เชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน น่าจะเห็นตรงกันว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กำลังอยู่ในฟอร์มสุดยอด แบบเอาอะไรมาก็ฉุดไม่อยู่ กลายเป็นแข้งประวัติศาสตร์ อีกทั้งทำประตู และแอสซิสต์ แบบถล่มทลาย ด้วยสัญญาปัจจุบัน จะหมดลงในปี 2023 แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เห็น หงส์แดง ต่อสัญญา ซาลาห์ ซักที
วันนี้ เก่งหลังเกม จะลองมาวิเคราะห์ ว่าทาง ลิเวอร์พูล ติดขัดอะไรตรงไหน ทำไมพวกเขา ถึงยังไม่ต่อสัญญากับ อียิปเชี่ยน คิงส์ ซักที
ต่อสัญญา ซาลาห์ มันมีปัญหาตรงไหน ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงไม่รีบต่อสัญญา
เกริ่นกันซักหน่อย ปกติแล้วสโมสรฟุตบอล จะต่อสัญญากับนักเตะตัวหลัก ก่อนที่สัญญาปัจจุบันจะหมดลง ประมาณ 2 ปี เป็นอย่างน้อย เพราะยิ่งปล่อยให้สัญญา เหลือปีสุดท้าย มักจะทำให้อำนาจการต่อรองของสโมสร ลดน้อยลงตามไปด้วย
ซึ่งสัญญาล่าสุดของ ปีกยาแก้ปวด ถูกเซ็นในปี 2018 เป็นระยะเวลา 5 ปี นั่นเท่ากับเหลืออายุสัญญา อีกเพียง 2 ปีเท่านั้น (นับปีปัจจุบัน) หากทาง หงส์แดง ยังไม่ต่อสัญญาภายในฤดูกาลนี้ เท่ากับว่าจะปล่อยให้ ซาลาห์ เข้าสู่สัญญาปีสุดท้ายกับสโมสร
เรื่องฝีเท้าคงไม่ต้องพูด ยิ่งปัจจุบันเจ้าตัวเริ่มปรับสไตล์การเล่น ดูลดความเห็นแก่ตัว เน้นทั้งยิงทั้งจ่าย ไม่บ้าเลี้ยงบ้ายิงอยู่คนเดียว เหมือนกับฤดูกาลอื่นๆ ที่ผ่านมา
นั่นทำให้ความอันตราย ของเจ้าตัวนั้นเพิ่มมากขึ้น ฤดูกาลปัจจุบัน เจ้าตัวทำไป 15 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ด้วยจำนวนนัดที่ลงเล่น เพียง 12 นัดเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้แฟนบอลโฟกัส ไม่ได้มีเพียงเรื่องในสนามเท่านั้น ยังมีเรื่องสัญญาของเจ้าตัว ที่ยังไม่ยอมจรดน้ำหมึก ต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไป ทำเอาแฟนบอล อยู่ไม่สุขกันละทีนี้
ซึ่งปัญหาใหญ่ๆ จากข่าวลือที่ออกมา นั่นก็คือ เอเย่นต์ของเจ้าตัว เรียกร้องค่าเหนื่อยระดับ 4-5 แสนปอนด์ ต่อสัปดาห์ ถ้าถามว่าค่าเหนื่อยจำนวนนี้มากขนาดไหน ต้องบอกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุด ในทีมลิเวอร์พูล ได้รับอยู่ 2 แสน 2 หมื่นปอนด์
และหากเทียบกับทีมอื่นๆ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อย มากที่สุดในลีก ณ ปัจจุบัน โดย CR7 รับค่าเหนื่อยจาก ปีศาจแดง อยู่ที่สัปดาห์ละ 480,000 ปอนด์ รองลงมาเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่ 380,000 ปอนด์
มองอีกนัยนึง หากเทียบฟอร์มของ ซาลาห์ ในปัจจุบัน ไม่เป็นรอง สองนักเตะดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย แถมอาจจะยังดูดีกว่าด้วยซ้ำ แต่อะไรคือปัจจัย ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยระดับนี้ ให้กับทาง ซาลาห์
