ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอย สำหรับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่สาม ที่มีเกมน่าสนใจ และมีเหตุการณ์ให้น่าจดจำหลายเหตุการณ์ ซึ่งสัปดาห์นี้ เป็นการทิ้งทวน ก่อนที่เกมพรีเมียร์ลีก จะพักเบรก โดยถอยให้กับช่วง ฟีฟ่าเดย์ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเกมคัดบอลโลก กันครับ
วันนี้ kickoff88 ก็จะขอมารีแคป รวมทั้งการวิเคราะห์ เกมพรีเมียร์ลีก ทั้งสิบนัด ในเกมที่สามของฤดูกาล โดยทุกคู่นั้นลงเล่นกันในคืนวันเสาร์ และวันอาทิตย์ จึงไม่มีเกมฟรายเดยไนท์ และเกมมันเดยไนท์
พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่สาม เป็นยังไง ก่อนเบรกไปแข่งทีมชาติ
เริ่มคู่แรก ด้วยเกมวันเสาร์ช่วงเย็น เป็นเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับ อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ทางเจ้าบ้านไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ แต่ก็ไม่มีปัญหา เปิดบ้านถล่มผู้มาเยือนไป 5-0
โดยพวกเขามาได้ประตูขึ้นนำเร็ว 2 ประตู ก่อนที่ทีมเยือนจะเหลือสิบคน จากจังหวะที่ กรานิต ชาก้า ไปโดนใบแดง หลังจากนั้นเลยเป็นการทารุณ จากฝั่งเรือใบ ผลก็จบลงตรงพวกเค้าเก็บ 6 แต้มเต็มจากสองนัดหลัง ยิงไปได้ถึง 10 ประตู
ส่วนทาง อาร์เซน่อล อาการโคม่า แพ้สามนัดรวด แถมยิงไม่ได้ซักประตู การเสริมทีมที่ใช้เงินไปเยอะ ดูแล้วไม่ได้ยกระดับทีมเท่าไหร่ มีลุ้นว่าจะเป็นทีมแรกๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตัวกุนซือ เพราะทรงบอลไม่มีอนาคตเลยซักนิด
ช่วงสามทุ่ม มีเกมลงแข่งกัน 5 คู่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ เซาแธมป์ตัน 2-2 โดยเป็นทางนักบุญที่ทำได้ดีกว่าทั้งเกม แต่เป็นฝ่ายตามตีเสมอทั้งสองหน โดยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นิวคาสเซิล ได้ประตูนำจาก อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ก่อนที่ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ จะยิงจุดโทษตีเสมอ
ไบรท์ตัน ที่ฟอร์มร้อนแรง เก็บได้ 6 แต้มเต็มจากสองนัดแรก เปิดบ้านพ่าย เอฟเวอร์ตัน ของ เอล ราฟา ไป 0-2 เกมนี้ก็มีดราม่าเช่นกัน แต่เป็นเรื่องของผู้เล่นทีมเยือน อย่าง โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน กับ ริชาร์ลิซอน ที่แย่งกันยิงจุดโทษ จนเกือบวางมวย
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จ่าฝูงในสัปดาห์ที่สอง ทำได้เพียงเปิดบ้านเสอมกับ คริสตัล พาเลซ 2-2 โดยโดนทีเด็ดของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แข้งดาวรุ่งที่เหมาสองประตู ทำเอาแฟนบอลหลายคนร้องระงม เพราะตายตัวเดียว
นอริช ซิตี้ ยังหาแต้มแรกไม่เจอ หลังโปรแกรมสามนัดแรก เจอแต่ของหนักๆ เกมนี้พวกเค้าก็แพ้ต่อ เลสเตอร์ 1-2 ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็เล่นได้ดีไม่แพ้ทาง จิ้งจอกสีน้ำเงิน แม้แต่น้อย กลับเป็นทีมเยือนที่ชนะ ยังดูน่าห่วงกว่า เพราะกลายเป็นบอลไม่มีทรงไปแล้ว
