แดงเดือด อิน ไทยแลนด์

แววจะพัง ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย เพราะมี ดราม่า แดงเดือด อิน ไทยแลนด์ ออกมามากมาย ทั้งการนำสองสโมสร ที่มีแฟนบอล มากที่สุดในประเทศไทย รวมไปถึงการจัดจำหน่าย ตั๋วเข้าชม ที่คาราคาซัง จนฟุตจะแข่งแล้ว ยังเหลือตั๋วมากมาย

พวกเราทีมงาน เก่งหลังเกม ขอพาไปดู เหตุผลง่ายๆ ว่าทำไมเกมนัดดังกล่าว ถึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แบบที่เข้ากันได้ไม่ยากเลย

เหตุผลวุ่นๆ ของ ดราม่า แดงเดือด อิน ไทยแลนด์ ที่เข้าใจได้ไม่ยากเลย : เก่งหลังเกม by แฟนบอลโปรไลเซนส์

อย่างแรก การนำสองทีมหัวแถวของโลก มาเล่นในสถานที่ห่างไกล สิ่งที่ต้องแลกมา คือเม็ดเงินมหาศาล เพราะทั้งสองทีม คงไม่หวังที่จะมาปรีซีซั่น กันแบบฟรีๆ โดยต้องเดินทาง ข้ามจากยุโรป มายังทวีปเอเชีย

แม้การที่ทั้งสองทีม จะมีการทัวร์อยู่เป็นประจำ ทั้งในยุโรป เอเชีย หรือสหรัฐอเมริกา เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา คือการเล่นโชว์ เพื่อเงินค่าจ้าง พร้อมกับอุ่นเครื่อง นักเตะใหม่ๆ รวมถึงแข้งเยาวชน ให้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง

ดังนั้นสิ่งแรก ที่ผู้จัดจะต้องจ่ายออกไป คือเงินค่าจ้างระดับมหาศาล แบบคูณ 2 เพราะทั้งคู่รู้ดีอยู่แล้วว่า การเจอกันของพวกเขา มีมูลค่าทางการตลาด มากซักแค่ไหน

รวมไปถึงการจัดการ ที่ทำให้ทุกอย่าง แทบจะต้องทำกันใหม่หมด เริ่มจากพื้นสนาม โดยทาง ราชมัง แน่นอนว่า สนามหญ้าเดิม ไม่ผ่านมาตรฐานแน่ๆ ซึ่งการแก้ปัญหา คือการนำเข้าหญ้า จากประเทศออสเตรเลีย ตัวเดียวกับที่สนาม โอลด์แทรฟฟอร์ด

ไหนจะการปรับปรุง ที่นั่งในสนาม เพื่อให้ได้มาตรฐาน และสามารถจุผู้ชมได้มากขึ้น โดยครั้งนี้ จะมีการต่อเติมที่นั่ง ให้ติดชิดสนาม ลืมภาพลูวิ่ง ของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่แฟนกีฬาชาวไทยคุ้นตา กันไปได้เลย

แม้แต่โรงแรมที่พัก ก็ถือว่าระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ แน่นอนว่าทุกอย่าง ผู้จัดการแข่งขัน ต้องจ่ายเงินลงไป จนคาดเดาตัวเลขไม่ถูก ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขาจะต้องถอนทุนคืน ซึ่งรายได้ก็มีเพียงไม่กี่ทางครับ

โดยรายได้หลัก ที่พวกเขาคาดการณ์ ก็หนีไม่พ้นตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ซึ่งมีราคาสูง สูงในแบบที่ว่า สูงเxียๆ เลยก็ว่าได้ สตาร์ทจาก 5,000 บาท ที่อยู่สุดขอบสนาม ไล่เข้ามาจนถึง 25,000 ที่อยู่ติดชิดขอบ

ซึ่งราคาดังกล่าว เกินรายได้ขั้นต่ำ ของคนไทยออกไปไกล แม้ในอดีต จะเคยมีคนจัดศึกแดงเดือด ในอเมริกา ซึ่งตั๋วก็เริ่มต้นที่ 2,500 บาท เทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของพวกเขาแล้ว ทำงานวันเดียวก็ซื้อได้

ผนวกกับสถานการณ์ เศรษฐกิจของบ้านเรา ที่ต่อเนื่องมาจากภาวะ โควิด-19 ระบาด จนกระทบในวงกว้าง การที่ตั๋วดังกล่าวขายไม่หมด เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก และก็ไม่ใช่เรื่องที่เรื่องที่ผิดคาดนัก

อีกหนึ่งเหตุผล ที่ผู้จัดอาจจะมองข้ามไป คือแม้พวกเขา จะออกตัวการันตี ว่าจะมีผู้เล่นคนนั้น คนนี้เดินทางมาด้วย แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริง ว่าฟุตบอลนัดนี้ เป็นเพียงเกมอุ่นเครื่อง ที่เป็นเกมที่พวกเขาเล่นโชว์ ก็เท่านั้น

การจะจำหน่าย บัตรเข้าชม ด้วยราคาขนาดนี้ เป็นเรื่องที่คนมีสติ มักจะไม่ทำกัน เพราะหากเทียบกัน กับเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ คริสตัน พาเลซ ที่สิงคโปร์ ในไม่กี่วันหลังจากนั้น มีราคาเพียงหลักพันเท่านั้น

เทียบกับเกมนัดทางการ โดยเป็นศึกแดงเดือด ไม่ว่าจะที่สนามแอนฟิลด์ หรือสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ที่ทั้งสองทีม ต้องสู้กันลืมตาย ก็มีราคาไม่ถึงหลัก หมื่นบาทด้วยซ้ำ

สิ่งที่ตามมา หลังมีตั๋วเหลือจำนวนมาก เหลืออยู่ ในขณะที่การแข่งขัน ก็เข้าใกล้มาทุกวัน สิ่งที่ทางผู้จัดหาทางออก คือการออกข่าวว่า แม้ค้าออนไลน์ท่านนึง ได้เหมาบัตรที่เหลืออยู่ ไปทั้งหมด

แล้ว แม้ค้าออนไลน์ คนดังกล่าว ก็ได้ออกมา ลดราคาบัตร จาก 20,000 บาท เหลือ 15,000 บาท เพราะทางผู้จัดเอง ไม่สามารถลดราคาเองได้ เพราะคงจะโดนคนที่ซื้อไปก่อน ฟ้องจนล่มจมกันไปข้าง

ซึ่งเหตุผลว่า มีคนซื้อออกไป แล้วรีเซล ด้วยราคาที่ต่ำกว่า เป็นสิ่งที่ไม่มีมนุษย์ที่ไหนเขาทำกัน หลายคนก็เลยมองว่า เป็นเพียงละครตบตา ว่าเป็นการจ้างขายแล้วแบ่งเปอเซนต์ ดั่งคำที่ว่า กำขี้ดีกว่ากำตด

ตามด้วยเรื่องดราม่า ตามมาอีกมากมาย ทั้งตั๋วกินข้าว บลา บลา บลา หรือจะเป็นการที่ ผู้จัดออกมาแถลงว่า เป็นตั๋วที่เหลือจากสโมสร จนทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ออกมาแถลงร่วมกัน แบบไม่เคยมีมาก่อน

ว่าสโมสรไม่สนับสนุน การเอาตั๋วเข้าชมดังกล่าว ออกมารีเซลเป็นอันขาด รวมถึงปฏิเสธอย่างแข็งขัน เกี่ยวกับการซื้อตั๋วดังกล่าว ว่าจะมีอภิสิทธิ์ ได้ทานข้าวกับผู้เล่น ของทั้งสองสโมสร

เช่นเดียวกับที่มีข่าว ออกจากสโมสรมาตั้งแต่แรก ว่าตั๋วเข้าชมในนัดดังกล่าว สามารถหาซื้อได้จาก Thai Ticket เท่านั้น ทางผู้จัดอาจจะลืมไปว่า นี่มันโลกในยุคสมัยไหนแล้ว การเนียนๆ โกหกเหมือนสมัยก่อน ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว

ยิ่งสมัยนี้ การที่แฟนบอลธรรมดา จะติดต่อสอบถาม ไปที่สโมสร เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ยิ่งกว่าปอกกล้วย แถมยังมี Digital Footprint ที่ออกมาพูดอะไรซักที ตามลบจาก Internet ไม่ได้ตลอดไป

แม้ว่าฟุตบอล จะอยู่คู่กับธุรกิจ แบบแยกไม่ออกก็ตาม แต่ด้วยโลกสมัยนี้ การทำธุรกิจแบบไม่มีธรรมาภิบาล ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว และน่าเป็นบทเรียนสำคัญ ให้กับอีกหลายๆ คน

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *