เอริค เทน ฮาก

วันนี้เอาใจแฟนบอล ปีศาจแดง กันซักหน่อย หลังตกอยู่ในยุคมืดมานานหลายปี จนปัจจุบันได้แค่มอง 2 อริ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จกันสองทีม โดยวันนี้พวกเราจะพาไปคุย กับว่าที่กุนซือใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก กันครับ

ซึ่ง เก่งหลังเกม จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเจ้าตัว พร้อมกับเส้นทางในสายอาชีพ ว่าทำไมแฟนบอลหลายคน ถึงหวังว่ากุนซือชาวดัตช์ผู้นี้ จะพาทีมออกจากเหว ออกไปสู่แสงสว่าง อย่างที่เคยเป็นมา พร้อมกันกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ดีๆ จากพวกเราเช่นคย

รู้จักกับ เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใหม่

อดีตนักเตะชาวดัตช์ ที่แม้จะค้าแข้งในประเทศ มากว่า 13 ปี แต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จ ในฐานะนักเตะมากนัก ซึ่งหลังจากเลิกเล่น ในปี 2002 กว่าที่เจ้าตัว จะก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้จัดการทีมได้ ต้องผ่านการเรียนรู้ เป็นเวลากว่า 10 ปี

โดยปัจจุบันเจ้าตัวอายุ 52 ปี เริ่มงานโค้ชหลังจากเลิกเล่นทันที แต่กว่าที่จะมาเป็นเฮ้ดโค้ช ต้องรอถึงในปี 2012 กับสโมสรโก อเฮด อีเกิ้ลส์ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียงปีเดียว พาทีมขึ้นสู่ลีกสูงสุด ในการเพลย์ออฟได้สำเร็จ

ก่อนที่ในปี 2013 เจ้าตัวจะย้ายมาคุม บาเยิร์น 2 หรือทีมสำรอง ซึ่งแม้หลายคนจะมองว่า เป็นการเดินถอยหลัง แต่เอาเข้าจริงๆ สโมสรอย่าง เสือใต้ มีรูปแบบการเล่นเดียวกัน ของทีมทุกชุดอยู่แล้ว

แถมกุนซือใหญ่ ที่เข้ามารับตำแหน่งพร้อมกัน ไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือชาวสเปน ที่พา บาร์เซโลน่า สถาปนาตัวเอง กลายเป็นทีมต่างดาวในยุคนั้น ซึ่งแน่นอนว่า ส่งผลต่ออาชีพกุนซือของเจ้าตัว

จากคำสัมภาษณ์ของเจ้าตัว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ในการได้ร่วมทำงานกับ เป๊ป เนื่องจากหัวเรือใหญ่ ของทัพ บาเยิร์น ในเวลานั้น ต้องการให้ทีมชุดใหญ่ และทีมสำรอง ได้เล่นในรูปแบบเดียวกัน เพื่อความต่อเนื่อง

เท่ากับว่า แท็คติกการเล่น และรายละเอียดต่างๆ เจ้าตัวได้เรียนรู้จาก ยอดกุนซือคนนึงของโลก ทั้งสไตล์การเล่นเกมรุก เน้นการครองบอลเท้าสู่เท้า การเพลสซิ่งอันดุเดือด กลายเป็นอาวุธสำคัญของ เทน ฮาก ในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นในปี 2015 เจ้าตัวได้ย้ายกลับมาที่ฮอลแลนด์ โดยเข้ารับตำแหน่งกุนซือใหญ่ อีกครั้งนึง โดยการคุมทัพ เอฟซี อูเทร็คท์ และพาทีมจากกลางตาราง ขึ้นไปจบอันดับ 5 และอันดับ 4 ตามลำดับ

ต่อมาในปี 2017 เจ้าตัวได้โยกมาคุมทีม อาแจกซ์ ยักษ์ใหญ่ของลีก แต่ในเวลานั้น สโมสรไม่สมารถ คว้าแชมป์ลีกได้ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งในปีแรก ผลงานของทีม ก็ยังไม่กระเตื้องนัก โดยจบอันดับ 2 เช่นเดิม

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือสไตล์การเล่น และการให้โอกาสเยาวชน หลายต่อหลายคน ขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม อย่างเช่นในรายของ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ แฟรงกี้ เดอ ยอง และดอนนี่ ฟาน เดอ เบค จนทั้งสามราย กลายเป็นตัวหลักของทีม

และในฤดูกาลที่สอง เทน ฮาก ได้พา อาแจกซ์ กลับมาคว้าแชมป์ลีกฮอลแลนด์ ได้สำเร็จ แม้จะมาปาดหน้าคว้าแชมป์ ได้ในช่วงท้ายฤดูกาลก็ตาม แต่อีกผลงานชิ้นโบว์แดง คือการพาทีม เข้ารอบรอง ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฐานะม้ามืดได้อีกต่างหาก

แม้สุดท้าย พวกเขาจะแพ้ช็อคต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตกรอบไปอย่างน่าเจ็บใจก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าปีนั้น เหล่านักเตะของทีม และตัวกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก สามารถแจ้งเกิดได้เต็มตัว

หลังจากนั้น อาแจกซ์ มีการปล่อยนักเตะ ออกไปมากมาย ตามสไตล์ลีกฮอลแลนด์ ที่เน้นการปั้นนักเตะเพื่อส่งออก อันเป็นการสร้างรายได้ แถมเป็นการยกระดับผู้เล่นในชาติ เพื่อผลประโยชน์ระยะยาว ของวงการฟุตบอลในประเทศ

แต่ทุกฤดูกาลถัดมา พวกเขายังสามารถ คว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมด แม้ในปี 2019-2020 ฟุตบอลลีกฮอลแลนด์ จะยกเลิกไปแบบไม่มีใครได้รางวัล แต่ในปีนั้น พวกเขาก็ยังนำเป็นจ่าฝูง รวมถึงในฤดูกาลปัจจุบันอีกด้วย

ปัจจุบัน เจ้าตัวจรดปากกา เซ็นสัญญาเข้ามาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะมีต้นทุนมากมาย แต่เต็มไปด้วยปัญหาในปัจจุบัน โดยสิ่งที่ว่าที่กุนซือ ปีศาจแดง จะต้องเจอนั้น คือการรับมือกับปัญหาร้อยแปด

แต่เชื่อว่าการมาของ ชายที่ชื่อว่า เอริค เทน ฮาก น่าจะทำให้ยักษ์หลับ อย่าง แมนยู ไม่ทุเรศลูกตาอย่างที่เป็น แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างนั้น ต้องใช้เวลา เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว แฟนบอลผีแดง อาจจะได้ตั้งฉายากุนซือใหม่ ของพวกเขาว่า เทน ฮวย ก็เป็นได้ครับ

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *