ลิเวอร์พูล กับการลุ้น 4 แชมป์ มีโอกาสเป็นไปได้ มากน้อยแค่ไหน

อาจจะเป็นฤดูกาลที่ แฟนบอลหงส์แดง ได้ชื่นใจมากทีสุด เพราะในปัจจุบัน ลิเวอร์พูล กับการลุ้น 4 แชมป์ ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันเลย หลังคว้าแชมป์ไปแล้ว 1 รายการ พร้อมกับยังอยู่ในเส้นทาง ในรายการอื่นๆ

โดย เก่งหลังเกม จะลองมาชวนเพื่อนๆ วิเคราะห์ไปพร้อมๆ กัน ว่าโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะคว้า 4 แชมป์เป็นทีมแรก ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ มีความเป็นไปได้ มากน้อยแค่ไหน

ลิเวอร์พูล กับการลุ้น 4 แชมป์ มีโอกาสเป็นไปได้ มากน้อยแค่ไหน

แชมป์แรกของฤดูกาล อย่างเป็นทางการ คือถ้วย คาราบาว คัพ ซึ่งจะรู้ผลกันเป็นรายการแรก พวกเขาสามารถ คว้าแชมป์มาครองได้แล้ว และเป็นสมัยแรก ในรอบกว่า 10 ปี

หลังครั้งสุดท้าย ต้องย้อนไปถึงยุค คิงเคนนี่ เคนนี่ ดัลกริช ที่กลับมารับตำแหน่ง เป็นคำรบที่สอง ซึ่งสมัยนั้น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยังเป็นนักเตะวัยละอ่อนอยู่เลย ปัจจุบัน เจ้าตัวเป็นคนที่อยู่กับทีม มานานที่สุดในสโมสร

ซึ่งในยุคคล็อปป์ เคยเข้าชิงในปีแรก ที่กุนซือนอร์มอล วัน เข้ามาคุมทีม หลังจากนั้น ทีมไม่เคยไปได้ไกลเลย เพราะรายการนี้ มักจะส่งตัวสำรอง ผสมกับเหล่าดาวรุ่ง มีปีนี้ ที่ขุมกำลังค่อนข้างสมบูรณ์ ทีมเลยมาได้ไกล

โดยในรอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ได้ในการดวลจุดโทษ 11-10 หลังจากที่ทั้งสองทีม เสมอกันในเวลา 0-0 จนต่อเวลาพิเศษ ก็ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ ซึ่งเป็นรายการแรกของปี

รายการต่อมา อย่างฟุตบอลถ้วยอีกรายการ อย่าง เอฟเอ คัพ ที่ศักดิ์และศรี ยิ่งใหญ่กว่าถ้วยลีกคัพ หรือคาราบาว คัพ อยู่พอสมควร ในปัจจุบัน หงส์แดง เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ

แต่คู่แข่งที่เหลือ ก็ไม่ใช่งานหมูๆ เลย เพราะในรอบรอง มีคิวเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งสำคัญที่สุด ที่เปรียบกับ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ ก็คือสองทีมที่ดีที่สุดในโลก

ครั้นผ่านเข้าชิง ก็ไม่ใช่เจองานง่ายๆ อีก เพราะอีกคู่เป็นการเจอกันของ เชลซี และ คริสตัล พาเลซ ซึ่งหากต้องวัดกับ สิงโตน้ำเงินคราม ที่มี โทมัส ทูเคิล คุมทีมอยู่ ยังไงก็ไม่ใช่งานง่ายครับ

เรียกว่าในรายการนี้ โอกาสออกได้ทุกหน้า แต่เชื่อได้เลย ว่าหากจะคว้าแชมป์ได้ พวกเขายังต้องงัดฟอร์มที่ดีที่สุด พร้อมกันกับสภาพทีม ที่ฟิตสมบูรณ์ดีทุกคน เพราะโปรแกรมช่วงนั้น ขอบอกเลยว่าแน่น

ในส่วนของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะพูดได้ว่า มีโอกาสมากหน่อย เนื่องจากปัจจุบัน มีแต้มห่างจาก เรือใบสีฟ้า เพียงแค่คะแนนเดียว ในขณะที่ลงเล่นไปแล้ว 29 นัด เท่าๆ กัน

โดยทั้งสองทีม เป็นเพียงม้าสองตัว ที่มีโอกาสแย่งชิงแชมป์กัน ซึ่งหากดูจากโปรแกรมที่เหลือ ทาง หงส์แดง อาจจะเจองานหนักกว่านิดหน่อย แต่ใช่ว่างานของ แมนซิตี้ จะง่าย เพราะเจอทีมหนีตกชั้น อยู่เยอะ

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่มีโปรแกรม ที่จะเจอกันเองที่ เอติฮัด ในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งฟอร์มของ เรือใบ ในช่วงหลัง ก็ใช่ว่าไร้เทียมทาน ดูแล้วโอกาสแซงคว้าแชมป์ ก็ยังมีอยู่พอสมควร

ถ้วยสุดท้าย อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก บอกเลยว่าออกได้ทุกหน้า หลัง หงส์แดง ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แถมได้เจอกับ เบนฟิก้า ที่น่าจะงานเบาสุด ในรอบนี้แล้ว

แต่หากผ่านเข้ารอบต่อไป จะต้องเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค และ บียาร์เรอัล ซึ่งแม้จะดูว่ายาก แต่สไตล์บอลของ เสือใต้ ทีมเต็งอีกทีม ดูจะเข้าทางบอลของ ลิเวอร์พูล อยู่พอสมควร

เพราะ บาเยิร์น ในปีนี้ แม้จะยิงสลุต แต่ก็มาจากการเปิดเกมรุกเต็มตัว ส่วนเกมรับในปีนี้ ยิ่งเล่นยิ่งมีปัญหา น่าจะเอาเกมรุกของ หงส์แดง ที่ปีนี้ อาวุธหลัก อาวุธรอง พร้อมสุดๆ ไม่อยู่ครับ

ยิ่งในรอบชิง บอลนัดเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่อย่าลืมว่าอีกสาย มีทั้ง เชลซี เรอัล มาดริด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งทุกทีม ถือว่าเป็นทีมระดับท็อปของยุโรป เฉกเช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล นั่นเอง

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *