การปลดโค้ช ถือเป็นเรื่องปกติของวงการฟุตบอล แต่เรื่องสำคัญ ระดับการเปลี่ยนกุนซือ มักจะเกิดขึ้น ในช่วงปิดฤดูกาล หากเป็นช่วงกลางฤดูกาล สโมสรก็เลือกที่จะ ปลดโค้ช ช่วงฟีฟ่าเดย์ มากกว่าช่วงอื่นๆ
วันนี้ เก่งหลังเกม จะมาแถลงไข ว่าทำไม หลายทีมเลือกที่จะ ปลดโค้ช ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ผ่าน บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์พวกเรา
ทำไมหลายทีมเลือก ปลดโค้ช ช่วงฟีฟ่าเดย์ มันมีข้อได้เปรียบยังไง
เป็นปกติอยู่แล้ว ที่สโมสรทุกสโมสร หากเลือกได้ พวกเขาก็จะมีการเปลี่ยนกุนซือ ในช่วงปิดฤดูกาล ซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะโค้ชใหม่ จะได้มีเวลาสร้างทีม ทั้งเรื่องปลูกฝังแท็คติก ให้กับเหล่าลูกทีม รวมถึงการเสริมทัพ ที่จะเติมเต็มผู้เล่น ให้เข้ากับแผน ที่เหล่ากุนซือต้องการ
นอกจากในช่วง ปิดฤดูกาลแล้ว ในบางโอกาส สโมสรก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของตัวกุนซือ ในช่วงระหว่างฤดูกาลเช่นกัน โดยมีสาเหตุมากมาย เช่น ผลงานของทีมไม่ดี เสี่ยงต่อการตกชั้น หรือแม้กระทั่ง ผลงาน หรือรูปเกมไม่เป็นดังหวัง
บางทีมเสริมทัพมากมาย แต่ผลงานไม่เป็นไปตามเป้า กุนซือก็ต้องปลิวไปเลยก็มี ซึ่งเอาจริงๆ ก็มีเหตุผลมากมาย ร้อยแปดพันเก้า แต่หากเพื่อนๆ ได้สังเกตุกัน จะเห็นว่าข่าวปลดกุนซือ จะหนาหูมากเป็นพิเศษ ก็ตอนช่วงใกล้พักเบรก ฟีฟ่าเดย์
เหตุผลก็คือ การปลดโค้ชในช่วงก่อนฟีฟ่าเดย์ จะทำให้ไม่มีเกม ที่สโมสรต้องลงเล่น เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้โค้ชใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาคุมทีม มีระยะเวลาในการคุมทีมซ้อม
เพราะปกติทีมระดับกลางตาราง ผู้เล่นส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้เดินทางไปเล่นกับทีมชาติอยู่แล้ว โดยในส่วนของผู้เล่น ที่ไม่ได้เดินทางไปรับใช้ชาติ ในช่วงฟีฟ่าเดย์ จะยังต้องซ้อมกับสโมสร เหมือนกับช่วงเวลาปกติ ยกเว้นได้รับอนุญาต ให้ได้หยุดเป็นกรณีพิเศษ
อย่างเคสล่าสุด แอสตัล วิลล่า เลือกที่จะปลด ดีน สมิธ หลังทำผลงานได้น่าผิดหวัง แพ้ในฟุตบอลลีก 5 นัดรวด ซึ่งเอาเข้าจริงๆ การแพ้ 3-4 นัดรวดนั้น ก็ถือว่าย่ำแย่สุดๆ แล้ว สำหรับทีมที่ทุ่มเงินไปพอสมควร
แต่การปลดกุนซือ หลังเกมนัดสุดท้าย ก่อนที่จะเป็นช่วงพักเบรก โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ทำให้กุนซือคนใหม่ ได้มีโอกาสคุมทีมซ้อมแบบเต็มที่ ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองคำ สำหรับโค้ชที่เข้ามาคุมทีม ในช่วงกลางเทอม
ล่าสุด กุนซือคนใหม่ อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานทีมชาติ และสโมสรลิเวอร์พูล เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่ง กุนซือป้ายแดงของทีม ซึ่งแน่นอนว่า หัวขิง จะลงคุมทีมซ้อมอย่างรวดเร็ว เพื่อให้นักเตะของเขา ปรับเข้ากับแท็คติกของตัวเอง
หรืออีกราย อันโตนิโอ คอนเต้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็คุมทีมซ้อมแบบหนักหน่วง จนมาให้สัมภาษณ์สายเป็นชั่วโมง นั่นก็เพราะการซ้อมในช่วงแรก ของกุนซือใหม่ ถือว่าเป็นช่วงสำคัญ ที่อาจจะชี้ชะตา ได้หลายๆ อย่าง
โดย คอนเต้ นั้นแตกต่างออกไปนิดหน่อย โดยได้โอกาสคุมทีม ลงเล่นในเกมทางการไปแล้ว 2 นัด ซึ่งก็ยังทำผลงาน ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ โดยสองนัดที่ผ่านมา ชนะ 1 นัดในเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก่อนที่จะเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ในฟุตบอลลีก 0-0
โดยรูปเกมของทั้งสองนัด ต้องบอกว่าห่างไกล จากความคาดหวังของแฟนบอล โดยเกมแรก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ วิเทสส์ ด้วยผู้เล่นชุดใหญ่ ในบ้านตัวเอง 3-2 แบบที่รูปเกมอาจจะเป็นรองด้วยซ้ำ
ส่วนเกมต่อมา บุกไปเสมอกับ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน แบบแทบจะไม่ลุ้นเลย โชคดีที่แค่ไหน ที่กลับออกมาแบบไม่แพ้ เพราะพวกเค้ายิงไม่ตรงกรอบเลยซักครั้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นแค่ช่วงแรก ที่กุนซือคนใหม่ต้องใช้เวลา เป็นของธรรมดา
นั่นจึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลก ที่หลายทีม หากต้องเปลี่ยนโค้ช ในช่วงกลางฤดูกาล หากเป็นไปได้ ก็จะเลือกปลดในช่วงฟีฟ่าเดย์ อย่างที่บอกไงหละครับ นอกเสียจากไม่มีทางเลือก ต้องเปลี่ยนทันที ไม่งั้นไม่ทันการ ก็อาจจะต้องรีบชิงเปลี่ยน
ตัวอย่าง คอนเต้ การเปลี่ยนเร็วไป บางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะผลงานก็ไม่ได้ต่างจากเดิม แถมหากยังใช้กุนซือเดิม นักเตะอาจจะเล่นได้ดี ไม่สับสนเท่านี้ก็เป็นได้
นี่จึงเป็นสาเหตุ ที่ทุกครั้งทีมีช่วง ฟีฟ่าเดย์ หลายทีมจึงจ้องที่จะปลดกุนซือ จนมีข่าวไปทั่วตลาดการซื้อขาย บางรายหากพ้นช่วงนี้ไป ก็แทบจะเป็นการการันตี ว่าบอร์ดบริหารของทีม ยังหนุนหลังพวกเขาอยู่นั่นเอง
แฟนบอลโปรไลเซนส์