ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2021 ที่เป็นรายการระดับทวีป โดยการนำสองแชมป์ฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลที่ผ่านมา มาแข่งชิงแชมป์กัน ซึ่งก็ทำกันมานาน ตั้งแต่ช่วงปี 1970s โดยระยะหลังจะเป็นการพบกันของ แชมป์รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก มาเจอกัน สำหรับฤดูกาลนี้ เป็นการพบกันของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปะทะกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล เจ้าของแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา จากศึกลาลีกา สเปน
วันนี้ Kickoff88 จะมาพาเพื่อนๆ ไปวิเคราะห์ฟุตบอลหลังเกม ซึ่งหากเพื่อนๆ ไม่อยากพลาด บทวิเคราะห์ฟุตบอล จากพวกเรา อยากให้ติดตามกันไว้ด้วย เพราะในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง พวกเราจะจัดเต็มให้เพื่อนๆ อย่างแน่นอน
ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2021 เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ต้องยอมรับว่าภาษี แชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง เชลซี ย่อมเหนือกว่าอยู่แล้ว ซึ่งเกมนี้พวกเค้าจัดชุดใหญ่ออกสตาร์ท แต่จะไม่มีพวกนักเตะที่เข้ารอบลึกๆ ในฟุตบอลยูโร 2020 อย่างเช่นนักเตะ อังกฤษ สเปน อิตาลี หรือในส่วนของ คริสเตียน พูลิซิซ แชมป์คอนคาเคฟ ก็นั่งสำรองเช่นกัน
ด้าน บียาร์เรอัล พยายามมาด้วยชุดที่ดีที่สุด โดยนักเตะอย่าง เปา ตอร์เรส ที่เล่นยูโร จบ ก็ต้องไปเล่นโอลิมปิก 2020 ต่อ แถมเข้าถึงรอบชิงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกมนี้ก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แต่จะขาดหลายคนที่ติดโควิดครับ
หลังจากเริ่มเล่น ช่วงแรกเป็นช่วงเวลาของ เชลซี ที่ได้บุกเป็นน้ำเป็นเนื้อมากกว่า ซึ่งด้วยทีมจากสเปน เป็นบอลที่เล่นด้วยการเพลสซิ่งเป็นหลัก แถมนัดนี้ทาง บียาร์เรอัล ถือว่าเพลสสูงพอสมควร เลยทำให้ เชลซี ได้โอกาสจ่ายบอลไปยังพื้นที่ว่าง และเป็นที่มาของประตูขึ้นนำ
ต้องชม มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ตัดสินใจไม่จ่ายคืนหลังให้ผู้รักษาประตู เพื่อเซ็ตเกมกันใหม่ แต่กลับจ่ายขนานเส้นไปยังที่ว่างให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายตัดเข้ากลางแบบไม่ต้องจับ บอลไปถึง ฮาคีม ซีเย็ค แปเข้าไปนิ่มๆ ทำให้ยอดทีมจากลอนดอน ขึ้นนำไปก่อน
เอาจริงๆ จังหวะแบบนี้เห็นได้ยาก สำหรับ เชลซี ในยุค ทูเคิ่ลส์ ซึ่งการที่แบ็คโฟร์ของคู่แข่งอยู่กันครบ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ปกติแล้วจะไม่ได้เล่นเสี่ยงขนาดนี้ แต่กลายเป็นจังหวะนี้เหมือนเล่นทีเผลอ ทำเอาแนวรับ บียาร์เรอัล เสียขบวนสุดๆ
ดูจากภาพช้า พวกเค้าเสียตำแหน่งกันยกแผง ตั้งแต่มิดฟิลด์ตัวรับเลยครับ แม้แต่กุนซือเจ้าแผนการอย่าง อูไน เอเมรี่ ยังอดหัวเสียไม่ได้ ดูจะหงุดหงิดกับลูกทีมสุดๆ เลยครับ ในจังหวะนี้
ซึ่งทาง เรือดำน้ำ ก็มีโอกาสตอบโต้บ้าง จากจังหวะการเซ็ตบอลเท้าสู่เท้า อันนี้ต้องยอมรับว่าทีมจากสเปน เล่นจังหวะแบบนี้ได้ดีกว่าอยู่แล้ว เนื่องจากทั้งลีกของพวกเค้านั้นเล่นกันแบบนี้
ส่วน เชลซี ก็ดูมุ่งมั่นที่จะเจาะทางด้านซ้ายของพวกเค้า หรือทางขวาของบียาร์เรอัล ที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ ฮวน ฟอยธ์ ที่อาจจะถนัดเล่นปราการหลังตัวการซะมากกว่า แถมต้องมาเจอกับ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่วันดีคืนดีก็เติมจากแบ็คซ้ายกลายเป็นกองหน้า ทำให้จุดนี้กลายเป็นบ่อน้ำมันกลายๆ
ช่วงท้ายครึ่งแรก ทาง บียาร์เรอัล มีโอกาสตีเสมออยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงของ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ แต่พวกเล่นยิงเอาสะใจ เลยซัดเต็มข้อไปเต็มคาน อดตีเสมอแบบเต็บใจ
ก็ด้วยพื้นที่การรับผิดชอบ เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวาของ เชลซี เกมนี้คือดาวรุ่งอย่าง เทรฟโวห์ ชาโลบาห์ ที่ยังไม่เคยเล่นในการแข่งขันระดับสูงซักเท่าไหร่ นั่นเอง
ในช่วงกลางครึ่งหลัง เชลซี เริ่มมีการเปลี่ยนตัว จังหวะสำคัญคือการเปลี่ยน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ออก แล้วส่ง จอร์จินโญ่ ลงมาแทน ซึ่งตรงนี้คือหายนะที่แท้จริง
ด้วยการเข้าทำของ บียาร์เรอัล คือการขึ้นเกมด้วยบอลเท้าสู่เท้าในแดนกลาง แต่การเอาผู้เล่นเกมรับดีๆ ออก แล้วส่ง จอร์จินโญ่ ที่ค่อนข้างเป็นบ่อในเกมรับ อย่างตอนเล่นทีมชาติ นัดเจอกับ สเปน นี่คือหายนะชัดๆ
และ บียาร์เรอัล ก็มาตีเสมอจนได้ ในช่วงนาทีที่ 70 จากจังหวะออกบอลพลาดของ รูดิเกอร์ และเป็นทาง เคราร์ด โมเรโน่ ที่เล่นชิ่งกับ บูลาย เดีย ซึ่งพอบอลคืนมาที่ โมเรโน่ จากภาพช้าเจ้าตัวยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ
และคนที่อยู่ใกล้ที่สุด และเป็นพื้นที่รับผิดชอบอย่าง จอร์จินโญ่ กลับจ็อกกิ้งช้าๆ และมองดูกองหน้าคู่แข่งยิงประตูเข้าไปแบบชิลๆ ไม่ได้มีการวิ่งเข้าไปกดดัน หรือพยายามทำสิ่งใดที่ทำให้คู่แข่งเจอกับความยากลำบาก ทำให้เกมกลับมาเท่ากันที่ 1-1
ซึ่งเวลาที่เหลือในครึ่งหลัง ก็เป็นทาง เชลซี ที่ได้บุกเพื่อทำประตูเพิ่ม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยิงผ่านมือ เซร์คิโอ อเชนโฆ่ ได้ ทำให้ต้องไปลุ้นกันใหม่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
โดยในช่วงต่อเวลานี้ เป็นฝั่ง เชลซี ได้ครองเกมมากกว่าครับ แต่ก็ยังไม่สามารถยิงผ่านมือ อเชนโฆ่ ได้อยู่ดี และช่วงนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา เชลซี มีการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู โดยการส่ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ลงมาเตรียมเซฟจุดโทษแทน
และทาง เกปา ก็สามารถเซฟสองจุดโทษ พาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่เอาจริงๆ ทั้งสองลูกนั้นคนยิงนั้นยิงไม่ดีเองด้วย ส่วนลูกอื่นๆ แทบจะพุ่งไม่ถูกทางเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับ เชลซี ที่จะต่อยอดความสำเร็จจากแชมป์ยุโรปปีก่อน เพราะต้องยอมรับว่าฤดูกาลที่ผ่าน หลายๆ ทีมนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก หากพวกเค้าอยากจะรักษาความสำเร็จของทีม จำเป็นต้องรักษาระดับการเล่นของตัวเอง พร้อมกับพัฒนาตัวเองต่อไปอีกด้วย
เพราะเกมนี้ทางคู่แข่งของพวกเค้า คุณภาพโดยรวมเป็นรองพวกเค้าพอสมควร แถมยังอยู่ในช่วงที่มีตัวหลักหลายคนลงสนามไม่ได้ ซึ่งจุดอ่อนของทาง เชลซี ยังคงเป็นกองหน้าตัวเป้าที่ยังทำอะไรคู่แข่งไม่ได้มาก แต่หากได้ โรเมลู ลูกากู ในเร็ววันนี้ อาจจะสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
แฟนบอลโปรไลเซนส์