หากพูดถึง ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในวงการฟุตบอลไทย ทีมนึงที่แฟนฟุตบอลไทย น่าจะนึกถึงกันเป็นทีมแรกๆ คงมี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในตัวเลือกเสมอ ที่เคยเป็นทั้งทีมแชมป์ไรพ่าย รวมถึงเคยอุดมไปด้วย นักเตะทีมชาติไทย ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง จนโค้ชเลือกใช้ไม่ถูก จนปัจจุบัน พวกเค้าหมดสภาพไปมาก จนหลายคนสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด
แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น กับทีม กิเลนผยอง ที่หากดูจากรายชื่อนักเตะภายในทีม แทบจะลืมไปเลย ว่านี้คือทีมเดียวกับไม่กี่ปีก่อนหน้า แถมยังมีข่าว เบี้ยวค่าเหนื่อยนักเตะ วันนี้ เก่งหลังเกม จะพาไปหาคำตอบกัน
เกิดอะไรขึ้นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด
หากพูดถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ของยอดทีมติดทางด่วน คงต้องไล่กันยาว ตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อทีม ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อทีมเป็น เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เพื่อลงเล่นฟุตบอล ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 โดยการนำของ ระวิ โหลทอง เจ้าของอาณาจักร สยามกีฬา สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ ในบ้านเรา
จนสามารถไต่ขึ้นสู่ลีกสูงสุด แถมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของสยามประเทศ ได้ตั้งแต่ปีแรกที่ขึ้นมา สร้างประวัติศาสตร์ 3 ปี 3 แชมป์ จาก 3 ดิวิชั่น ซึ่งไม่รู้ว่าในโลกนี้ เคยมีใครทำได้รึเปล่า ต่อด้วยคว้าแชมป์ลีกในปี 2553 เท่ากับว่า 4 ปีที่ผ่านมา พวกเค้าคว้าแชมป์ลีกได้ทั้งหมด
ก่อนที่พวกเค้า จะได้ เอสซีจี หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย เข้ามาร่วมหุ้น บวกกับเป็นพาร์ทเนอร์ ทั้งเปลี่ยนเชื่อทีม และชื่อสนาม เป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ เอสซีจี สเตเดี้ยม ตามลำดับ และสามารถคว้าแชมป์ไทยลีก แบบไร้พ่าย เป็นทีมแรกของประเทศไทย
แม้พวกเค้าจะดรอปลงไป 2-3 ปี แต่ในปี 2016 เกิดปัญหาในทีม บีอีซี เทโรศาสน ทำให้ตอนนั้น กิเลนผยอง ได้ดึงตัวผู้เล่นทีมชาติ มาจากทาง มังกรไฟ เกือบยกทีม
ไล่ตั้งแต่ ชนาธิป สรงกระสินธ์, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ทริสตอง โด, อดิศักดิ์ ไกรษร รวมถึง ธีราทร บุญมาทัน มาจากคู่แข่งโดยตรง อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ทำให้ฤดูกาล 2016 พวกเค้าสามารถคว้าแชมป์ไทยลีก ได้อย่างลอยลำ แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังช่วงต้นปี มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ นายกสมาคมฟุตบอลไทย ตามมาซึ่งการเปลี่ยน ผู้ดูแลผลประโยชน์ของทีมชาติไทย
เพราะของเดิม บริษัทที่ดูแลผลประโยชน์ของทีมชาติไทยเสมอมา คือทาง สยามกีฬา ที่กลุ่มทุนดังกล่าว เป็นเจ้าของทีม กิเลนผยอง แบบที่ใครๆ ก็รู้กันดี มาเป็นบริษัท แพลนบี
หลังจากนั้นก็ที่รู้ๆ กัน พวกเค้าเสียตัวหลักออกไปทีละคนสองคน บ้างก็ว่าส่งนักเตะไปเล่นต่างประเทศ ทั้ง ธีรศิลป์ ชนาธิป ธีราทร และ กวิน แต่นักเตะคนอื่นๆ ที่พวกเขาดึงตัวมา ก็ถูกปล่อยตัวออกไปหมด แม้กระทั่งลูกหม้อคนสำคัญ อย่าง สารัช อยู่เย็น
ซึ่งประเด็นสำคัญ เอาแบบชัดเจนเลยคือเรื่องเงิน เพราะหลังจากเจอ โควิด-19 เมืองทอง มีปัญหาเรื่องเงินอย่างหนัก โดยเฉพาะค่าเหนื่อยที่จ่ายไม่ไหว แม้จะมีสปอนเซอร์ระดับ เอสซีจี หนุนหลังอยู่ก็ตาม
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ สยามกีฬา ขาดทุนต่อเนื่องทุกปีหรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าตั้งแต่เสียสิทธิ์ในการดูแลผลประโยชน์ ของทีมชาติไทยไป พวกเค้าขาดทุนยับเยิน จนอาจจะกระทบกับ สโมสรฟุตบอล ที่พวกเค้าดูแลอยู่
ต้นปีก็เป็นทาง ดัง วาน ลัม ที่แยกทางจากปัญหาเรื่องเงิน จนล่าสุด วิลเลียน พ็อพพ์ ก็มีข่าวว่าโดนเบี้ยวค่าเหนื่อย และค่าคอมมิชชั่น หลังทาง กิเลนผยอง ขอจ่ายค่าเหนื่อยแค่ 70%
และวีรกรรมล่าสุด ที่โดน ศฤงคาร พรหมสุภะ ร้องเรียนไปยัง 3 องค์กร ว่าเขาโดนเบี้ยวค่าเหนื่อย จน เมืองทอง อยู่ไม่ไหว ต้องหั่นกองหลังทีมชาติไทย พ้นทีมเป็นที่เรียบร้อย
ที่สำคัญที่สุด หากใครสังเกตุดูดีๆ ว่าตอนนี้พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อทีม กลับมาเป็น เมืองทอง ยูไนเต็ด และใช้ชื่อสนามเหย้าว่า ธันเดอร์โดม โดยมีสปอนเซอร์คาดอกเป็น ยามาฮ่า ซึ่งก็เข้าเค้าที่ลือกันมานาน ว่าพวกเค้าจะแยกทางกับ เอสซีจี หลังร่วมงานกันมา 8 ปี
เนื่องจาก ผู้สนับสนุนหลักของพวกเค้า มองว่าทีมไร้ความสำเร็จ โดยไม่สามารถคว้าโทรฟี่มาได้หลายฤดูกาลแล้ว จนปล่อยให้สัญญานั้นหมดลงไป หลังจากฤดูกาลที่ผ่านมานั่นเอง
นั่นก็คงเป็นสาเหตุสำคัญ ว่าทำไม กิเลน ที่เคย ผยอง ในอดีต ถึงกลายเป็นทีมที่ดันแข้งดาวรุ่งเป็นหลัก จนห่างไกลกับความสำเร็จ ต่างกับในช่วงเวลาที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต จนอาจจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว หากเจ้าของสโมสรนั้นไม่มีการเปลี่ยนมือ
แฟนบอลโปรไลเซนส์