แมนยู แตกต่างจาก ลิเวอร์พูล มากแค่ไหนในปัจจุบัน

ยังอยู่กันที่ควันหลง ศึกแดงเดือด นัดล่าสุด ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ถึงสัปดาห์ ด้วยความที่เราได้เห็น ช่องว่างระหว่างทั้งสองทีม มากซะเหลือเกิน จนแทบจะเป็นการแพ้ที่หมดรูปที่สุด ของทางปีศาจแดง ต่อคู่รักคู่แค้น จนแฟนบอลแมนยู หลายคนบ่นว่า แมนยู แตกต่างจาก ลิเวอร์พูล มากซะเหลือเกิน

วันนี้ เก่งหลังเกม พาเพื่อนๆ มาคุย พร้อมกับวิเคราะห์ไปพร้อมๆ กัน ใน บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเราเช่นเคย

แมนยู แตกต่างจาก ลิเวอร์พูล มากแค่ไหนในปัจจุบัน

หากดูจากเกมนัดล่าสุด ต้องบอกว่าเหนื่อยแทน แฟนแมนยูมากๆ เพราะทีมรักของพวกเขา สู้คู่แข่งในศึกแห่งศักดิ์ศรี ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย จนแพ้ไปถึง 0-5 ทำลายสถิติมากมาย ที่น่าอัปยศสุดๆ

ไม่ว่าทั้งสองทีม จะอยู่ในสถานะใดๆ ก็ตาม แต่การเจอกันเองของทั้งคู่ ไม่มีทางที่จะมีใครยอมใคร เนื่องจากทั้งความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ ทั้งการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แข่งกันเป็นเบอร์ 1 ของประเทสอังกฤษ

แต่ในเกมนัดล่าสุด กลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล สามารถบุกมาครองเกมได้ ตั้งแต่เริ่มเกมยันจบเกม หากทาง หงส์แดง ไม่ยั้งในช่วงท้าย สกอร์อาจจะไหลไปมากกว่านี้ ก็เป็นได้

หากเทียบกันจริงๆ ชื่อชั้นผู้เล่นของทั้งสองทีม ก็ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่ ยิ่งหากเทียบกันด้วยค่าตัวแล้ว ทางฝั่ง แมนยู อาจจะดูเหนือกว่าด้วยซ้ำ ทำให้พวกเค้า ยิ่งกลายเป็นตัวตลกในสายตาแฟนบอล ที่หยิบกันเอามาล้อ กันอย่างสนุกปาก

นัยนึง ก็ต้องบอกว่า เป็นข้อได้เปรียบของทางแมนยู ด้วยพวกเขามีเงินอย่างมหาศาล สามารถแก้ไขปัญหาของทีมได้ง่าย นั่นก็มาจากพื้นฐานที่ดีของทีม ที่ทำให้มีฐานแฟนบอลทั่วโลก จนไม่ขัดสนเรื่องเงิน แม้จะเจอวิกฤติ โควิด-19 ก็ตามที

อีกนัยก็เป็นหลักฐานชั้นดี ที่บอกได้ว่าพวกเขา ซื้อตัวได้ล้มเหลวสุดๆ ทั้ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ถูกอวยยศ ให้กลายเป็นกัปตันทีม แต่มีส่วนสำคัญ ในการทำให้ทีมเสียประตู เกือบทุกลูก

แบ็คขวา อย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า ฟูลแบ็คราคาครึ่งร้อยล้าน แต่ไม่สามารถช่วยเกมบุก อันเป็นคุณสมบัติสำคัญ ของฟูลแบ็คในฟุตบอลสมัยใหม่ แถมช่วงหลังยังมีข้อผิดพลาดในเกมรับ ค่อนข้างบ่อย

หรือรายล่าสุด จาดอน ซานโช่ ปีกขวาวัยหนุ่ม ที่ทีมไปดึงตัวมาด้วยราคา 70 กว่าล้าน แต่ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน 0 ประตู 0 แอสซิสต์ จาก 7 นัด จนโดนล้อว่าเป็น 0 0 7 คนใหม่ แบบเจ็บแสบ

เทียบกับตัวผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน แบ็คซ้าย จากทีมตกชั้น ในราคาราวๆ 7-8 ล้าน แบ็คขวา ที่ถูกดันจากระบบเยาวชน รวมถึงคนที่ซื้อมาใหม่ ก็โชว์ฟอร์มได้เรื่อยๆ อย่าง ดิโอโก้ โชต้า หรือล่าสุด อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่เป็นผู้เล่นคนเดียว ที่ ลิเวอร์พูล เสริมในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แต่ทั้งสองคน กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นตัวเพิ่มมิติ ให้กับทีม หลังจากที่ทีมชุดหลักของ ลิเวอร์พูล ยุคปัจจุบัน สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ อย่าง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วน แมนยู หลังจากพยายามทุ่มเงินอย่างหนัก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พวกเค้าไม่ได้แชมป์รายการเมเจอร์ใดๆ เลย นับตั้งแต่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โบกมือลาจากทีม หลังจากฤดูกาล 2012-13 มีเพียงแชมป์ ยูโรป้า, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ อย่างละสมัย เท่านั้น

ความแตกต่างที่แท้จริง อาจจะอยู่ที่ตัวกุนซือ เพราะต้องยอมรับว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน แบบไม่ต้องสงสัย ทั้งสไตล์การเล่นที่ไม่เป็นรองใคร ทั้งการให้โอกาสดาวรุ่ง หรือปั้นนักเตะจากดินสู่ดาว มานับไม่ถ้วน

เทียบกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องแท็คติกด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่โลกฟุตบอลปัจจุบันนั้น สู้กันด้วยแท็คติกและรายละเอียด เล็กๆ น้อยๆ ภายในเกม แต่เฮียยิ้ม เหมือนจะทำได้เพียงปลุกใจในห้องแต่งตัวเท่านั้น

ดูจากความพยายาม ในการเจาะริมเส้นของแมนยู ที่มักจะให้ฟูลแบ็ค บีบเข้ามาช่วยตรงกลางมากเป็นพิเศษ แล้วก็โดน ลิเวอร์พูล ทำโทษตลอดทั้งเกม เจ้าตัวก็ไม่ได้มีการปรับแท็คติคใดๆ จนกระทั่งเหลือ 10 คน จากการที่ ปอล ป็อกบา โดนไล่ออก

ถึงจะมีการปรับแบ็คลงไปเพิ่มอีกคน เพื่อเป็นการยันสกอร์ไว้ ไม่ให้เสียเพิ่มเพียงเท่านั้น จนทำให้แฟนแมนยู แทบจะสาบส่งตำนานของทีม หากไม่ใช่ฮีโร่ในอดีต อาจจะโดนด่าหนักกว่านี้ ดีกว่าความดีในอดีตมันค้ำคอไว้

นั่นจึงกลายเป็น ช่องวางระดับมหาศาล ซึ่งพูดได้อย่างมั่นใจ ว่าหากกุนซือของทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีทางเทียบ ลิเวอร์พูล ได้ ภายใต้กุนซือคนปัจจุบันของทั้งคู่

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *