ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22

จบกันไปเสียที สำหรับฤดูกาลอันยาวนาน ของ ลิเวอร์พูล ที่ลงเล่นทุกรายการ ทุกการแข่งขัน ทุกนัดที่สามารถลงเล่น วันนี้พวกเราจึงจะมา สรุปผลงานของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22 กันซักหน่อย ว่าพวกเขาทำผลงาน ได้น่าพอใจแค่ไหน

โดยวันนี้ เก่งหลังเกม จะมาสรุปผลงานของพวกเขา หลังจากฤดูกาลอันยาวนานของ ลิเวอร์พูล สิ้นสุดลงเสียที พร้อมกันกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล จากพวกเราเช่นเคย

สรุปผลงานของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22 หลังฤดูกาลอันยาวนานของพวกเขาสิ้นสุดลง

1. คาราบาว คัพ

รายการแรก ของฟุตบอลอังกฤษ ที่ตัดสินแชมป์กัน ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยพวกเขา สามารถเข้าชิงชนะเลิศ ได้เป็นหนที่สอง ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งครั้งแรก พวกเขาแพ้ต่อ แมนซิตี้ ในนัดชิงด้วยการดวลจุดโทษ

ครั้งนี้พวกเขาแก้ตัวได้สำเร็จ ด้วยการดวลเป้าเอาชนะ เชลซี ไปได้ 11-10 หลังจากทั้งคู่เสมอกันในเวลา 0-0 และเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรก หลังจากครั้งล่าสุด ต้องย้อนไปสมัย เคนนี่ ดัลกริช คุมทัพในฤดูกาล 2011-12

2. เอฟเอ คัพ

ฟุตบอลถ้วยอีกรายการ ของฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งต้องบอกว่าทาง หงส์แดง ห่างหายจากรอบชิงรายการนี้ เป็นเวลาเกือบ 10 ปี หลังจากครั้งล่าสุด ในฤดูกาล 2011-12 พวกเข้าแพ้ต่อ เชลซี ในรอบชิงชนะเลิศ

แต่ครั้งนี้พวกเขาแก้แค้นได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ สิงโตน้ำเงินคราม ในการดวลจุดโทษ(อีกแล้ว) 6-5 หลังจากที่ทั้งคู่ เสมอกันในเวลา 0-0 เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรก หลังจากครั้งล่าสุด ในฤดูกาล 2005-06 สมัยยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ

3. พรีเมียร์ลีก

เรียกว่าดุเดือดสุดๆ สำหรับการแย่งแชมป์กันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของพรีเมียร์ลีก ณ ปัจจุบัน เลยทีเดียว หลังจากในระยะหลัง ทั้งคู่ต่างแย่งแชมป์กันอยู่สองทีม

โดยปีนี้ก็เดือดสุดๆ ต้องวัดกันถึงนัดสุดท้าย แม้ว่าทาง เรือใบสีฟ้า เคยทิ้งห่างไปถึง 14 คะแนน ในช่วงปีใหม่ แต่ก็โดนทาง หงส์แดง ไล่จี้เหลือแต้มเดียว ตั้งแต่ช่วง 10 นัดสุดท้าย

และทั้งคู่ก็ชนะกันมารัวๆ จนกระทั่งการเจอกันเอง โดยทั้งคู่ก็เสมอกันไป 1-1 ในขณะที่เหลือเกมให้เล่นอีก 6-7 นัดสุดท้าย ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายพลาดสะดุดก่อน ในเกมที่เจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

แต่ทาง เรือใบสีฟ้า ไม่รู้ว่ากลัวไม่สนุกหรือยังไง หลังไปสะดุดเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมนัดรองสุดท้าย โดยที่พวกเขา เกือบจะแพ้ด้วยซ้ำ หลังโดนออกนำไปก่อน 0-2 ในช่วงครึ่งแรก

ก่อนที่จะตามมาตีเสมอ ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ทำให้หลังจบเกมรองสุดท้าย ทาง แมนซิตี้ ยังคงมีแต้มนำ ลิเวอร์พูล อยู่หนึ่งคะแนน นั่นแปลว่าทาง หงส์แดง ต้องลุ้นให้ทาง เรือใบ สะดุดในเกมสุดท้าย แล้วพวกเขาต้องชนะสถานเดียว