แอสตัน วิลล่า ทำได้เพียงเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 เกมนี้พวกเค้าได้จอมทัพคนใหม่อย่าง บูเอนเดีย ยิงตีเสมอในช่วงต้นเกม ก่อนที่เกือบ 80 นาทีที่เหลือจะไม่มีใครทำอะไรกันได้ น้องใหม่ถือว่าทำได้ดีจริงๆ หลังสามเกมแรก ไม่แพ้ใคร แถมเสียไปเพียงประตูเดียว
คู่สุดท้ายของวันเสาร์ ตอนห้าทุ่มครึ่ง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบ เชลซี เกมนี้ทั้งคู่ส่งแข้งที่ดีที่สุดชนกัน ซึ่งก็เป็นทางเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า แต่ดันมาเสียประตูไปก่อน จากลูกเตะมุม แล้วโดน ไค ฮาเวิร์ตซ์ โหม่งแบบแปลกๆ แต่บอลย้อยจน อลิสซอน หมดปัญญาจะรับ
แต่จุดเปลี่ยนมาเกิดในช่วงท้ายครึ่งแรก รีซ เจมส์ ดันไปใช้แขนป้องกันการทำประตู ซึ่งหลังจากกรรมการเช็ค VAR ทำให้ต้องแจกใบแดง+จุดโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงเข้าไป หลังจากนั้นเกือบมีมวยกันด้วย
ส่วนในครึ่งหลัง ก็บอลหน้าเดียว เนื่องจาก สิงโตน้ำเงินคราม ต้องรับอย่างเดียว แม้จะมีจังหวะสวนไปบ้าง แต่ก็ทำอะไรแนวรับ หงส์แดง ไม่ได้ เช่นเดียวกันกับเจ้าบ้าน แม้จะพยายามเซ็ตบอลแค่ไหน แต่เล่นเซฟเกินไป จังหวะฉาบฉวยไม่มี เลยทำได้เพียงเสมอไปแบบเซงๆ
สำหรับเกมวันอาทิตย์ ช่วงสองทุ่มมีสองคู่ เบิร์นลีย์ เปิดบ้านเจ๊ากับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 โดยเป็นฝั่ง ยูงทอง ที่ครองเกมบุกเหนือกว่าตามสไตล์ แต่กลับต้องเป็นฝ่ายดิ้นรนตามตีเสมอ ในช่วงท้ายเกม ซึ่งทั้งสองประตูในเกมนี้ เกิดจากจังหวะขลุกขลิกทั้งคู่
อีกคู่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ได้ แฮร์รี่ เคน กลับมาเป็นตัวจริง ยังรักษาคอนเซปเดิม เอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 1-0 ทำเอาพวกเค้าเก็บเก้าแต้มเต็ม จากสามนัดแรก แบบไม่เสียซักประตูเดียว น่าจะเป็นครั้งแรกของสโมสรเลยด้วย
คู่สุดท้าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เปิดบ้านพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากจังหวะดราม่า (อีกแล้ว) 0-1 ซึ่งเกมนี้ทางหมาป่า เล่นได้ดีกว่าชัดเจน และมีโอกาสจะแจ้งกว่าด้วย ต้องกราบเท้า ดาวิด เด เกอา ที่เริ่มคืนฟอร์มเทพอีกครั้ง
โดยทีมที่ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ได้แก่ สเปอร์ส ที่เก็บเก้าแต้มเต็ม ทีมเดียวในลีก ส่วนแก๊ง 7 คะแนนที่ยังไร้พ่าย อย่าง เวสต์แฮม, แมนยู, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ต่างกันแค่ประตูได้ กับผลต่างประตูได้เสีย
ส่วนทีมท้ายตารางอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน, นอริช และ อาร์เซน่อล ยังไม่มีซักแต้ม ส่วนหนึ่งเพราะพวกเค้าเจอแต่โปรแกรมหนักๆ ด้วยแหละครับ แต่บอกตามตรงว่า เกมรุกของพวกเค้าทั้งสามทีม น่ากังวลสุดๆ รวมกันสามทีม ยิงได้ประตูเดียวเท่านั้น
แฟนบอลโปรไลเซนส์