วันนี้มา สรุปผล คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ กันครับ หลังฟุตบอลถ้วยเล็ก ของประเทศอังกฤษ ลงเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยรอบนี้นั้นแข่งขัน 1 คู่ในคืนวันอังคาร ต่อด้วยอีก 3 คู่ในคืนวันพุธ
โดย เก่งหลังเกม จะมาสรุปผล เกมการแข่งขัน ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ทั้ง 4 คู่ ให้เพื่อนๆ พร้อมบทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา
สรุปผล คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ กับ 4 ทีมสุดท้ายของรายการ
คู่แรก อาร์เซน่อล – ซันเดอร์แลนด์
เกมนี้เล่นกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม บ้านของทาง ปืนใหญ่ ทำให้เกมนี้พวกเขา ค่อนข้างได้เปรียบ แถมคุณภาพของทีม ยังเหนือกว่าพอสมควร โดยพวกเขาอยู่ใน ลีกสุดของอังกฤษ ส่วนผู้มาเยือนนั้น อยู่ใน ลีกวัน หรือลีกดิวิชั่น 3 ของอังกฤษ
เจ้าบ้านส่งผู้เล่น โดยใช้ทีมผสมระหว่างตัวสำรอง กับตัวจริงที่ยังอยู่ในช่วงอายุน้อยๆ ส่วนทางผู้มาเยือน มาด้วยชุดจัดเต็มพอสมควร อาจจะมีเปลี่ยนแค่ ตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่เกมนี้ส่งตัวสำรองลงเล่น ซึ่งก็ทำทุกครั้ง ที่เล่นรายการนี้อยู่แล้ว
โดยเป็นทาง อาร์เซน่อล เอาชนะไปตามระเบียบ 5-1 โดยได้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริง ยิงแฮตทริคช่วยทีมเอาชนะ บวกกับฟอร์มเทพของ นิโคลัส เปเป้ แข้งค่าตัวแพง ที่นานๆ จะฟอร์มดี ผ่านเข้ารอบไปแบบสบายๆ
คู่ที่สอง เบรนท์ฟอร์ด – เชลซี
เป็นการเจอกันของ ทีมในระดับลีกสูงสุด ด้วยกันทั้งคู่ โดยเจ้าบ้านนั้น ส่งผู้เล่นชุดผสม ระหว่างตัวจริงกับตัวสำรอง ส่วนทางผู้มาเยือน มาด้วยชุดสำรองยกทีม แต่จากชื่อชั้น ก็ยังดูเหนือกว่าอยู่ดี
ทั้งสองทีมเคยเจอกันแล้ว ในเกมลีกฤดูกาลนี้ โดยเป็นทาง สิงโตน้ำเงินคราม ที่เป็นฝ่ายบุกมาชนะ ที่สนามแห่งนี้ได้ 1-0 ชี้ให้เห็นว่า ผึ้งน้อย ไม่ใช่ของง่ายสำหรับพวกเขา แม้จากชื่อชั้นและคุณภาพ ทาง แชมป์ยุโรป จะเหนือกว่ามากก็ตาม
สุดท้ายเป็นทาง เชลซี ที่เอาชนะไปได้ในท้ายที่สุด 2-0 แต่ก็ต้องรอถึงช่วงท้ายเกม กว่าจะมาได้ประตู จากลูกทำเข้าประตูตัวเอง และลูกจุดโทษ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปอีกทีม และเป็นทีมที่สอง จากเมืองหลวงของอังกฤษ
คู่ที่สาม ลิเวอร์พูล – เลสเตอร์ ซิตี้
ถือเป็นคู่ไฮไลท์ของรอบนี้เลย เพราะทั้งสองทีม ถือว่าเป็นทีมหัวแถวของพรีเมียร์ลีก แต่ทาง หงส์แดง ส่งสำรองลงยกชุด ผสมกับแข้งดาวรุ่งที่แฟนบอลอาจจะไม่คุ้นชื่อ โดยมีแข้งซีเนียร์บางราย ลงประคองน้องๆ ส่วนทาง จิ้งจอกสีน้ำเงิน มาด้วยชุดใหญ่ กะเอาตาย
แต่พูดกันจริงๆ การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส ในการกลับมาเยือนถิ่นเก่า มักทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก เกมนี้แม้ออกตัวแรง ทำได้ดีกว่าจนขึ้นนำไปก่อน 3-1 ในช่วงครึ่งแรก แต่ก็โดนทีเด็ดการแก้เกมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทำให้ครึ่งหลัง กลายเป็นหนังคนละม้วน
โดย ลิเวอร์พูล สามารถไล่ตีเสมอได้ จากประตูของ ดิโอโก้ โชต้า และประตูของ ทาคุมิ มินามิโนะ แข้งเลือดซามูไร ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ทีมฟื้นกลับมาได้ ทำให้หมดเวลาปกติ ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 3-3
ในส่วนของการยิงจุดโทษชี้ขาด สุดท้ายเป็นทางด้าน เจ้าบ้านที่ยิงแม่นกว่า เอาชนะไป 5-4 โดยทีมเยือน ยิงพลาดถึงสองคน ได้แก่ ลุค โธมัส และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ส่วนทางเจ้าบ้าน มินามิโนะ ยิงอัดเต็มข้อไปหน่อย เลยเช็ดคานออกไป อดเป็นฮีโร่ในการยิงลูกที่ 5
คู่ที่สี่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ – เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ทั้งสองทีมจัดทัพมาคล้ายๆ กัน คือการใช้ตัวหลักหลายราย แต่ก็มีการโรเตชั่นหลายตำแหน่ง ตามปกติของฟุตบอลรายการนี้ ซึ่งการเจอกันในลีกของทั้งคู่ เป็นทางด้าน ขุนค้อน ที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไป 1-0 แต่นั่นก็เป็นการเล่น ในบ้านของตัวเอง
โดยรวมเป็นทาง ผู้มาเยือน ที่เล่นได้ดีกว่า แม้แท็คติกของทีม จะเป็นบอลรอรับแล้วสวน ก็ตามที เนื่องจากสไตล์ของ สเปอร์ส ในมือ คอนเต้ เวลานี้ กลายเป็นทีมรับเต็มตัว แล้วฉวยจังหวะสวนกลับ จากบอลยาวเป็นหลัก
แต่เกมนี้พวกเขาได้สองประตู จากการทะลวงเข้าเขตโทษ แล้วได้สองประตูจาก สตีเฟ่น แบร์กไวจ์น และ ลูคัส มูร่า ในครึ่งแรก ให้ ไก่เดือยทอง เอาชนะไป 2-1 ส่วนทางทีมเยือน ได้ประตูจาก จาร์ร็อด โบเว่น ในช่วงครึ่งแรกเช่นกัน
แฟนบอลโปรไลเซนส์