ในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย หรือ ยูโร 2020 ที่เลื่อนมาแข่งขันกันในปีนี้ ยูโร คู่ประเดิมสนาม เป็นเกมระหว่าง ตุรกี พบ อิตาลี ซึ่งก็เป็นฝั่ง อิตาลี ถล่มไปแบบราบคาบ 3-0 วันนี้ เราจะมาคุยผ่านบทความ เก่งหลังเกม ที่จะมาวิเคราะห์บอลคู่ที่แข่งเสร็จไปแล้ว เริ่มต้นวันนี้เป็นวันแรก ในบทความ บอลยูโร วันแรก
ซึ่งทีมงาน kickoff88 ก็ต้องฝากตัวกับเพื่อนๆ มาไว้ที่นี้ แล้วถ้าหากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า หากเพื่อนๆ พร้อมกันแล้ว เราไปลุยกันเลยครับ
วิเคราะห์ฟุตบอล บอลยูโร วันแรก กลุ่ม ตุรกี พบ อิตาลี
เกมแรกเราไปดู เกมเปิดสนาม โดยเป็นเกมในกลุ่มเอ ระหว่าง ตุรกี พบ อิตาลี โดยก่อนแข่งขัน ทางฝั่ง ตุรกี นั้นได้รับการคาดหมายในระดับนึงเลย เนื่องจากฟอร์มก่อนหน้านี้ค่อนข้างยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นคือการเปิดบ้าน เตะก้นทีมอย่าง ฮอลแลนด์ ไป 4-2 ในเกมคัดบอลโลกนัดแรก
บวกกับฟอร์มของ บูรัค ยิลมาซ ที่ยิงกระจุยกระจาย พา “ตราหมา” ลีลล์ คว้าแชมป์ ลีกเอิง ฝรั่งเศส เหนือทีมอย่าง “เปแอสเช” ปารีส แชงต์ แชร์กแมง ที่อุดมไปด้วยนักเตะระดับโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นแฟนบอล ลีลล์ ร้องยี้เลยครับ ว่าไปเอากองหน้าวัยดึกมาเข้าทีมทำไม
แต่ฝั่ง อิตาลี เอง ก็ฟอร์มโคตรโหดในยุคมันชินี่ บวกกับการพุ่งขึ้นมาของดาวรุ่งยุคใหม่ ที่เปลี่ยนทัพอัซซูรี่จากทีมเล่นเกมรับ ที่ถูกเรียกว่าสไตล์ “คาเตนัชโช่” มาเป็นบอลเกมบุกสุดพลัง ผิดจาก อิตาลี ที่เราเคยรู้จัก
ตั้งแต่เริ่มเกม ต้องบอกว่าเป็นทางฝั่ง อิตาลี ที่คุมเกมเอาไว้ได้เบ็ดเสร็จ แม้สุดท้ายจะมาได้ประตูขึ้นนำ จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เดมิรัล ก็ตาม ซึ่งส่วนนึงก็ต้องบอกว่าด้วยรูปแบบการแข่งขันแปลกๆ ของ ยูโร ครั้งนี้ ทำให้มีเจ้าภาพอยู่หลายประเทศ ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ตั้งแต่เริ่มเกม ต้องบอกว่าเป็นทางฝั่ง อิตาลี ที่คุมเกมเอาไว้ได้เบ็ดเสร็จ แม้สุดท้ายจะมาได้ประตูขึ้นนำ จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เดมิรัล ก็ตาม ซึ่งส่วนนึงก็ต้องบอกว่าด้วยรูปแบบการแข่งขันแปลกๆ ของ ยูโร ครั้งนี้ ทำให้มีเจ้าภาพอยู่หลายประเทศ ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทางฝั่ง ตุรกี เลยทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเล่นเกมรับหวังแบ่งแต้มเท่านั้น เนื่องจากต้องยอมรับตามตรงว่า คุณภาพของผู้เล่นยังเป็นรองอยู่ขั้นนึงเลย แม้จะมีคู่กองหลังอย่าง เดมิรัล และ โซยุนคู ก็ตาม
ซึ่งจริงๆ ก็ต้องชื่นชมทาง ตุรกี เหมือนกัน ที่ต้านทานเกมบุกของทางฝั่ง อิตาลี ไว้ได้นาน ก่อนจะมาเสียประตูที่สองจากการซ้ำลูกยิงจ่อๆ ของทาง อิมโมบิเล่ ทำให้ทาง อิตาลี เล่นง่ายขึ้นเยอะในเวลาที่เหลือ
เพราะต้องเรียนตามตรงว่า แม้จะได้เห็นสองกองหลังของฝั่งเจ้าบ้านอย่าง คิเอลลินี่ และ โบนุชชี่ ยืนชิลอยู่กลางสนาม แต่หากพลาดโดยสวนเสียประตู หรือตัวหลักโดนไปแดงไปซักใบ จะเป็นการพลิกโมเมนตัมของทีมในรายการนี้ได้เลย
ด้วยหากทาง อิตาลี นั้นพลาดสามแต้มในนัดนี้ สองทีมที่เหลือที่พวกเค้าจะเจอ จะเล่นง่ายขึ้นทีนที เนื่องจากรู้ว่าทาง อัซซูรี่ จำเป็นจะต้องคว้าสามให้ได้ในเกมที่เหลือเท่านั้น
แต่พอเกมออกมาจบที่ฝั่ง อิตาลี คว้าสามแต้มมาได้แบบชิลๆ กลายเป็นทาง ตุรกี เองนั่นแหละที่เล่นยาก เพราะสองนัดที่เหลือของ อิตาลี ไม่ได้จะต้องคว้าสามแต้มสถานเดียว การเก็บแรง เก็บความพร้อมไว้เล่นเกมยาวในทัวร์นาเม้นต์นี้ ยังดูเป็นเรื่องที่ดีกว่า
บวกกับคู่แข่งของพวกเค้าในกลุ่มเอ อย่าง เวลส์ และ สวิตเซอร์แลนด์ นั้นไม่ใช่หมู ที่ใครจะมาจับเฉือดกินง่ายๆ เรียกได้ว่าความกดดันนั้นตกไปอยู่กับฝั่ง ตุรกี ที่ต้องการแต้มในทั้งสองนัดที่เหลืออย่างเลี่ยงไม่ได้
สรุปสถานการณ์ ฟุตบอลยูโร 2020 วันแรก
เป็นทางฝั่ง อิตาลี ที่ยิ้มร่า รอเข้ารอบต่อไป จากการออกสตาร์ท อย่างงดงาม ส่วนสองทีมที่เหลือในกลุ่ม เอ ที่จะแข่งกันในวันนี้ จะยิ่งเล่นง่ายขึ้น เพราะยูโร คราวนี้ เอาทีมอันดับ 3 เข้ารอบ ถึง 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม
ยิ่งหากทาง เวลส์ และ สวิตเซอร์แลนด์ เสมอกันในเกมแรก คราวนี้ก็จะไม่ใช่เรื่องเสียหายแล้วครับ เป็นทางฝั่ง ตุรกี เองนั่นแหละ ที่จะต้องกระเสือกกระสนในสองเกมที่เหลือ หากแพ้อีกซักนัด โอกาสจบอันดับ 3 ยังยากเลย