ทำเนียบดาวซัลโวไทยลีก 10 ปีหลัง บอกอะไรเราได้มากกว่าที่คิด ซึ่งหากย้อนไปดูดีๆ ฟุตบอลไทยลีก 10 ปีหลัง มีการพัฒนาในหลายๆ สิ่ง ทั้งความเป็นมืออาชีพ รูปแบบการเล่น คุณภาพนักเตะ การจัดการของแต่ละทีม ทำให้นักฟุตบอลไทย ได้รับการพัฒนาไปด้วย แต่ในทำเนียบดาวซัลโว กลับชี้ให้เห็นเรื่องที่น่ากังวล สำหรับวงการฟุตบอลไทยในปัจจุบัน
วันนี้ Kickoff88 จะมาชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้ามองเผินๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่หากมองดีๆ เราจะเห็นถึงปัญหาใหญ่ของ วงการฟุตบอลไทย แบบที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ตัว
ทำเนียบดาวซัลโวไทยลีก 10 ปีหลังสุด
2020 – บาร์รอส ทาร์เดลี่ (บราซิล)
2019 – ลอนซานา ดูมบูยา (กินี)
2018 – ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บราซิล)
2017 – ดราแกน บอสโควิช (มอนเตเนโกร)
2016 – เคลตัน ซิลวา (บราซิล)
2015 – ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต (บราซิล)
2014 – แฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ (บราซิล)
2013 – คาร์เมโล่ กอนซาเลซ (สเปน)
2012 – ธีรศิลป์ แดงดา (ไทย) , เคลตัน ซิลวา (บราซิล)
2011 – แฟรงค์ โอฮันซ่า (แคเมอรูน)
กลายเป็นว่า ฟุตบอลไทยลีก 10 ปีหลัง เรามีดาวซัลโวที่เป็นแข้งต่างชาติล้วนๆ โดยมีเพียงปีเดียวในฤดูกาล 2012 ที่มี ธีรศิลป์ แดงดา สอดแทรก เข้ามาเป็น ดาวซัลโว แต่ก็เป็นเพียง ดาวซัลโวร่วม กับ เคลตัน ซิลวา เท่านั้น
ขอย้อนอดีตก่อน ในช่วงลีกอาชีพ ของบอลไทยกำลังตั้งไข่ เคยมีโควต้านักฟุตบอลต่างชาติ มากถึง 7 คนต่อทีม โดยสามารถส่งลงสนามได้สูงสุด ครั้งละไม่เกิน 5 คน
ก่อนที่จะมีการปรับมาเหลือ 3+1 โดยหากมีแข้งสัญชาติเอเชีย จะสามารถส่งลงสนามได้ถึง 4 คน ซึ่งก็มาจากการปรับให้เข้ากับกฎของ เอเอฟซี ในการลงเล่นฟุตบอลเอเชีย นั่นเองครับ
ซึ่งในส่วนของ โควต้านักเตะต่างชาติ มีการปรับมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันสามารถลงทะเบียนแข้งอาเซียนได้ไม่จำกัด แต่ส่งลงสนามได้เพิ่มจากเดิม 3 คน เป็น 3+1+3 หรือทีมใดจะส่งนักเตะอาเซียนลงทั้ง 7 คนก็สามารถทำได้
ทีนี้โควต้าต่างชาติ สัมพันธ์กับทำเนียบอาวซัลโวอย่างไร ต้องบอกก่อนว่า ฟุตบอล นั้นมีปัจจัยหลายอย่าง แต่สุดท้ายการวัดผลแพ้ชนะ นั้นดูจาก สกอร์ ที่ทั้งสองทีมทำได้ ในเกมนั้นๆ
ทำให้ภาระหน้าที่สำคัญ ไปตกอยู่กับผู้เล่นแนวรุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และด้วยการที่ฟุตบอลไทย แต่ละทีมสามารถส่งผู้เล่นต่างชาติได้จำกัด กลายเป็นว่าทุกทีม ก็พยายามหาดาวยิงต่างชาติ เข้ามาทำหน้าที่การเล่นเกมรุก รวมไปถึงการจบสกอร์
เลยทำให้เกือบทุกทีมในไทยลีก นิยมใช้แข้งต่างชาติ ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า เรียกว่านับนิ้วได้เลย สำหรับกองหน้าไทยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ดาวยิงสัญชาติไทย ที่พอจะแทรกแข้งต่างชาติได้ ก็มีเพียงหน้าเดิมๆ
