อีกหนึ่งลีกใหญ่ ที่น่าจะสนุกไม่แพ้ลีกใดๆ บนโลกใบนี้ คือลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี ที่สถานการณ์ ลุ้นแชมป์ กัลโช่เซเรียอา 2021-22 เรียกได้ว่ามันที่สุดในรอบหลาย 10 ปี จากที่ปกติ ลีกแดนมักกะโรนี จะวัดแชมป์กันเพียงไม่กี่ทีม และรู้ผลก่อนจบฤดูกาล ค่อนข้างนาน
แต่ไม่ใช่ในปีนี้แน่นอน เพราะพวกเรา เก่งหลังเกม จะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่า การลุ้นแชมป์ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2021-22 นั้น ทำไมถึงดุเด็ดเผ็ดมัน ไม่น้อยไปกว่าลีกขวัญใจชาวไทย อย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลยซักนิดเดียว
ลุ้นแชมป์ กัลโช่เซเรียอา 2021-22 ฤดูกาลที่ลุ้นกันสนุกที่สุดในรอบหลายปี
หากพูดถึงฟุตบอลอิตาลี หลายคนอาจจำติดภาพจำ ว่าทีมอย่าง ยูเวสตุส ผูกปีเป็นแชมป์ อยู่เพียงทีมเดียว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 ถึงฤดูกาล 2019-20 ยูเว่ ความแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้ 9 ฤดูกาล ติดต่อกัน
ซึ่งการผูกขาดแชมป์ อยู่ทีมเดียวอย่างนี้ ย่อมทำให้แฟนบอล รู้สึกเบื่อ โดยเฉพาะแฟนบอลทีมอื่นๆ ที่ทำได้เพียงนั่งมอง ม้าลาย คว้าแชมป์แบบตาปริบๆ อยู่เพียงทีมเดียว ขนาดฟุตบอลถ้วยอย่าง โคปปา อิตาเลีย พวกเขาก็เคยคว้าแชมป์ได้ 4 ฤดูกาลติดต่อกัน
เหตุผลที่เป็นอย่างนั้น มีหลายต่อหลายอย่าง ปัจจัยสำคัญ อาจจะมาจาก ความตกต่ำของเศรษฐกิจ ในประเทศอิตาลี ส่งผลต่อทีมฟุตบอล หลายต่อหลายทีม บางทีมก็เป็นอันต้อง มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสร เพื่อความอยู่รอด
ยกตัวอย่างสโมสร โรม่า ที่นอกจากจะเปลี่ยนเจ้าของ ก็ยังหนีไม่พ้น ปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ จนจำใจต้องขาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวที่ไม่เต็มใจนัก ยังรวมไปถึงอีกหลายๆ ทีม ที่ต้องขายนักเตะกิน เป็นเรื่องปกติ
แต่เจ้าของทีม ยูเวนตุส อย่างตระกูล อัญเญลลี่ ที่เป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย อย่างที่เรารู้จักกันดี อย่างกลุ่มเฟียต ที่เป็นเจ้าของ เฟอร์รารี่ทำให้สโมสร ยูเวนตุส ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
บวกกับการทำธุรกิจที่ค่อนข้างโหด สามารถเซ็นสัญญานักเตะ แบบไม่มีค่าตัวมาร่วมทีม ได้คนแล้วคนเล่า ก่อนที่จะปล่อยนักเตะออกไป ทำกำไรให้กับสโมสรมากมาย โดยที่ไม่กระทบต่อ คุณภาพโดยรวมของทีม
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ มาจากถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่สโมสรเคยได้หนล่าสุด ก็เมื่อฤดูกาล 1995-96 ทำให้ ม้าลาย ตัดสินใจสำคัญ โดยดึงตัว มิสเตอร์ยูซีแอล อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีมในปี 2018 ด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้าน ในขณะที่ CR7 อายุได้ 33 ปี
ซึ่งเป็นนโยบายแบบ Now or Never แล้วในท้ายที่สุด พวกเขาก็ไม่สามารถ คว้าถ้วยหูโตมาครองได้ อย่างที่ต้องการ แถมยังต้องแลกกับอะไรอีกมากมาย เริ่มจากการปลดกุนซืออย่าง อัลเลกรี ที่เคยพาทีมได้แชมป์ลีก 5 สมัยติดต่อกัน
แล้วการมาของ อินเตอร์ มิลาน ที่ได้เจ้าของใหม่ อย่างกลุ่มทุนซูหนิง ที่แม้จะทุ่มไม่อั้น จนสุดท้ายพา งูใหญ่ กลับมาคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ได้ในรอบ 10 กว่าปี แม้สุดท้ายจะถังแตก แต่เม็ดเงินของพวกเขา พาทีมยกระดับขึ้นมา
ทางด้าน เอซี มิลาน หลังจากเปลี่ยนเจ้าของในปี 2018 แม้จะไม่ได้หวือหวา แบบเพื่อนร่วมเมือง แต่พวกเขาก็ดีวันดีคืน จนทำให้ทีม ขึ้นมาจบในตำแหน่งรองแชมป์ เมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่ห่างหายจาก TOP4 มาเกือบ 10 ปีฃ
หรือแม้กระทั่ง นาโปลี ที่หลายปีหลัง ยกระดับตัวเอง มาเป็นทีมหัวแถวของลีก จากการที่มีเจ้าของทีมสุดเขี้ยว ทำให้พวกเขา แทบไม่เคยเสียตัวหลัก 10 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าจบหัวตาราง ทุกฤดูกาล
ยังไม่รวมทีมอย่าง โรม่า ลาซิโอ และ อตาลันต้า ที่ก็เป็นทีมหัวแถวของลีก มาโดยตลอด แม้หลายปีหลัง จะผีเข้าผีออก แต่โดยรวมแล้ว พวกเขาไม่ใช่ จะให้ใครกินง่ายๆ
ปัจจุบัน ลีกสูงสุดของอิตาลี เดินทางมาถึง โปรแกรมนัดที่ 33 แล้ว ซึ่งทาง เอซี มิลาน ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง โดยมี 71 คะแนน ตามมาด้วย อินเตอร์ มิลาน ที่แม้จะมี 69 คะแนน แต่พวกเขาแข่งน้อยกว่าทีมอื่น อยู่หนึ่งนัด
ส่วนอันดับสาม เป็นทาง นาโปลี ที่มี 67 คะแนน และอันดับสี่ในตอนนี้เป็น ยูเวนตุส ที่มีอยู่ 63 คะแนน เหลือเชื่อว่าจากทีมเต็งแชมป์ ปีก่อนต้องลุ้นถึงนัดสุดท้าย ถึงจะคว้าอันดับสี่มาครองได้
น่าเสียดายที่ อตาลันต้า ในสามนัดหลังสุดนั้น พวกเขาแพ้ 3 นัดรวด ไม่งั้นป่านนี้อาจจะมี 60 คะแนน ลุ้นท็อปโฟร์เหมือนกับ โรม่า ที่มี 58 คะแนน ฟิออเรนติน่า และ ลาซิโอ ที่มี 56 คะแนนเท่าๆ กัน
โดยเกมตกค้างทั้งหมด จะแข่งขันกันในวันที่ 27 เมษายน นี้ ซึ่งหลังจากนั้น ภาพต่างๆ น่าจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่บอกได้เลยว่า ปีนี้ลีกกัลโช่ เซเรีย อา ได้ลุ้นแชมป์กันจนถึง นัดสุดท้ายแน่นอนครับ
แฟนบอลโปรไลเซนส์