ซึ่งในเกมนัดปิดฤดูกาล ก็เกิดดราม่าแบบพลิกไปพลิกมา เริ่มจากทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน บุกมานำไปก่อนที่ แอนฟิลด์ 1-0 ทำให้แฟนบอล เรือใบสีฟ้า ที่เช็คผลอยู่ เฮลั่นสนามกันเลยทีเดียว

ก่อนที่ ซาดิโอ มาเน่ จะมายิงตีเสมอ แถมช่วงท้ายครึ่งแรก แอสตัน วิลล่า ที่นำทีมมาโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด พาทีมบุกมานำ แมนซิตี้ ถึง เอติฮัด 1-0 จากประตูของ แมตตี้ แคช ทำให้สถานการณ์พลิกผันสุดๆ

โดยในครึ่งหลังนั้น วิลล่า หนีห่างไปเป็น 2-0 จากประตูของ เฟลิเป้ คูตินโญ่ ซึ่งทำให้สถานการ์ของ ลิเวอร์พูล ต้องการเพียงชัยชนะ ก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ทันที โดยต้องเอาใจช่วยทาง สิงห์ผงาด ให้รักษาสกอร์ไว้ให้ได้

แต่ในช่วงท้ายเกม ทาง แมนซิตี้ มายิง 3 ประตูรวดในเวลาไม่ถึง 10 นาที พลิกกลับมานำเป็น 3-2 แม้หลังจากนั้น หงส์แดง จะมายิงประตูขึ้นนำ หมาป่า เป็น 3-1 ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่เพียงพอ หลังอีกคู่จบลงด้วยผลสกอร์ดังกล่าว

ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์คว้า 4 แชมป์ เพราะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แชมป์ตกเป็นของทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการมี 93 คะแนน ส่วนพวกเขาตามมาเป็นอันดับสอง ด้วยการมี 92 คะแนน

4. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

พวกเขาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยได้โอกาสแก้มือกับ เรอัล มาดริด ที่เคยเอาชนะพวกเขาได้ในฤดูกาล 2017-18 ซึ่งในเกมนี้ทาง หงส์แดง เปิดเกมรุกเข้าใส่เต็มสูบ ตั้งแต่เริ่มเกม กดให้ทาง ราชันชุดขาว ได้แต่เล่นเกมรับเท่านั้น

แต่ต้องบอกว่าพระเอกของเกมนี้ ตกเป็นของ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูชาวเบลเยี่ยมของ มาดริด ที่เซฟช่วยทีมจนได้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ก่อนที่ ชุดขาว จะมาได้ประตูชัย จาก วินิซิอุส จูเนียร์ ในช่วงต้นครึ่งหลัง

แม้เวลาที่เหลืออยู่ ลิเวอร์พูล จะพยายามบุกเพื่อเอาประตูคืน แต่ก็ยิงไม่ผ่าน กูร์กตัวส์ จนจบเกม เป็นทางด้าน เรอัล มาดริด เอาชนะไปได้ 1-0 คว้าแชมป์สมัยที่ 14 ของตัวเอง ส่วนพวกเขา คว้าเพียงรองแชมป์เท่านั้น

บทสรุป

ถึงแม้ว่าพวกเขา จะคว้าแชมป์ได้เพียง 2 รายการ แถมเป็นสองฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ แต่เชื่อว่าแฟนบอล หงส์แดง น่าจะมีความสุขกันพอสมควร หลังจากผ่านฤดูกาลที่สุดแสนจะวิเศษ จะขาดก็เพียงโทรฟี่สองรายการใหญ่เท่านั้น

เพราะการได้เห็นทีม ลงเล่นทุกนัดในทุกรายการ ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ ลุ้นแชมป์ในทุกถ้วยที่ลงแข่งขัน น่าจะเป็นอีกความทรงจำ ที่ทุกคนต่างไม่มีวันลืม ว่าปีนี้ พวกเขาได้เชียร์ฟุตบอลกันจนจุใจขนาดไหน

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *