ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2021 ปิดม่านลงอย่างเป็นทางการ หลังเกมรอบชิงที่สาม และรอบชิงชนะเลิศ ต่างก็ลงเล่นไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยพวกเราก็ผลลัพธ์ของฟุตบอลรายการใหม่ของยูฟ่า ที่ทำการแข่งขันกันครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง
วันนี้ เก่งหลังเกม จะพาเพื่อนๆ มาสรุปผล ของฟุตบอลรายการดังกล่าว ตั้งแต่ลีกล่างสุด ยันลีกสูงสุดเลยครับ
บทสรุป ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2021
เริ่มจาก League D
D1 มีอยู่ด้วยกัน 4 ทีม ได้แก่ อันดอร์ร่า, หมู่เกาะแฟโร, ลัตเวีย และมอลต้า ทีมที่เป็นแชมป์กลุ่ม เป็นทาง หมู่เกาะแฟโร ที่เก็บได้ 12 คะแนน จากการชนะ 3 เสมอ 3 ได้เลื่อนไปเล่นใน ลีก C ในครั้งหน้า ส่วนทีมอื่นๆ จะอยู่ในลีก D ต่อไป
D2 มีเพียง 3 ทีมเท่านั้น ได้แก่ ยิบรอลตาร์, ลิกเตนสไตน์ และ ซาน มาริโน่ และก็เป็นทาง ยิบรอลตาร์ ที่ได้เลื่อนชั้นไป หลังจากเก็บได้ 8 คะแนน จากการชนะ 2 เสมอ 2
ต่อกันที่ League C
C1 อาเซอร์ไบจาน, ไซปรัส, ลักแซมเบิร์ก และ มอนเตเนโกร ซึ่งเป็นทาง มอนเตเนโกร ที่ได้เลื่อนชั้น หลังเก็บชัยชนะได้ถึง 4 นัด ส่วนอีกสองนัด เสมอ แพ้ อย่างละนัด ส่วนทาง ไซปรัส จบบ๊วยของกลุ่ม ต้องไปเพลย์ออฟ หาทีมตกชั้น
C2 อัลเมเนีย, เอสโตเนีย, จอร์เจีย และ มาร์ซิโดเนียเหนือ เป็นทางฝั่ง อาร์เมเนีย ที่จบแชมป์กลุ่ม หลังเก็บได้ 11 คะแนน จากการชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 ด้านบ๊วยของกลุ่มได้แก่ เอสโตเนีย
C3 กรีซ, โคโซโซ, มอลโดว่า และ สโลเวเนีย โดยเป็นทาง สโลเวเนีย ที่เก้บแชมป์กลุ่มได้แบบลุ้นหนักเหมือนกัน หลังมีคะแนนนำ อันดับ 2 อย่าง กรีซ เพียง 2 คะแนนเท่านั้น ส่วนบ๊วยอย่าง มอลโดว่า ถือว่าอาการหนัก เก็บได้เพียงแต้มเดียว
C4 อัลแบเนีย, เบลารุส, คาซัคสถาน และ ลิทัวเนีย ทีมที่ได้เลื่อนชั้นสู่ลีก B ได้แก่ อัลแบเนีย ที่เบียดกับ เบลารุส แบบมีเสียว หลังเก็บได้ 11 ห่างจากอันดับสองเพียงแต้มเดียว ด้านบ๊วยได้แก่ คาซัคสถาน
โดยบ๊วยของทั้ง 4 กลุ่ม อย่าง ไซปรัส, เอสโตเนีย, มอลโดว่า และ คาซัคสถาน จะต้องไปเพลย์ออฟ แบบเหย้า-เยือน เพื่อหาสองทีมที่จะลงไปเล่นในลีก D ในช่วงเดือนมีนาคม ปีหน้า ซึ่งผลการจับคู่ได้แก่ มอลโดนว่า – คาซัคสถาน และ เอสโตเนีย – ไซปรัส
ขยับมาที่ League B
B1 ออสเตรีย, ไอร์แลนด์เหนือ, นอร์เวย์ และ โรมาเนีย ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ ออสเตรีย ที่จะได้ขึ้นสู่ลีกระดับสูงสุด ในครั้งหน้า ส่วนบ๊วยได้แก่ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ต้องลงไปเล่นในระดับซี
B2 สาธารณรัฐเช็ก, อิสราเอล, สกอตแลนด์ และ สโลวาเกีย แชมป์กลุ่มได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งก็สมราคาที่โชว์ฟอร์มได้ดีใน ยูโร 2020 ส่วน สโลวาเกีย ที่ต้องตกชั้น ถือว่าน่าผิดหวังสุดๆ
