ฟุตบอลยูโร รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ฟุตบอลยูโร รอบ 8 ทีมสุดท้าย ลงเล่นไปครบทั้ง 4 คู่แล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าทำให้พวกเรารู้ว่า ทีมใดกันบ้าง ที่พาเหรดกันเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยิ่งทำให้ภาพของนัดชิงค่อนข้างชัดเจนขึ้นมา โดยทั้งสองเกมในรอบรองชนะเลิศ กับนัดชิง จะทำการลงเล่นกันที่สนาม เวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งหมด

พวกเราทีมงาน Kickoff88 ก็จะมาสรุปถึงเกม ยูโร 2020 ทั้ง 4 นัด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย รวมถึงโอกาสและสถานการณ์ในรอบต่อไป มาฝากเพื่อนๆ เช่นเคย ตามแบบฉบับ เก่งหลงเกม ของพวกเรา

วิเคราะห์ ฟุตบอลยูโร รอบ 8 ทีมสุดท้าย

1. สวิตเซอร์แลนด์ พบ สเปน

คู่นี้ต้องยอมรับว่าจากชื่อชั้น ทาง สเปน เหนือกว่าอยู่ แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะทาง สวิตเซอร์แลนด์ ก็พร้อมสู้กับทุกทีม เกมนี้ไม่มีกัปตันอย่าง ชาก้า เลยค่อนข้างลำบากนิด โดยมีการส่ง เดนิส ซากาเรีย ลงอุดรอยรั่ว ซึ่งทรงบอลในเกมนี้เดาไม่ยากว่า สเปน มาขึงเกมบุกใส่แน่นอน แต่ก็ประมาททาง สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้ เพราะพวกเค้าก็ถือว่าอยู่ในระดับท็อปเหมือนกัน เล่นเอา ฝรั่งเศส น้ำตาตกมาแล้ว

ซึ่งผลในเกมนี้ก็ต้องตัดสินถึงการดวลจุดโทษ โดยเป็นฝั่ง กระทิงดุ ยิงแม่นกว่าเอาชนะไป 3-1 แต่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูคงจะต้องซูฮก สวิตเซอร์แลนด์ เหมือนกัน เพราะพวกเค้าเล่น 10 คนตั้งแต่ปลายครึ่งหลัง แถมโดนออกนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งเป็น ซากาเรีย ที่น่าจะฝันร้ายทำเข้าประตูตัวเอง ส่วน แดนนาฬิกา มาได้ประตูตีเสมอกลางครึ่งหลัง จากความผิดพลาดของคู่เซ็นเตอร์อย่าง อายเมริค ลาปอร์ต และ เปา ตอร์เรส

ดูทรงแล้วคู่นี้ลงเล่นร่วมกันบรรลัยทุกที แต่ก็ด้วยสไตล์ของพวกเค้าที่ครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งอย่างมาก เลยไม่ได้เปิดโอกาสให้อีกทีมลุ้นประตูเท่าไหร่ อีกปัญหานึงของพวกเค้าคือการจบสกอร์ของแนวรุก วันนี้ก็ถือว่ามีโอกาสมหาศาลเลย แต่จบสกอร์ไม่ลง ซึ่งประตูเดียวที่พวกเค้าได้ก็มาจากลูกทำเข้าประตูตัวเอง เรียกได้ว่ารอบหน้าเจอของแข็ง ลำบากแน่

2. เบลเยี่ยม พบ อิตาลี

คู่ไฮไลท์ของรอบนี้ ทั้งสองทีมชนะทุกนัดในรายการนี้เหมือนๆ กัน ทำให้วันนี้จะมีหนึ่งทีมเป็นอย่างน้อยที่หยุดสถิตินั้น เบลเยี่ยม จะไม่มี เอแด็น อาซาร์ ที่เจ็บจากนัดก่อน โดยเป็นทาง เฌเรมี่ โดกู ลงทำเกมแทน ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ หายเจ็บกลับมาทัน ด้าน อิตาลี ไม่มี ฟลอเรนซี่ เพียงรายเดียว

สุดท้ายแล้ว เป็น อิตาลี ที่เอาชนะไปได้จากสองประตูในครึ่งแรก โดยทาง เบลเยี่ยม มาตีไข่แตกได้จากจุดโทษในช่วงท้ายครึ่งแรก จากการลากเลื้อยของ โดกู ที่วันนี้ป่วนแนวรับ อิตาลี ได้มากที่สุด ซึ่ง อิตาลี ยุคใหม่ไฉไลจริงๆ พวกเค้ามาด้วยเกมรุกเป็นพายุ แถมการแก้ไขเวลาโดนเพลสซิ่ง ยังทำได้อย่างเนียนตา ลบภาพเดิมๆ ที่เคยเล่นแบบนำแล้วอุด

ทาง เบลเยี่ยม ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะผู้เล่นในแนวรับ ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ มาผลัดใบเลย ยังคงต้องใช้สามตัวเก๋า อย่าง อันเดอร์ไวเรล, แฟร์มาเล่น และ แฟร์ต็องเก้น ด้าน อิตาลี อนาคตยังอีกไกล ตัวที่ติดมา หลายคนยังอายุน้อยเล่นได้อีกนาน แถมมีรุ่นใหม่ๆ รอขึ้นมาทดแทนได้อีกเป็นโขยง เรียกได้ว่ายุคทองของพวกเค้าใกล้จะกลับมาแล้ว

3. สาธารณรัฐเช็ก พบ เดนมาร์ก

เกมนี้ต้องบอกกันตรงๆ ว่า เดนมาร์ก ดูเหนือกว่าเยอะ หากเทียบฟอร์มจากรอบก่อนๆ เนื่องจากพวกเค้าดีวันดีคืน หลังเหตุการณ์ของ อีริคเซ่น แถมสองนัดหลังสุดยิงนัดละสี่ลูก ด้าน เช็ก ยังค่อนข้างจะมีปัญหา พวกเค้าดูเหมือนจะเข้ารอบมาได้จากความผิดพลาดของคู่แข่งเกือบทั้งสิ้น เกมบุกก็ดูง่อยๆ พาทริค ชิค ยิงแทบจะคนเดียว

ซึ่งผลก็ออกมาตามคาด เดนมาร์ก เป็นฝ่ายเอาชนะไป 2-1 โดยพวกเค้าขึ้นนำก่อน 2-0 ก่อนที่เช็ก จะมาตีไข่แตกได้ในต้นครึ่งหลัง ซึ่งก็เป็น ชิค คนเดิมที่ทำประตูให้กับทาง เช็ก ได้ และขึ้นไปนำดาวซัลโวร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 5 ลูกเท่ากัน ส่วน เดนมาร์ก ที่แม้จะดูรูปเกมเป็นรอง แต่ก็ด้วยพวกเค้าขึ้นนำเร็ว ทำให้เล่นค่อนข้างง่ายๆ แถมโอกาสจะๆ ก็ยังมีเยอะกว่า เช็ก อยู่ดี

โดยทาง เช็ก ถือว่ามาไกลแล้วหากเทียบกับคุณภาพ เกมรอบก่อนหาก ฮอลแลนด์ ไม่เหลือ 10 คน พวกเค้าก็ไม่น่าจะต่อต้านอะไรได้ พอๆ กับในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาแบบทุลักทุเล ด้าน เดนมาร์ก แม้จะต้องลุ้นถึงเกมสุดท้าย แต่การเล่นของพวกเค้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เกมที่แพ้ เบลเยี่ยม ก็ถือว่าทำได้ดีกว่า เป็นรองแค่เรื่องคุณภาพในการจบสกอร์ อย่างไรมาถึงขนาดนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว

4. ยูเครน พบ อังกฤษ

ก่อนเกมทาง อังกฤษ ถือว่าเหนือพอสมควร จากผลงานที่ยังไม่เสียประตูในรายการนี้ แม้ซักประตูเดียว แถมปราบคู่แข่งในรอบล่าสุดใน 90 นาที ส่วนทาง ยูเครน ผ่านรอบก่อนหน้ามาแบบกระเสือกกระสน พอๆ กับในรอบแบ่งกลุ่ม โดยต้องเล่น 120 นาที ถึงจะเอาชนะ สวีเดน ที่เหลือ 10 คนมาได้

เกมนี้ทาง อังกฤษ ถือว่าชิลครับ เพราะออกนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม ทำเอา ยูเครน ไปไม่เป็น เนื่องจากแท็คติกที่วางมาพังอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ อังกฤษ จะมาโหม่งอีกสามลูกรวดในช่วงครึ่งหลัง ทำให้พวกเค้าผ่าน สวีเดน มาแบบง่ายที่สุด เท่าที่เล่นมาในรายการนี้เลย ด้วยสกอร์ถึง 4-0

เรียได้ว่าเส้นทางของ ทัพ สิงโตคำราม ใสแจ๋ว เรื่องจากเกมที่เหลือจะต้องเล่นกันที่ เวมบลีย์ รังเหย้าของพวกเค้าทั้งหมด แถมผู้เล่นในทีมก็สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีเกมไหนที่ต้องบดกับคู่แข่งแบบเปลืองพลังงาน ด้าน ยูเครน แม้รอบนี้จะมาไกล แต่โดยรวมแล้วพวกเค้ายังทำได้ไม่ดีนัก อาศัยโชคซะเยอะ เกมไหนโดนออกนำไปก่อน เหนื่อยทุกที

ฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ

สายบน

1. อิตาลี พบ เสปน

สายล่าง

2. อังกฤษ พบ เดนมาร์ก

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *