ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 3 กำลังจะดำเนินขึ้นในไม่ช้า โดยจะเป็นรอบที่แฟนบอลส่วนใหญ่ เริ่มให้ความสนใจ เนื่องจากในรอบนี้ ทุกทีมจากลีกสูงสุด จะเริ่มลงเตะกันพร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นทีมที่ตกรอบไปก่อน ตั้งแต่รอบ 2 แล้ว
ซึ่ง Kickoff88 จะมาชวนเพื่อนๆ คุย ให้หายสงสัย ว่าทำไมบางทีมถึงไปเริ่มเล่น ในรอบสอง ส่วนบางทีม ทำไมถึงได้มารอเล่น ในรอบที่สามเลย
ทำไม ฟุตบอลคาราบาว คัพ บางทีมถึงได้มาเล่นในรอบ 3 เลย
อย่างแรก ต้องบอกถึงรายละเอียด ของการเข้าร่วม ในรายการนี้กันก่อน โดยฟุตบอลรายการนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่รอบแรกอยู่แล้ว โดยจะประกอบไปด้วย ทีมจาก 3 ลีก ได้แก่ ลีกทู ลีกวัน และ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จำนวน 70 ทีม
แบ่งเป็นทีมจากลีกทู และลีกวัน ลีกละ 24 ทีม ส่วนลีกรองอย่าง เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จะมี 22 ทีมที่ต้องมาเล่นในรอบนี้ ส่วนอีกสองทีมนั้น จะได้ไปเล่นรอเล่นในรอบสอง
โดยที่สองทีมดังกล่าว จะเป็นทีมในอันดับที่ 18 และ 19 ที่ตกชั้นจากลีกสูงสุด อย่าง พรีเมียร์ลีก ตัวอย่างเช่นฤดูกาลนี้ ก็จะเป็นทาง ฟูแล่ม และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ส่วนบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต้องไปเล่นในรอบแรก
และในรอบนี้ จะมีทีมจากลีกสูงสุด อย่างศึกพรีเมียร์ลีก อีก 13 ทีมลงมาเล่นด้วย บวกกับทีมที่ผ่านรอบแรกมา จะมีทีมลงเล่นในรอบสอง เป็น 50 ทีม หรือ 25 คู่ นั่นเองครับ
โดยปกติแล้ว ในรอบนี้จะยังไม่เป็นที่น่าสนใจเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ ทีมที่แฟนบอลเยอะๆ จะยังไม่ได้มาเล่นกัน จึงทำให้เกมรอบ 3 นั้น เป็นที่น่าสนใจมากกว่า เพราะอีก 7 ทีมที่เหลือจากลีกสูงสุด จะลงสนามกันในรอบนี้นั่นเอง
แล้วทีนี้ การแบ่งเป็น 13 และ 7 ทีมนั้น ใช้เกณฑ์อะไร ตรงนี้ดูไม่ยากครับ นั่นก็คือ 7 ทีมที่ได้ไปเล่น ฟุตบอลยุโรป ไม่ว่ารายการอะไร พวกเค้าจะได้เข้ามารอเล่น ในรอบสามนี้
เช่นปีนี้ ทีมอย่าง อาร์เซน่อล ที่จบเพียง อันดับ 8 เมื่อฤดูกาลก่อน จึงไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้ จึงต้องมาเริ่มเล่นในรอบสอง ก่อนที่จะบุกไปถล่ม เวสต์บรอม 6-0
ส่วนอีก 7 ทีมที่เหลือ ที่จะมารอในรอบสาม ก็ได้แก่
1. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ – ทาง ไก่เดือยทอง จบอันดับ 7 ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรป รายการใหม่ อย่าง ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ คัพ รอบเพลย์ออฟ โดยปัจจุบัน พวกเค้าเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ในอยู่ในกลุ่มจี ซึ่งนัดแรก เสมอกับ แรนส์ จากฝรั่งเศส 1-1
2. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – ฝั่ง ขุนค้อน ปีก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จบอันดับ 6 ได้มาเล่นยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งพวกเค้าเก็บ 3 แต้มมาได้ หลังจากที่ บุกไปเอาชนะ ดินาโม ซาเกร็บ จาก โคเอเชีย มาได้ 2-0
3. เลสเตอร์ ซิตี้ – ทัพ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ทำดีมาทั้งฤดูกาล แต่หล่นมาจบอันดับ 5 ในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้ต้องไปเล่น ยูโรป้า เป็นเพื่อนทาง เวสต์แฮม และนัดแรกพวกเค้าทำได้เพียงเสมอกับ นาโปลี 2-2 ทั้งๆ ที่ควรชนะมากๆ
4. เชลซี – แม้ สิงโตน้ำเงินคราม จะจบในอันดับ 4 ของตาราง แต่การได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้พวกเค้าได้ไปอยู่ในโถ 1 เลยครับ และนัดแรกก็ประเดิมได้ดี ด้วยการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 1-0
5. ลิเวอร์พูล – หงส์แดง ที่จบอันดับ 3 ในปีก่อน ได้แบบช็อคพอสมควร หลังจากฟอร์มตกอยู่พักใหญ่ พวกเค้าได้กลับไปเล่นใน ยูซีแอล แบบระทึกใจสุดๆ เช่นเดียวกับรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่แซงเอาชนะ เอซี มิลาน ในบ้านตัวเอง แบบสุดมัน 3-2
6. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – โดย ปีศาจแดง ที่จบอันดับ 2 ของตาราง แบบไม่ได้ลุ้นแชมป์เท่าไหร่ เริ่มต้นเกมยุโรป ได้ไม่ค่อยดีนัก หลังบุกไปแพ้ ยัง บอยส์ 1-2 แบบที่ต้องอุดทั้งเกม เนื่องจากเหลือ 10 คน ตั้งแต่ครึ่งแรก
7. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – แชมป์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ที่อกหักพ่าย เชลซี ในรอบชิง แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน ปีนี้ เรือใบสีฟ้า ก็ยังออกตัวในบอลยุโรปได้ดี โดยสามารถ เปิดบ้านเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 6-3 สมกับเป็นเต็ง 1 ของรายการ แต่ก็ยังไม่ได้ซะที
ทั้งหมดนี้ คือ 7 ทีมที่ได้มารอเล่นในรอบ 3 แม้ทีมใหญ่ๆ มักจะส่งสำรอง หรือดาวรุ่งลงแข่ง แต่ก็ยังได้รับความสนใจ มากกว่าคู่อื่นๆ อยู่ดี ซึ่งหลังจากนี้เรามารอติดตามกัน ว่าจะมีใครสลับทีม จนโดนแจ็คผู้ฆ่ายักษ์เล่นงานบ้าง พวกเราก็จะมาสรุปให้ฟังอีกเช่นเคย
แฟนบอลโปรไลเซนส์