อย่างฤดูกาล 2020 ที่เพิ่งผ่านไป ดาวซัลโว 10 อันดับแรก ก็เป็นแข้งต่างชาติเกือบทั้งหมด มีเพียง ฟิลิป โรลเลอร์ แข้งลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่ตอนนั้นยังอยู่กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี คนเดียวเท่านั้น
แสดงให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ คือเราจะขาดแข้งชาวไทย ที่จะเป็นตัวความหวังในการจบสกอร์ ซึ่งปัญหานี้จะลามไปสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ แบบเสียไม่ได้
เพราะกองหน้ารายเดียว ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับแข้งต่างชาติในไทยลีกได้ ก็ยังคงเป็น ธีรศิลป์ แดงดา คนเดียวกับเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ที่ปัจจุบันอายุอานามของเจ้าตัวก็มากขึ้นทุกวัน ทำให้อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิม
ส่วนคนที่หลายคนดูจะหวังอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ที่มีอายุเพียง 22 ปีแต่ลงเล่นเกมไทยลีกไปแล้วมากมาย เพิ่งจะยิงในไทยลีกให้กับต้นสังกัดอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปไม่ถึง 10 ประตู จากการลงเล่นเกือบ 90 นัด
แถมฟอร์มและความสามารถโดยรวม ยังดูห่างไกลจาก “เทพมุ้ย” อีกหลายช่วงตัว ส่วนคนอื่นๆ ที่พุ่งขึ้นมาเป็นพักๆ อย่าง เจนรบ สำเภาดี กองหน้าจิตอาสา หรือจะ สิโรจน์ ฉัตรทอง ก็ดูห่างไกลจากการเป็นดาวซัลโว
กลายเป็นว่านักเตะไทย เจนใหม่ๆ มีเกือบทุกตำแหน่ง แต่ในตำแหน่งตัวจบสกอร์ ถือว่าวิกฤติสุดๆ เพราะแม้หลายคนจะมีฝีมือ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คน จากไม่กี่ทีม ที่พอจะมีโอกาส ลงเล่นเกมชุดใหญ่เป็นประจำ
เราเคยมี ปรเมศย์ อาจวิไล หรือ กรวิชญ์ ทะสา ที่เคยโชว์ผลงานได้ดุเดือดในระดับเยาวชน แต่สุดท้ายกว่าจะได้โอกาสโชว์ฝีเท้าแบบเต็มๆ ก็ไม่รู้จะต้องรออีกนานเท่าไหร่
กลายเป็นว่าทีมชาติไทยยุคหลังๆ ทำประตูได้น้อยอย่างน่าตกใจ และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราไปไม่ได้ไกลอย่างที่ฝัน แบบที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้
เพราะในทีมชาติชุดปัจจุบัน มีเพียง ธีรศิลป์ แดงดา และ อดิศักดิ์ ไกรษร เพียงสองคนเท่านั้น ที่เคยทำประตูให้ทีมชาติไทยเป็นเลขสองหลัก โดยทั้งคู่ก็อายุ 33 และ 30 ปีเข้าไปแล้ว
หากหลายทีมในไทยลีก ยังมองไม่เห็นปัญหานี้ แล้วยังไม่มีใครให้โอกาสนักเตะไทยในตำแหน่งกองหน้า ได้โชว์ผลงานมากกว่าที่เป็นละก็ รับรองว่าอีกไม่กี่ปี ผลงานของทีมชาติไทยวิกฤติหนักแน่นอน
หลักฐานแบบที่ไม่มโน และจับต้องได้ชัดเจนก็คือ ทำเนียบดาวซัลโว ทั้งจาก 10 ปีหลังสุด รวมถึง ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่มีแต่แข้งต่างชาติเท่านั้น ที่อยู่ในลิสต์ที่ว่านี้
แฟนบอลโปรไลเซนส์