ต้องยอมรับความจริงก่อนว่า หงส์แดง ไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถัง งบประมาณส่วนใหญ่ในสโมสร มาจากการดำเนินการเท่านั้น แถมการเจอปัญหาจาก Covid-19 ส่งผลกระทบกับพวกเขาพอสมควร ทั้งรายรับที่น้อยลงกว่าที่คาดไว้ สปอนเซอร์ใหม่ๆ ก็ไม่ได้เข้ามา ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงฟอร์มพีค
อีกทั้ง การยอมพังเพดานค่าเหนื่อยภายในทีม สิ่งที่จะตามมาแน่นอน คือนักเตะคนอื่นๆ ก็จะร้องขอค่าเหนื่อย ในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งแน่นอนว่า สโมสรยังไม่มีปัญญาจะจ่าย ให้กับผู้เล่นในเรทนั้นยกทีมแน่นอน
เพราะทีม ลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน ไม่ใช่ทีมวันแมนโชว์ของ ซาลาห์ แต่ทุกคนช่วยค้ำจุนกันเป็นทีม อย่างที่กูรูหลายคนบอกไว้ ว่านักเตะคนเดียวของพวกเขา เล่นเพื่อนักเตะอีก 10 คนในสนาม
การจ่ายค่าเหนื่อยระดับนั้น ให้กับผู้เล่นยอดเยี่ยมของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องเกินมือที่พวกเขาจะทำ แต่แรงกระเพื่อมหลังจากนั้น นั่นแหละครับ ที่กำลังเป็นสิ่งที่ทีม หวาดวิตก
แถมปัจจุบัน อายุของ ซาลาห์ จะเข้าสู่หลัก 30 ในช่วงกลางปีหน้า หากเซ็นสัญญากัน ณ วันนี้ ออกไปอีก 5 ปี เท่ากับว่า ซาลาห์ จะอยู่กับทีมไปจนอายุ 34 ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าฟอร์มของ ซาลาห์จะดีจะร้าย ในวันข้างหน้า พวกเขาก็จะต้องแบกภาระค่าเหนื่อยนี้ จนหมดอายุสัญญา
เพราะต้องยอมรับว่า ฟอร์มพีคที่สุดของนักฟุตบอล จะอยู่ในช่วงอายุ 27-32 ปี แม้จะมีบางคน ยังรักษาสภาพร่างกาย จนเล่นได้เกินอายุดังกล่าว ออกไปได้หลายปีก็ตาม
อีกทั้ง สัญญาปัจจุบัน ของยอดกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ จะหมดลงในปี 2024 ซึ่งหลังจากนั้น ก็ไม่รู้จะดีหรือจะร้าย หากต่อสัญญา ซาลาห์ ออกไป เท่ากับเป็นการบังคับกุนซือคนใหม่ ว่าจะต้องใช้งาน ซาลาห์ ในอายุ 33 ปี เป็นตัวหลักสถานเดียว
ทางเลือกของ ลิเวอร์พูล มีไม่มาก อย่างแรกคือ ใช้งานเจ้าตัวจนหมดสัญญา แล้วปล่อยออกไปฟรีๆ อย่างที่เคยทำในเคสของ เอ็มเร่ ชาน และ จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม หรือขายออกไปหลังฤดูกาลนี้ แล้วหาผู้เล่นคนอื่นเข้ามาทดแทน
ส่วนทางเลือกสุดท้าย คือต่อสัญญากับ โม ซาลาห์ ด้วยค่าเหนื่อยมหาศาล ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจะไม่น่าเกิดขึ้น ที่เป็นไปได้มากที่สุด คือจ่ายโบนัสค่าเซ็นสัญญา ด้วยตัวเลขหลายสิบล้าน พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงสุดในทีม แบบไม่ทิ้งห่างเพื่อนๆ มากเกินไป
แฟนบอลโปรไลเซนส์