นับว่าเป็นข่าวใหญ่ สำหรับวงการฟุตบอล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวนึงเลย หลังอนาคตของ โรมัน อับราโมวิช กับ เชลซี ต้นมีอันสิ้นสุดลง หลังจาก เสี่ยหมี ออกมาแถลง เตรียมขายสโมสร เชลซี หลังจากโดนกดดันอย่างหนัก
วันนี้พวกเราทีมงาน เก่งหลังเกม เลยจะมาชวนเพื่อนๆ คุยกันซักหน่อย ว่าที่ผ่านมา เจ้าตัวได้มีส่วนสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลง วงการฟุตบอล ขนาดไหน พร้อมกันกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา เหมือนเช่นเคย
โรมัน อับราโมวิช กับ เชลซี เปลี่ยนโลกฟุตบอลไปขนาดไหน
นับว่าเป็นเวลา เกือบ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ก้าวเข้ามาเป็น เจ้าของสโมสร เชลซี จนผลักดันสโมสรในด้านต่างๆ จนยกระดับทีมจาก ทีมระดับกลางค่อนบน ของวงการฟุตบอลอังกฤษ
กลายเป็นทีมหัวแถมของลีก รวมถึงในระดับทวีป และในระดับโลก ตามลำดับ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าทุกๆ อย่างล้วนมีที่มาจาก ชายที่คนไทยเรา เรียกกันติดปากว่า เสี่ยหมี
จุดเริ่มต้น เริ่มในปี 2003 ซึ่งในขณะนั้น ฟุตบอลอังกฤษ มีการขับเคี่ยวกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล โดยมี ลิเวอร์พูล นิวคาสเซิ่ล รวมไปถึง เชลซี เป็นทีมสอดแทรก
ซึ่งในฤดูกาล 2003-04 เชลซี นั้นก้าวขึ้นมาจบ ในอันดับ 2 ของตาราง เรียกว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุด ของพวกเค้า หากนับสถิติ หลังจากลีกสูงสุดของอังกฤษ เปลี่ยนมาเป็น พรีเมียร์ลีก
โดยแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล ที่ฤดูกาลนั้น ปืนใหญ่ สามารถเป็นแชมป์ลีกของอังกฤษ ได้แบบไร้พ่าย อันเป็นแชมป์ลีกครั้งสุดท้าย ของคู่แข่งสำคัญ จากเมืองลอนดอน อีกด้วย
ปัจจัยสำคัญ ที่ เสี่ยหมี ก้าวเข้ามาเปลี่ยน วงการฟุตบอล ไปแบบไม่มีวันหวนกลับ คือการทุ่มเงินส่วนตัว มาใช้อัดฉีดสโมสร ทำให้ในตอนนั้น สิงโตน้ำเงินคราม กลายเป็น สิงห์ไฮโซ ในช่วงข้ามคืน จากการใช้เงินโดนไม่จำกัด
ยิ่งในสมัยก่อน ไม่มีระบบ ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ทำให้การใช้จ่าย ทำได้โดยไม่ขัดข้อง และไม่มีสิ่งใดมาต้านทาน จนพวกเขาทุ่มเงิน ปีละกว่า 100 ล้านปอนด์ จนนำมาซึ่งแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก ในฤดูกาล 2004-05
เหตุที่สมัยก่อน ไม่มีระบบ ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ นั้น ก็เป็นเพราะ เงินที่จะนำมาใช้จ่ายในสโมสร ก็จะมาจากการหารายได้ ของสโมสรจากความเป็นจริง ทั้งจากสปอนเซอร์ รายได้จากการขายตั๋วเข้าชม ของที่ระลึก รวมไปถึงลิขสิทธิ์ต่างๆ
แต่ปัจจุบัน เทรนด์ของฟุตบอล เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จนกลายเป็นแฟชั่น ที่สโมสรฟุตบอล มักจะมองหาเจ้าของสโมสรรวยๆ ที่จะเข้ามาช่วยเปลี่ยนสโมสร ในชั่วข้ามคืน ไล่ตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนล่าสุด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
หากมองในระดับทวีป เราก็จะเห็นจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต จนกลายเป็นทีมกลางตาราง ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส พอหลังจากได้เจ้าของใหม่ ที่เป็นเศรษฐีน้ำมันเช่นกัน
และในปัจจุบัน เปแอสเช กลายเป็นแชมป์ผูกขาดลีกเอิง แม้จะมีบางปีที่พลาดแชมป์ แต่เชื่อว่าในระยะยาว ไม่มีใครสู้พวกเขาได้อยู่ดี และปัจจุบัน ก็เป็นทีมที่รวมตัว ซูเปอร์สตาร์ ของวงการลูกหนัง ไว้มากมาย
ซึ่งก็บอกได้เลยว่า มีการเลียนแบบ การดำเนินการ แบบเดียวกับที่ เสี่ยหมี ทำให้ เชลซี กลายเป็นทีมระดับท็อปของโลก ไปแบบยาวๆ แม้จะมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่พยายามออกมาแก้ การดิสรัปของมหาเศรษฐี
ปัจจุบัน เชลซี กลายเป็นทีมที่ยืนได้ด้วย ลำแข้งของตัวเอง จากนโยบายดึงตัว ดาวรุ่งฟอร์มแรง มาไว้เต็มสโมสร แล้วปล่อยออกไปในราคาสูง เพื่อนำมาใช้จ่าย รวมไปถึงซื้อนักเตะดังๆ มาร่วมทีม
แม้จะมีหนี้ ที่สโมสรติด โรมัน อยู่เป็นจำนวนกว่า 1,500 ล้านปอนด์ ก็ตาม แต่ เสี่ยหมี ก็ยอมยกหนี้ให้กับสโมสร แลกกับการขายสโมสร ได้มากตามไปด้วย แต่ก็เชื่อว่าเรื่องเงิน ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่ดี
สุดท้ายแล้ว การเข้ามาของ เสี่ยหมี ในปี 2003 ได้เปลี่ยนวงการฟุตบอลไปตลอดกาล เพราะในปัจจุบัน หากทีมใดคิดจะประสบความสำเร็จ หากปราศจาก เงินจำนวนมหาศาล แล้วละก็ เลิกคิดไปได้เลย
แฟนบอลโปรไลเซนส์