ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ใน โอลิมปิก 2020 ถือว่าน่าสนใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เพราะพวกเค้าจะลงเล่นในฐานะทีมเจ้าภาพ ด้วย โอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้จะแข่งขันกันที่ ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ทำให้ โตเกียวเกมส์ ครั้งนี้ ทีมชาติญี่ปุ่น ถือว่าจริงจังกว่าทุกครั้ง
วันนี้ Kickoff88 จะพาไปดูกันว่า ในศึก ฟุตบอลชายโอลิมปิก ครั้งนี้ ทางทัพ ซามูไรบลูส์ จะมีโอกาสไปได้ไกลแค่ไหน
ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ใน โตเกียวเกมส์
เชื่อว่าแฟนฟุตบอลหลายคน อาจจะพอรู้กันบ้าง ว่า ทีมชาติญี่ปุ่น มักส่งดาวรุ่งหรือตัวสำรอง ลงเล่นในรายการรองๆ ทั่วไป โดยพวกเขาจะใช้ทีมชุดใหญ่ลงเล่นเพียงสองรายการ ได้แก่ ฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียน คัพ เท่านั้น
ยิ่งในรายของ เอเชี่ยน เกมส์ พวกเค้าส่งชุด U21 หรือพวกชุดมหาลัย ลงเล่นด้วยซ้ำ หนำซ้ำยังไม่เคยส่งผู้เล่นอายุเกินมาด้วยเลย ส่วนในรายการ โอลิมปิก ที่อนุญาตให้ใช้ชุด U23 บวกกับผู้เล่นอายุเกินได้ 3 คน พวกเค้าก็ใช้แต่พวกตัวรองๆ ที่ปกติไม่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ด้วยซ้ำ
แต่มาครั้งนี้ ที่ปรับมาเป็นชุด U24 จากเดิมที่เป็น U23 เนื่องจากมีการเลื่อนแข่งมา 1 ปี ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก จัดแข้งโควต้าอายุเกิน แบบจัดเต็มผิดวิสัย
โดยการเรียกตัว มายะ โยชิดะ ปราการหลังกัปตันทีมชาติชุดใหญ่, ฮิโรกิ ซากาอิ แบ็คขวาตัวทีมชาติชุดใหญ่ ที่ไปเล่นยุโรปมาเกือบ 10 ปี และ วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางตัวหลักของ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท และหาก ทาคุมิ มินามิโนะ ไม่โดนต้นสังกัดอย่าง ลิเวอร์พูล เบรก ก็คงจะติดมาด้วยแล้ว
แน่นอนว่าทีมชุดนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะแนวรับยังมี ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ คู่เซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงของทีมชาติชุดใหญ่อีกราย เรียกได้ว่าจากทีมชาติชุดใหญ่ พวกเค้ามีสามกองหลังตัวจริงอยู่ในทีมชุดนี้ บวกกับ ยูตะ นากายามะ และ ไดกิ ฮาชิโอกะ ก็เล่นอยู่ในยุโรปทั้งคู่
ส่วนกองกลางก็แข็งแกร่งสุดๆ ทั้ง วาตารุ เอ็นโดะ, ริทสึ โดอัน และ ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่แฟนบอลยุโรปอาจจะคุ้นชื่อกันดี และไหนจะแก๊งที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเจลีก จนบางคนได้ย้ายไปเล่นในยุโรปแล้วอย่าง โคจิ มิโยชิ, อาโอะ ทานากะ และ คาโอรุ มิโตมะ เรียกได้ว่า แต่ละคนก็เป็นขาประจำของทีมชาติชุดใหญ่ ในช่วงหลังอยู่แล้ว
ส่วนผลงานในชุดปัจจุบัน ที่เรียกมาเตรียมตัดตัว หลังจากแพ้ให้กับทีมชาติชุดใหญ่ของตัวเองไป 0-3 หลังจากนั้น ก็โชว์ฟอร์มได้ดุดัน เริ่มจากการถล่ม กาน่า 6-0 และ จาไมก้า 4-0 หลังจากนั้นพวกเค้ามีการตัดตัวชุดสุดท้าย โดยลงเล่นในรายการ คิริน ชาเลนจ์ คัพ เอาชนะ ฮอนดูรัส ไป 3-1 และ เสมอกับ สเปน 1-1
ซึ่งเกมสุดท้ายนี่แหละ ที่เป็นไฮไลท์ เพราะพวกเค้าออกนำไปก่อน แถมรูปเกมดีกว่า สเปน ในช่วงแรก จนพักครึ่งมีการปรับทัพค่อนข้างเยอะนั่นแหละ ทางทัพ กระทิงดุ ถึงกลับมาได้ เรียกได้ว่าพวกเค้าน่าสนใจเป็นพิเดศษเลยครับ
ทาง ญี่ปุ่น นั้นอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ แอฟริกาใต้ เม็กซิโก และ ฝรั่งเศส โดยเกมที่น่าจะหนักที่สุดคงหนีไม่พ้นเกมสุดท้าย แต่เอาเข้าจริงๆ ฝรั่งเศส ชุดที่มาเล่นโอลิมปิก ไม่ได้มีซุปตาร์มาเล่นเลยแม้แต่คนเดียว แถมแต่ละรายก็แทบจะไม่ใช่ตัวหลักในสโมสร เนื่องจากลีก เอิง นั้นกำลังจะเปิดลีกในช่วงเดียวกับที่แข่งโอลิมปิกเนี่ยแหละครับ
ดังนั้นมองว่าเส้นทางในรอบแบ่งกลุ่ม ของทาง ญี่ปุ่น ไม่น่ามีอะไรให้ห่วงมาก ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องเสียงเชียร์ของความเป็นเจ้าบ้าน เนื่องจาก โอลิมปิก ครั้งนี้ไม่อนุญาตให้คนดูเข้าชม เหตุผลจาก โควิด-19 นั่นเอง
ซึ่งหากผ่านรอบแบ่งกลุ่มไป ไม่ว่าจะอันดับ 1 หรืออันดับ 2 พวกเค้าจะต้องไปเจอกับทีมจากกลุ่มบี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ พวกเค้าไม่ได้เป็นรองใครแม้แต่น้อย จึงมีสิทธิ์สูงที่ทัพ ซามูไรบลูส์ จะผ่านเข้าสู่รอบชิงเหรียญได้ครับ
เอาเข้าจริงๆ ในรายการนี้ มีก้างชิ้นโตอยู่แค่สองอัน หนึ่งคือ สเปน สองคือ บราซิล นั่นเอง โดยเฉพาะรายแรกที่ส่งผู้เล่นมาค่อนข้างโหด หลายรายที่ติดทีมชาติชุดใหญ่แล้วอายุไม่เกิน ก็ถูกเรียกมาติดทีมชุดนี้ด้วย
แต่การที่ ญี่ปุ่น สามารถสู้กับ สเปน ได้แบบไม่เป็นรองในเกมที่เจอกัน ทำให้ดูแล้วพวกเค้าไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่ดี เชื่อว่าอย่างน้อยๆ ทีมชาติญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก ครั้งนี้ น่าจะมีเหรียญใดซักเหรียญนึง ไปฝากแฟนๆ ของพวกเค้า แต่มีข้อแม้ว่าพวกเค้าต้องเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนกับในเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา
ดังนั้น มองว่า ญี่ปุ่น มีลุ้นทำเหรียญที่สองใน ฟุตบอลชายโอลิมปิก ต่อจากเหรียญแรกเมื่อปี 1968 ครับ เพราะพวกบอลระดับเยาวชน ญี่ปุ่น มักทำได้ดีเป็นประจำ ยิ่งครั้งนี้พวกเค้าจัดเต็มต่างจากครั้งอื่น บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องแปลก หากเราจะเห็นพวกเค้าขึ้นโพเดียมในครั้งนี้
แฟนบอลโปรไลเซนส์
[…] อย่างที่เราเคยได้เรียนไปใน บทความ วิเคราะห์ทีมชาติญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ ว่า ทัพซามูไรบลูส์ […]