เทคโอเวอร์ นิวคาสเซิล สร้างผลกระทบขนาดไหนกับโลกฟุตบอล

หนึ่งในข่าวใหญ่ ในโลกฟุตบอลชั่วโมงนี้ คงหนีไม่พ้นข่าว เทคโอเวอร์ นิวคาสเซิล ของกลุ่มทุน PIF จากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องการเปลี่ยนเจ้าของธรรมดา แต่กลายเป็นว่า ทาง สาลิกาดง กลายเป็นทีมที่มีเจ้าของ รวยที่สุดในโลก

โดย เก่งหลังเกม จะมาชวนเพื่อนๆ วิเคราะห์ไปพร้อมๆ กัน ว่าการที่เจ้าของทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปลี่ยนมือ ส่งผลกระทบต่อโลกฟุตบอลขนาดไหน

เทคโอเวอร์ นิวคาสเซิล สร้างผลกระทบขนาดไหนกับโลกฟุตบอล

อย่างแรก อยากลองให้เพื่อนๆ มองทีมอย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เสียก่อน ด้วยทีมเหล่านี้ ห่างหายจากการลุ้นแชมป์มานานมากแล้ว แต่ปัจจุบัน พวกเค้าเป็นทีม TOP10 ของโลก แบบไม่ต้องสงสัยเลย

ซึ่งปัจจัยสำคัญ คงปฏิเสธไม่ได้ ว่ามาจากเงินอัดฉีด จากเจ้าของสโมสร ที่เปลี่ยนจากทีมธรรมดา ที่วนเวียนอยู่กลางตารางบ้าง หัวตารางบ้าง กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ทุกปี

หากไปดูปีแรกๆ ที่พวกเขาถูกเทคโอเวอร์ จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ว่าเงินเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้พวกเขากลับมายืนแถวหน้าของยุโรปได้ ด้วยการทุ่มซื้อตัวแบบตลาดปั่นป่วน กันเลยทีเดียว

ซึ่งต่างจากทีมทั่วไป ที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง การจะยกระดับตัวเอง จากทีมธรรมดาทั่วไป ให้ไปสู้กับทีมหัวตาราง ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก ถึงมากที่สุดเลย

ทำให้หลายคนมองว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่มีเจ้าของรวยล้นฟ้า ขนาดได้ถูกจัดอันดับ ว่าเป็นทีมที่ทรัพย์สินของเจ้าของทีม มีเยอะที่สุดในโลก จะต้องทุ่มเงินไล่ล่าความสำเร็จ เหมือนกับที่ สามทีมที่เรายกตัวอย่างให้ฟัง

เพราะแม้จะมี กฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ที่เป็นเหมือนดาบอาญาสิทธิ์ของ ยูฟ่า แต่จากกรณีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ผ่านมา ทำให้แฟนบอลทั่วไป มองกฎดังกล่าวเหมือน เสือกระดาษ เท่านั้น

แน่นอนว่า กลุ่มแรกที่จะได้รับผลกระทบ คือเหล่าหัวตาราง ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้ง 6 ทีม อย่าง แมนซิตี้ แมนยู ลิเวอร์พูล เชลซี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ อาร์เซน่อล ที่ถูกเรียกกันว่า BIG6 อันหมายถึง ทีมใหญ่ทั้งหก ในพรีเมียร์ลีก

ด้วยโควต้าบอลยุโรป ถ้วยใหญ่ อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นมีเพียง 4 ใบ (หรือเต็มที่ 5 ใบ) เท่านั้น ในปัจจุบัน พวกเขาก็แย่งตั๋วรายการนี้ กันแทบตายอยู่แล้ว หากมีอีกทีมเข้าร่วมชิงชัย เท่ากับเพิ่มอุปสรรคมากขึ้น ตามไปด้วย

นั่นจึงทำให้ก่อนหน้านี้ มีข่าวออกมา ว่าเหล่าทีมใหญ่ของอังกฤษ ต่างพยายามทำให้ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเหตุผลดังกล่าวนั่นเอง แต่ในท้ายที่สุด ดีลนี้ก็เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

ทำให้หลังจากนี้ แม้จะต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่พวกเขาเหล่านี้ ต้องเจอกับคู่แข่งสุดหินแน่นอน แถมในระยะยาว อาจจะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง มากขนาดที่พวกเขาไม่เคยเจอมา

ยิ่งเมืองอย่าง นิวคาสเซิล เป็นเมืองไม่กี่เมือง ที่มีทีมฟุตบอลทีมเดียว บวกกับสนามแข่งขันอันใหญ่โต ปัจจุบันจุคนดูได้ 5 หมื่นกว่าคน เท่ากับว่าพวกเค้ามี วัตถุดิบที่เป็นพื้นฐาน ที่เหมาะแก่การพัฒนาอย่างมาก อยู่แล้ว

ส่วนในทวีปยุโรป แม้อาจจะยังไม่ได้อยู่ในสายตา ในระยะอันใกล้นี้ก็ตาม แต่ด้วยการเงินระดับไม่อั้น พร้อมเปย์ยับๆ พวกสโมสรของสุลต่านทั้งหลาย อย่าง แมนซิตี้ และ เปแอสเช ลำบากแน่

ด้วยขนาดปัจจุบัน พวกเค้ามีเงินใช้ก็แทบจะไม่อั้นเหมือนกัน แต่หลังจากซื้อสโมสรมาเกือบ 10 ปีแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสถ้วยนี้เลย ผิดกับทาง เชลซี ที่ช่วงหลังเดินได้ด้วยขาของตัวเอง สามารถคว้าแชมป์มาได้ ถึงสองหนด้วยกัน

และประเด็นสำคัญที่สุด น่าจะเป็นเรื่องราคาของนักฟุตบอล ที่ก่อนหน้านี้ ราคาของนักเตะแต่ละคน ค่อนข้างสูงเกินความเป็นจริง อันเกิดมาจาก ดีลของ ป๊อกบา, เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้

ซึ่งเราจะไม่พูดถึงรายละเอียด ว่าแต่ละดีลนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่จะพูดกันถึงประเด็นที่ว่า สโมสรต้นสังกัด รู้ว่าคู่ค้าของพวกเขามีเงินนั่นเอง

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือดีลของ บาร์เซโลน่า กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในดีลของ เนยมาร์ โดยในฤดูกาลนั้น บาซ่า ต้องเสียเงินซื้อสองผู้เล่นอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ และ เฟลิเป้ คูตินโญ่ ด้วยราคาที่แพงกว่าที่พวกเขาขาย เนย์มาร์ เสียอีก

นั่นคือตัวอย่างอันดี ว่าการที่ผู้ขายรู้ว่าผู้ซื้อมีเงิน เลยทำให้ต้องซื้อผู้เล่นด้วยค่าตัวเกินจริง กันมาหลายฤดูกาล จนกระทั่งเกิด โควิด-19 จนหลายสโมสร ต้องขายผู้เล่นในราคาที่ถูกลง อย่างเลี่ยงไม่ได้

ทีนี้ลองนึกภาพ ทีมอย่าง นิวคาสเซิล ที่แทบจะไม่มีแรงจูงใจใดๆ เลยนอกจากเงิน เงิน แล้วก็เงิน การที่จะซื้อนักฟุตบอลฝีเท้าดีซักคน เข้ามายกระดับทีม จะต้องถูกโขกราคา จากสโมสรต้นสังกัดขนาดไหน

เชื่อว่าปัญหานี้ จะลามไปสู่ทีมอื่นๆ ในวงการฟุตบอลแน่นอน ไม่ใช่แม้แต่ทาง สาลิกาดง ทีมเดียว อย่างเช่นผลกระทบ ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ก่อนจะโดนโควิดยั้งเอาไว้ในปัจจุบัน

และอีกหนึ่งปัญหา คือเรื่องค่าเหนื่อยของนักเตะ ซึ่งก็เป็นผลตามมา จากปัญหาแรก เพราะเหล่าเอเยนต์ของผู้เล่นฝีเท้าดี ต้องโขกสับเรียกค่าเหนื่อย และเงินกินเปล่ามหาศาลแค่ไหน กับทีมที่ยังไม่ได้ลุ้นอะไร แต่ว่ามีเงินไม่จำกัด

ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหานี้จะกัดกินวงการฟุตบอล ในระยะยาวแน่นอน โดยทีมที่จะได้รับผลกระทบ จะไม่ใช่แค่ในอังกฤษเท่านั้น แต่รวมถึงทีมชั้นนำทุกทีม ในโลกของฟุตบอล

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *