วันนี้มา สรุปผล คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ กันซักหน่อยครับ หลังจากรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลลีก คัพ หรือในชื่อปัจจุบัน ตามสปอร์เซอร์หลัก ของรายการ นั่นก็คือ คาราบาว คัพ ฤดูกาลปัจจุบัน ที่ผ่านพ้นไป จนทำให้เรา ได้คู่ชิงชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย เก่งหลังเกม จะมาสรุปผล ฟุตบอลรายการดังกล่าว ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน พร้อมกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา เช่นเคย
สรุปผล คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2021-22
คู่แรก เชลซี – ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
โดยในเลกแรก ทำการแข่งขันกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านของทาง เชลซี ซึ่ง สิงโตน้ำเงินคราม มาด้วยชุดใหญ่พอสมควร เช่นเดียวกับทาง ไก่เดือยทอง เพราะบอลคู่นี้ ศักดิ์ศรีมันค้ำคอสุดๆ
เริ่มเกมได้ไม่นาน เจ้าบ้านขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากการเพลสซิ่งสูง และเป็นทาง มาร์กอส อลอนโซ่ ตัดบอลได้ ในแดนของทาง ผู้มาเยือน และเป็นทาง ไค ฮาเวิร์ตซ์ ที่ยิงไปติด ดาวินซอน ซานเชซ แต่ก็เข้าประตูไปอยู่ดี เชลซี ขึ้นนำเร็ว ตั้งแต่นาทีที่ 5
และในช่วงท้ายครึ่งแรก จาเฟด ทันกันก้า โหม่งสกัดลูกฟรีคิก แต่บอลเจ้ากรรม ดันไปโดน เบน เดวีส์ เข้าประตูตัวเอง ซะอย่างนั้น ทำให้ทาง สิงห์ไฮโซ หนีห่างไปเป็น 2-0 ก่อนที่จะจบเกม ไปด้วยสกอร์นี้
ส่วนในเลกที่สอง กลับไปเล่นที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ท่ามกลางความได้เปรียบ ของผู้มาเยือน อย่าง สิงโตน้ำเงินคราม ที่ทำได้ดีกว่า ในเกมแรก ทำให้ทาง สเปอร์ส ต้องยิง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย หรือ 3 ประตูเพื่อเข้ารอบ
แต่เริ่มเกมไปได้ไม่นาน เชลซี ก็มาขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วเช่นเคย โดยเริ่มจากลูกเตะมุม ของเมสัน เม้าท์ ซึ่งทาง อูโก้ ยอริส ออกมาตัดบอล แต่หาบอลไม่เจอ บอลตกใส่หัว อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เข้าประตูไป ทำให้เกมแทบจะจบทันที
ตลอดเวลาที่เหลือ ก็เป็นทาง เชลซี ที่เล่นได้ดีกว่า แม้ทั้งสองทีม จะหาโอกาสทำประตู ได้พอๆ กันก็ตาม แต่ด้วยผลสกอร์ ที่ค่อนข้างขาด ทำให้ ไก่เดือยทอง ยิ่งเร่งยิ่งรน พอได้โอกาสเหน่งๆ กลับทำไม่ได้ จนจบไปด้วยสกอร์นี้
รวมผลสองนัด เชลซี เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้ 3-0 ผ่านเข้ารอบเป็นทีมแรก
คู่สอง ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล
คู่นี้ดีเลย์ เนื่องจากเลกแรก ต้องเลื่อนออกไปก่อน ทำให้นัดแรกที่แข่งกัน เป็นเกมที่ แอนฟิลด์ ซึ่งทั้งสองทีม ต่างขาดผู้เล่นหลายคน ที่ไปเล่น แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ แต่ทั้งสองทีม ก็จัดชุดที่ดีที่สุด ลงสนามกันทั้งคู่
ในครึ่งเวลาแรก ทาง ปืนใหญ่ เหลือผู้เล่น 10 คน อย่างรวดเร็ว จากจังหวะบอลยาว ของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แล้ว กรานิต ชาก้า ที่เป็นตัวสุดท้าย ดันไปตัวฟาวล์ใส่ ดิโอโก้ โชต้า ทำให้โดนใบแดง แบบเถียงไม่ได้
ตลอดทั้งเกม เป็นทาง หงส์แดง ที่โขยกเข้าใส่ ส่วนทาง ผู้มาเยือน ที่เหลือ 10 คน เปลี่ยนเอากองหลัง ลงมาเพิ่มเติม กะอุดเอาตัวรอด ค่อยไปวัดกันในเลกสอง ซึ่งทางเจ้าบ้าน ที่ขาดทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ หมดปัญญาที่เจาะประตู ทำให้เสมอกันไป 0-0
เลกสอง กลับไปเล่นกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกมนี้ทั้งสองทีม ยังส่งชุดใหญ่ลงเช่นเคย แต่ทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ผู้รักษาประตูสำรอง อย่าง เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ กับดาวรุ่งอย่าง เคด กอร์ดอน ออกสตาร์ทตัวจริง
เกมนี้ต้องบอกว่า ทีมเยือน ที่คุณภาพดีกว่า ยังครองเกมได้เยอะ แม้ช่วงแรกทาง ปืนโต จะได้ลุ้นอยู่บ้าง แต่ก็เป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่ขึ้นนำไปก่อน จาก ดิโอโก้ โชต้า ที่เป็นความหวัง ของแนวรุกทีมเยือน ในปัจจุบัน
ก่อนที่ในครึ่งหลัง พวกเขาจะหนีไปเป็น 2-0 จาก โชต้า คนเดิม เพิ่มเติมคือรับบอลจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ อีกครั้ง โดยในช่วงท้ายเกม โธมัส ปาร์เตย์ ที่เพิ่งจะแลนดิ้ง ลงมาเป็นสำรอง แล้วโดนสองเหลือง ไล่ออกไปอีกคน
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์รวม 2-0 เข้าชิงเป็นทีมที่สอง
แฟนบอลโปรไลเซนส์