ฟุตบอลยูโร รอบรองชนะเลิศ ก็จบกันไปแล้วทั้งสองคู่ ทำให้ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่าคู่ชิง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 เป็นใครกันบ้าง ซึ่งทั้งสองเกมที่เพิ่งเตะกันไปนั้น ลงเล่นกันที่สนาม เวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งสองนัด
วันนี้ พวกเรา Kickoff88 จะพาเพื่อนๆ มาพบกับบทสรุป ของเกมทั้งสองคู่ พร้อมทั้งสถานการณ์ในทั้งสองเกมคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อเป็นการโหมโรงรอบชิง ที่จะแข่งกันในช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์นี้
วิเคราะห์ ฟุตบอลยูโร รอบรองชนะเลิศ
1. อิตาลี พบ สเปน
คู่นี้ ถือว่าน่าสนใจ เพราะทั้งสองทีมเล่นบอลเพลสซิ่งได้ดีมาก แม้จะต้องยอมรับว่าในปฐพีนี้ ไม่น่ามีใครจะมาครองบอลใส่ สเปน ได้อีก เนื่องจากพวกเค้าเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการครองบอล และเพลสซิ่งมานานแสนนานแล้ว แต่ อิตาลี ในปัจจุบันก็ใจใหญ่ กลายมาเป็นบอลบุก จนลบภาพเดิมๆ ของพวกเค้าไปได้จนหมดสิ้น
ทาง อิตาลี นั้นผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาด้วยการชนะรวดทั้งสามนัด แถมพกฟอร์มมาแบบที่เรียกว่า ดีที่สุดในรายการ มีการพักผู้เล่นในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่รอบน็อคเอ้าท์จะผ่าน ออสเตรีย ในช่วงต่อเวลา ส่วนรอบล่าสุด เฉือนเอาชนะ เบลเยี่ยม ได้ 2-1 ภายใน 90 นาที โดยรวมถือว่าสภาพสมบูรณ์มาก จะขาด สปินัซโซล่า เพียงรายเดียว
ด้าน สเปน ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาแบบกระท่อนกระแท่น เนื่องจากสองเกมแรกพวกเค้าครองบอลแทบตาย แต่ไม่สามารถทำประตูได้เลย จนต้องมาลุ้นในนัดสุดท้าย สำหรับผลงานในรอบก่อนหน้า ผ่าน โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลา และ สวิตเซอร์แลนด์ ในการดวลจุดโทษชี้ขาด ค่อนข้างมีปัญหาในด้านการจบสกอร์ แม้หลังๆ จะยิงได้เยอะก็ตามที
ผลในเกมนี้ เป็นทาง อิตาลี เอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากที่เสมอกันในเวลา 1-1 ทั้งๆ ที่รูปเกมนั้นเป็นทาง สเปน ทำได้ดีกว่า เรียกได้ว่าครองบอลเอาไว้ได้แบบเด็ดขาด แม้ช่วงแรก อิตาลี จะห้าวเพลสซิ่งสู้ แต่พอรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ ก็ถอยร่นลงมาตั้งรับอย่างรวดเร็ว
จุดอ่อนที่แสดงออกมาของพวกเค้าในรอบนี้ คือกองกลางของทีม หากตกเป็นฝ่ายต้องตั้งรับ เล่นได้แบบทุเรศทุรังมาก เนื่องจากสามกองกลางตัวหลักของพวกเค้า เล่นเกมรับได้ห่วยมาก โดยเฉพาะในรายของ จอร์จินโญ่ ที่เป็นจุดอ่อน แถมยังเป็นคนที่ยืนหน้ากองหลัง หากเกมหน้ายังเล่นแบบเดิม มีโอกาสน้ำตาตกได้ เพราะเกมนี้ สเปน ไม่คมเองซะมากกว่า
2. อังกฤษ พบ เดนมาร์ก
คู่นี้ ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่า ทางทีมชาติอังกฤษ ดูจะเป็นต่ออยู่หน่อยๆ เนื่องจากพวกเขายังไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว ที่สำคัญเกมนี้ได้เล่นในบ้านของตัวเอง ส่วน เดนมาร์ก ที่มาได้ถึงรอบนี้ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว เพราะพวกเค้าต้องเสียตัวชูโรงตั้งแต่นัดแรก แต่หลังจากนั้น พวกเรารวมใจโชว์ฟอร์มกันได้อย่างยอดเยี่ยม
อังกฤษ นั้นผ่านเกมรอบแบ่งกลุ่มแบบไม่ต้องลุ้นมากนัก โดยเก็บได้ถึง 7 คะแนน แบบที่ไม่เสียประตูเลยซักลูก เนื่องจากใช้แท็คติกเน้นชัวร์ไว้ก่อน ไม่ได้ก็ไม่เป็นแต่ต้องไม่เสีย ส่วนรอบน็อคเอ้าท์ ผ่าน เยอรมัน 2-0 ในรอบ 16 ทีม ต่อด้วยถล่ม ยูเครน แบบอีซี่เกม 4-0 และทั้งสองนัดพวกเค้าตบคู่แข่งได้ใน 90 นาทีอีกด้วย
เดนมาร์ก เกือบจะไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มแล้ว หลังจากสองเกมแรกออกสตาร์ทด้วยความผ่ายแพ้ ก่อนที่นัดที่สาม จะถล่ม รัสเซีย 4-1 เก็บสามแต้ม เข้ารอบมาในอันดับสองแบบงงๆ ส่วนในรอบน็อคเอ้าท์ ต้องยอมรับว่าพวกเค้าไม่ได้เจอกันงานที่ยากนัก โดยเอาชนะ เวลส์ ได้ 4-0 ต่อด้วย เบียดเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1
สุดท้ายในเกมนี้ เป็นทาง อังกฤษ เอาชนะไปได้ในรอบต่อเวลาพิเศษ 2-1 จากจุดโทษเจ้าปัญหา ที่ดูจากภาพช้า ราฮีม สเตอร์ลิง พุ่งล้มค่อนข้างชัดเจน แต่ VAR ก็ไม่ช่วยทาง โคนม เลยแม้แต่น้อย และเป็น แฮร์รี่ เคน ซ้ำจุดโทษที่ตัวเองยิงไม่เข้า เป็นประตูชัยให้ทีมผ่านเข้าชิงแบบมีข้อครหา
แม้จะมีจังหวะปัญหา ที่เรียกว่าน่าเกลียดสุดๆ แต่สิ่งนึงที่ค่อนข้างแปลกใจ คือการเปลี่ยนตัวของ เดนมาร์ก ที่เอาตัวเล่นดีๆ ออกไปทั้งหมด แบบกะยื้อเพื่อยิงจุดโทษตัดสิน เนื่องจากทาง สิงโตคำราม มีประวัติที่ไม่ดีนักกับการดวลจุดโทษในยุคหลังๆ ยังดีที่พวกเค้ามาได้จุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษ ไม่งั้น เคน ไม่สามารถซ้ำลูกยิงของตัวเองได้แล้ว
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ
อิตาลี พบ อังกฤษ
แฟนบอลโปรไลเซนส์