มาดูเกม เอเอฟเอฟ แชมเปี้ยนชิพ 2021 รอบรองชนะเลิศ เลกแรก กันครับ หลังจากศึกฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รอบรองชนะเลิศ ที่ปีนี้ยังยึดระบบ เหย้า-เยือน แบ่งออกเป็นการแข่ง 2 นัด เช่นเดิม แม้ปีนี้ทั้งรายการ จะเล่นกันที่ประเทศสิงคโปร์ จากปัญหา โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก
โดย เก่งหลังเกม ก็จะมาสรุปผลในเกมเลกแรก ก่อนที่เกมในเลกที่สอง จะลงเล่นกันในวันเสาร์ และวันอาทิตย์นี้
เอเอฟเอฟ แชมเปี้ยนชิพ 2021 รอบรองชนะเลิศ เลกแรก
คู่แรก สิงคโปร์ – อินโดนีเซีย
เกมนี้ทาง สิงคโปร์ ได้เปรียบสุดๆ อยู่แล้ว เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน ทุกนัดของการแข่งขัน เพราะเดิมที ในรอบรองชนะเลิศนี้ จะแข่งกันด้วยระบบ เหย้า-เยือน โดยไม่ได้สนใจชาติเจ้าภาพ แต่จากปัญหา โควิด-19 เลยทำให้ต้องแล่นกันที่ สิงคโปร์ ทั้งรายการ
แต่พวกเขามาในฐานะ ที่เป็นรองอยู่ เนื่องจากเข้ามาด้วยการ เป็นรองแชมป์ของกลุ่ม A แถมเป็นการผ่าน รอบแบ่งกลุ่ม ครั้งแรกในรอบหลายปี ส่วนทาง อิเหนา ที่เข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่ม B
ทั้งสองทีมมาด้วย ทีมชุดที่ดีที่สุด หวังช่วงชิงความได้เปรียบ ในเกมเลกแรก โดยรูปเกมของทั้งสองทีม ก็ถือว่าต่างกันพอสมควร โดย สิงคโปร์ ดูจะเล่นช้าไปทุกจังหวะ ดูคุณภาพของทีม ก็ยังห่างจากเพื่อนร่วมอาเซียน ไปพอสมควร
ซึ่งทาง อินโด เล่นแบบหนักหน่วง เล่นทั้งคน เล่นทั้งบอล บางจังหวะก็เล่นคนอย่างเดียว แต่ยังดีที่พอจะเป็นบอลมีทรง แถมยังมีการเล่นเพลสซิ่ง จนขึ้นนำไปก่อนในช่วงครึ่งแรก 1-0 จาก วิตัน สุไลมาน
ก่อนที่ครึ่งหลัง ลอดช่อง จะมาตีเสมอได้ จากประตูของ อิคซาน ฟานดี้ แข้งดาวรุ่ง ที่ปัจจุบันเตรียมย้ายมาเล่นในไทยลีก กับสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก เลกที่สอง ให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1
โดยในช่วงท้ายเกม อินโดนีเซีย ดูจะหมดแรง ตามสไตล์บอลที่วิ่งเยอะ แถมยังใช้ร่างกายเปลือง แต่ดีที่แนวรุกของทาง สิงคโปร์ ไม่ค่อยมีผิดมีภัยเท่าไหร่นัก แถมยังปล่อยโอกาสหลุดลอยไป หลายต่อหลายหน จนเกมจบลงด้วยสกอร์นี้ และต้องไปวัดกันต่อในนัดที่สอง
คู่ที่สอง เวียดนาม – ไทย
ถือเป็นเกมไฮไลท์ ของฟุตบอลอาเซียนเลย เพราะทั้งสองทีมนี้ ถือว่าเป็นการแย่งชิง การเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน โดยทั้งสองทีม พยายามใส่ชุดที่ดีที่สุด แต่ทางเวียดนาม ขายตัวหลักไปหลายราย ผิดกับทีมชาติไทย ที่จัดมาด้วยทีมชุดที่ดีที่สุด แถมได้พักมาในเกมสุดท้าย
รูปเกมก็เป็นทาง ช้างศึก ที่พยายามเซตบอลเข้าใส่ ส่วนทาง เวียดนาม ก็มารับแล้วรอสวน ตามสไตล์ของ ปาร์ค ฮัง ซอ แถมเกมนี้ยังเล่นติดดาบ มีจังหวะทุเรศ ตั้งแต่ต้นเกม จนนักบอลไทยอ่วมไปตามๆ กัน
แต่เรื่องจังหวะฟุตบอล เรียกว่าทาง ไทย ทำได้ดีกว่าหลายเท่า จนมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในช่วงต้นเกม จากจังหวะเตะวืดของ เหงียน ฟอง ฮง ดุย ทำให้ เมสซี่เจ หลุดไปเดี่ยวกับ ผู้รักษาประตูของเวียดนาม
อีกไม่นาน ช้างศึก ก็หนีห่างไปเป็น 2-0 เริ่มจากบอลของ กฤษดา กาแมน มาให้กับ ชนาธิป ชิ่งต่อไปให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนที่ พี่มุ้ย จะชิ่งกลับมาให้ เมสซี่เจ แล้วเบิ้ลต่อไปชิ่งเล่นกับ สารัช อยู่เย็น จนทำให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลุดเดี่ยว เข้าไปยิงให้ ไทย นำห่างออกเป็น 2 ประตู
ตลอดเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมก็ยังคงเล่นแบบเดิมๆ ไทย เองก็ไม่ได้มีโอกาสยิงเยอะ ส่วนทาง เวียดนาม ก็ยังเล่นบอลหน้าเดิมๆ แม้จะได้ลุ้นจากจังหวะสวนกลับ รวมถึงลูกตั้งเตะ แต่ก็ไปชนเสาชนคาน ซะหลายหน
จนช่วงท้ายเกม ไทย มาได้จุดโทษ แต่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะลุ้นทำแฮตทริค ดันยิงไม่เข้า ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 2-0 รวมถึงช่วงท้ายเกม เวียดนาม เป็นฝ่ายครองเกมได้เยอะกว่า แต่ก็เจาะ ไทย ไม่เข้า จนจบเกมด้วยสกอร์ 2-0
แฟนบอลโปรไลเซนส์