B3 ฮังการี, รัสเซีย, เซอร์เบีย และ ตุรกี ซึ่งค่อนข้างเป็นกลุ่มที่สูสีกันมาก แต่ทีมที่ได้แชมป์กลุ่ม และได้เลื่อนชั้น เป็นทางด้าน ฮังการี ที่โชว์ฟอร์มใน ยูโร รอบสุดท้ายได้ดี สู้กับทีมใหญ่ได้หมด ส่วน ตุรกี ที่บู่สุดๆ ในรายการนี้ถึงขั้นตกชั้น ไปเล่นลีก C เลยทีเดียว
B4 บัลแกเรีย, ฟินแลนด์, ไอร์แลนด์ และ เวลส์ เป็นทาง มังกรแดง ที่ได้แชมป์กลุ่ม ด้วยฟอร์มสุดโหด ชนะ 5 เสมอ 1 ส่วน บัลแกเรีย ที่ต้องตกชั้น มีเพียง 2 คะแนนเท่านั้น จาก 6 นัด
ซึ่งลีกนี้ดูค่อนข้างง่าย ทีมไหนแชมป์ก็ได้เลื่อนชั้ ไปเล่นในลีกสูงสุด ส่วนทีมไหนจบบ๊วย ก็ลงไปเล่นลีก C
ลีกสูงสุด League A
A1 บอสเนีย, อิตาลี, ฮอลแลนด์ และ โปแลนด์ ซึ่งแชมป์กลุ่มตกเป็นของ อิตาลี และจะได้ไปเล่นในรอบไฟนอล ส่วนบ๊วยกลุ่มอย่าง บอสเนีย ก็ต้องลงไปเล่นในลีก B
A2 เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, อังกฤษ และ ไอซ์แลนด์ เป็น เบลเยี่ยม ที่ชนะเกือบทุกเกม ยกเว้นเกมที่แพ้ อังกฤษ แบบมีจังหวะปัญหา ส่วน ไอซ์แลนด์ ก็ตามสภาพ เก็บไม่ได้เลยแม้แต่แต้มเดียว
A3 โครเอเชีย, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส และ สวีเดน แชมป์กลุ่มเป็นของแชมป์โลก ที่ทำผลงาน ชนะ 5 เสมอ 1 ส่วนบ๊วยอย่าง สวีเดน มีสามแต้ม เท่ากับทาง โครเอเชีย แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง
A4 เยอรมัน, สเปน, สวิสเซอร์แลนด์ และ ยูเครน โดยแชมป์กลุ่มเป็นของทัพ กระทิงดุ ที่มาแซง อินทรีเหล็ก ในนัดสุดท้าย ส่วนบ๊วยเป็นของ ยูเครน
รอบไฟนอล
ในลีกสูงสุดนี้ จะเอาแชมป์กลุ่มของแต่ละกลุ่ม ไปเพลย์ออฟเพื่อหาแชมป์ต่อไป ส่วนบ๊วยต้องลงไปเล่นในลีก B
โดยรอบไฟนอล มี อิตาลี ที่รับหน้าที่เจ้าภาพ
ในรอบรองชนะเลิศ คู่แรก อิตาลี พ่าย สเปน คาบ้านตัวเอ 1-2 ส่วนคู่ที่สอง เบลเยี่ยม แพ้ ฝรั่งเศส 2-3 ทั้งๆ ที่นำไปก่อน 2-0 ทำให้รอบชิงเป็นการพบกันของ สเปน และ ฝรั่งเศส
แต่รายการนี้มีรอบชิงที่สามด้วย โดยเป็น อิตาลี ที่เฉือนเอาชนะ เบลเยี่ยม ไป 2-1 แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะทั้งสองทีมเน้นส่งสำรองลงมาสัมผัสเกม ซึ่งต้องบอกว่าสำรองของ อัซซูรี่ เหนือกว่าเยอะเลย
ส่วนรอบชิง เป็นทาง ฝรั่งเศส ที่เอาชนะ สเปน ไปได้ 2-1 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรก หลังทำการแข่งขันไปเพียง 2 หน แต่มีประเด็นปัญหานิดหน่อย ว่าประตูชัยของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ นั้นหลายคนมองว่าเจ้าตัวลำหน้าไปก่อนแล้ว
บทสรุปในรายการนี้ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นรายการที่ ยูฟ่า คิดขึ้นมาเพื่อหารายได้เข้าองค์กรเท่านั้น โดยมาแทนเกมกระชับมิตรที่ไม่มีความหมาย แต่ในมุมของนักเตะ เรียกว่าเตะกันแทบลากเลือดเลย
แฟนบอลโปรไลเซนส์