราะการ คุมทีมใหญ่ ข้อดี นั้นมีมากมาย ที่แม้จะมีความเสี่ยง ในการตกงานมากกว่า ก็ตามที

โดย เก่งหลังเกม จะมาชวนเพื่อนๆ วิเคราะห์ข้อดี ของการได้คุมสโมสรใหญ่ๆ ว่ามีมากมายแค่ไหน ทำไมกุนซือหลายคนถึงต้องการคุมทีม แม้จะแลกมาด้วยความเสี่ยง ที่จะตกงานง่ายมากขึ้นก็ตาม

คุมทีมใหญ่ ข้อดี มากแค่ไหน หากเทียบความเสี่ยงในการตกงาน

หากพูดว่า เป้าหมายของในอาชีพกุนซือ ของทุกคน คือการได้คุมทีมใหญ่ ที่มีความพร้อมมากมาย ก็ไม่ผิดเท่าไหร่ เพราะการได้คุมสโมสรระดับท็อป ถือว่าเป็นความก้าวหน้า ในอาชีพกุนซือ ทั้งผลตอบแทน รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของทีม

ทำให้กุนซือบางราย ยอมเสี่ยงทิ้งงานเก่า เพื่อไปคุมทีม ในระดับที่ใหญ่กว่าเดิม ด้วยต้องการพิสูจน์ตัวเอง รวมถึงคว้าโอกาส ในการคุมทีมใหญ่ๆ เพื่อเพิ่มชื่อเสียง และเป็นเกียรติแก่โปรไฟล์ของตน

แต่การก้าวขึ้น ไปคุมทีมใหญ่ๆ นั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายเสมอไป บางรายยกระดับตัวเอง ขึ้นไปคุมทีมใหญ่ๆ กลับตกม้าตายไม่เป็นท่า จนสุดท้ายก็ต้องกลับมาคุมทีมระดับเดิม หรือเล็กลง

ซึ่งแน่นอนว่า การคุมสโมสรใหญ่ๆ ย่อมมีข้อดี มากมาย จนทำให้กุนซือเหล่านั้น ยอมเสี่ยงตกงาน ก้าวขึ้นไปคุมทีม ในระดับที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่า จะทำผลงานออกมาหน้าไหน

ข้อดี อย่างแรกเลย ต้องบอกว่าการคุมทีมใหญ่ๆ ย่อมตามมาด้วยค่าตอบแทน ที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะทีมใหญ่ๆ เหล่านี้ ย่อมจ่ายค่าแรงให้ กุนซือของพวกเค้า ในระดับที่สูง เป็นอันดับต้นๆ ของลีกอยู่แล้ว

ตามมาด้วย งบประมาณ ในการทำทีม ย่อมสูงตามไปเสมอ ด้วยรายได้ของสโมสรใหญ่ๆ มักจะได้มากกว่า สโมสรอื่นๆ ในลีกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากทีมใหญ่ๆ มักจะมีงบประมาณสูงๆ มาจับจ่ายใช้สอย กันอยู่เป็นปกติ นั่นเอง

ยกเว้นว่า สโมสรอื่นๆ จะมีเจ้าของรวยๆ รอเปย์ไม่อั้น ตัวอย่างก็เป็น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่มีเจ้าของระดับสุลต่าน แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นเพียง ทีมระดับกลางตาราง ที่รอวันผงาด เพียงต้องใช้เวลา

โดยทีมใหญ่ๆ นั้น มักจะคอยซื้อนักเตะดีๆ จากทีมในระดับเล็ก เป็นเรื่องธรรมดาของโลกฟุตบอล เหมือนกับ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นั่นเอง ทำให้การคุมทีมเล็กบางทีแล้ว จะต้องมาเสียนักเตะตัวหลัก หรือนักเตะฝีเท้าดี ให้กับทีมหัวตาราง อยู่ตลอด

ทำให้การคุมทีมใหญ่ๆ มักจะมีโอกาส ได้ใช้งานนักเตะฝีเท้าดี หรือนักเตะชื่อดังอยู่ตลอด ต่างจากการคุมทีมเล็ก หรือทีมกลางตาราง ที่พอมีนักเตะดีๆ แจ้งเกิดขึ้นมา ก็จะถูกทีมใหญ่ดูดตัวไป อยู่เป็นประจำ

เพราะนักเตะดีๆ ส่วนใหญ่แล้ว มักจะอยู่กับทีมใหญ่ๆ ที่ได้ลุ้นแชมป์ หรือได้ลุ้นไปเล่นฟุตบอล รายการใหญ่ๆ กันอยู่แล้ว อย่างรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นักเตะบางราย ยอมย้ายทีมหนี เพื่อให้ได้โอกาสไปเล่น

ขนาดเทียบกับทีมใหญ่ด้วยกัน บางรายยังย้ายไปอยู่ กับทีมใหญ่กว่า ตัวอย่างมีให้เห็น กันเป็นประจำ ในลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน ซึ่งนักเตะดังๆ ของทีมลุ้นแชมป์ อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แอร์เบ ไลป์ซิก ต่างก็ย้ายมาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค กันจนนับไม่ถ้วย

ตัวอย่าง เคสของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายออกจาก เสือเหลือง ไปอยู่กับ เสือใต้ ด้วยเหตุผล ที่ต้องการคว้าแชมป์ เพราะทาง ดอร์ทมุนด์ นั้นตอบโจทย์ของเจ้าตัวไม่ได้

แม้กระทั่งกุนซือ อย่าง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ที่เคยคุม ไลป์ซิก แย่งแชมป์กับทาง บาเยิร์น ล่าสุดก็ยังย้ายมาอยู่กับ เสือใต้ เพราะต้องการความก้าวหน้า ในอาชีพกุนซือ

หรือแม้กระทั่ง ต้นทุนในระดับเยาวชน ทีมอย่าง บาร์เซโลน่า หรือ เชลซี ที่เคยประสบปัญหา ไม่สามารถเสริมผู้เล่นได้ ก็ถือโอกาสดันผู้เล่น จากทีมชุดเยาวชน จนกลายมาเป็นตัวหลักได้หลายราย

ด้วยทีมใหญ่ๆ พวกนี้ มักจะมีระดับเยาวชนที่แข็งแกร่ง สามารถผลิตนักเตะฝีเท้าดีได้มากมาย แต่ช่วงปกติ นักเตะเหล่านั้น ไม่สามารถได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากยากที่จะเบียดตัวหลักของทีมชุดใหญ่

ดูจากทีมชุดปัจจุบันของ ชาบี เอร์นานเดซ ที่ขนเด็กจาชุดเยาวชน ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง มากมาย อาจจะเป็น เรื่องดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในเรื่องร้ายๆ เพราะ บาร์เซโลน่า เคยประสบความสำเร็จสูงสุด ก็ด้วยผู้เล่นจากชุดเยาวชน ของพวกเค้านั่นเอง

สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เพราะการคุมทีมใหญ่ๆ มีข้อดีอีกมากมาย ทั้งโอกาสคว้าโทรฟี่ ประดับบารมี ทั้งการได้ยกย่อง ในโลกของฟุตบอล ทั้งหมดทั้งมวล ทำให้เป้าหมายของกุนซือทุกคน ก็ต้องการที่จะคุมเหล่ายอดทีม ที่มีเพียงหยิบมือเดียว ในการแข่งขันทุกๆ รายการ

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *