แม้ถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ แข่งกันไปตั้งแต่วันอังคาร และพุธที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีเกมถ้วยรองอย่าง ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก แข่งกันต่อเนื่อง แบบไม่ให้ขาดช่วงกันเช่นเคย
โดย เก่งหลังเกม จะพาเพื่อนๆ มาดูผลฟุตบอลยุโรปถ้วยรอง อย่างศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่ดำเนินมาถึงโค้งสุดท้าย และแน่นอนว่าทุกทีมใส่กันไฟแล็บ สำหรับตั๋วไปเล่น ยูซีแอล ปีหน้ากันแบบสุดๆ
สรุปผลฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก โค้งสุดท้าของฟุตบอลยุโรป
1. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต
เจ้าบ้าน ลงทุนพักตัวหลัก ในเกมลีกนัดล่าสุดกับ เชลซี จนตัวเองแพ้ไป แต่ก็เป็นการแพ้แบบน่าเสียดาย เกมนี้ เดวิด มอยส์ ปรับทีมพอสมควร โดยการส่งทีมชุดที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงการคิดการใหญ่ กะทะลุถึงรอบชิงแน่นอน
ด้าน เคร็ก ดอว์สัน ที่โดนไล่ออกในเกมลีกนัดล่าสุด ได้ออกสตาร์ทแบบไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็นคนละรายการ ส่วนกองกลางก็ได้ เดแคลน ไรซ์ ยืนคู่กับ โธมัส ซูเช็ค ส่วนกลางรุกใช้ มานูเอล ลานซินี่
สามแนวรุกเป็น จาร์รอด โบเว่น ปาโบล ฟอร์นัลส์ และหน้าเป็าเป็น มิคาอัล อันโตนิโอ เรียกว่าในส่วนของแดนกลาง แต่แนวรุก ได้พักมาเต็มๆ ในเกมล่าสุดเกือบทุกคน เพราะสถานการณ์ในลีกของ ขุนค้อน ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว
ส่วนทีมเยือน ในลีกก็ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว แต่เกมล่าสุดพวกเขาไม่มียั้ง ส่งชุดใหญ่ลงซัดกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ แบบไม่มีกั๊ก แต่ก็ทำได้เพียงผลเสมอ แถมเกมนี้ต้องออกมาเยือน เลยทำให้หลายคนมองว่า พวกเขาน่าจะลำบากพอตัว
แต่เริ่มเกมมาได้ไม่ถึงนาที อินทรีแดงดำ บุกมานำก่อนอย่างรวดเร็ว การจากเติมขึ้นมาของ อันส์การ์ คเนาฟฟ์ ที่สอดขึ้นมาโหม่ง ซึ่งประตูนี้ทาง ฟอร์นัลส์ รับเต็ม เนื่องจากอยู่ด้านหน้าแท้ๆ กลับไม่สามารถสกัดไว้ได้ ไม่รู้ว่าสมาธิยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หรือยังไง
หลังจากนั้น เวสต์แฮม นั่งไม่ติด พยายามโหมบุก เพื่อเอาประตูคืน แต่ก็ไม่ใช่เกมรุก ที่ตัวเองถนัดเท่าไหร่ จนกระทั่งมีจังหวะ ที่แนวรับของทีมเยือน เปิดพื้นที่ด้านหลัง จน โบเว่น ได้โอกาสสอดขึ้นไปทำประตู แต่น่าเสียดายดันชนเสา เสียอย่างนั้น
จนพวกเขา มาได้ประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกระยะกว่า 40 หลา และเป็น เคิร์ต ซูม่า ที่โหม่งตั้งไปเสาสอง จนทาง มิคาอิล อันโตนิโอ วิ่งมาชาจง่ายๆ แม้ เควิน แทร็ปป์ จะปัดออกมาได้แต่ก็ไม่ทัน เพราะบอลข้ามเส้นไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นครึ่งหลัง ไดจิ คามาดะ ที่ได้จังหวะสอดขึ้นมา ตามแบบฉบับฟุตบอลเยอรมัน ก็ซ้ำลูกยิงของเพื่อน ที่ อเรโอล่า ปัดไปไม่พ้น ทำให้สุดท้ายแล้ว เป็นผู้มาเยือน ที่บุกมาชิงความได้เปรียบไว้ก่อน
2. แอร์เบ ไลป์ซิก 1-0 เรนเจอส์
เจ้าบ้านปีนี้ ผลงานดรอปไปพอสมควร อาจจะด้วยผลกรรม ในช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ตอนนี้ ตำแหน่ง TOP4 ก็ยังไม่มั่นคง ยิ่งเกมลีกนัดล่าสุด พ่ายคาบ้านต่อ ยูนิโอน เบอร์ลิน ด้วยสองประตูในช่วงท้ายเกม
เกมนี้จึงมีความสำคัญ เพราะหากพวกเค้าหลุดจาก 4 อันดับแรก จะทำให้พวกเขา จำเป็นที่จะต้องคว้าแชมป์ ในรายการนี้มาครองให้ได้ โดยนัดนี้ มีการปรับผู้เล่นบางตำแหน่ง สมกับเป็นทีม ที่ปรับผู้เล่นค่อนข้างบ่อยครับ
ด้านทีมเยือน ผลงานช่วงหลังก็ไม่แย่ แม้แทบจะหลุดวงโคจร การลุ้นแชมป์ลีกไปแล้วก็ตาม เพราะเกมเดียวที่พวกเขาแพ้ ในช่วงหลัง คือการแพ้ต่อ เซลติก เพียงทีมเดียวเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ในลีก ไม่มีอะไรต้องห่วง ดังนั้นเกมจัดเต็ม
น่าเสียดายที่พวกเขาขาด สองดาวซัลโวของทีมอย่าง อัลเฟรโด้ โมราเลส และ เคมาร์ รูฟ ทำให้เกมนี้ แนวรุกที่เป็นรองอยู่แล้ว ยังสู้ได้ลำบาก ยิ่งขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
โดยรูปเกมส่วนใหญ่ เป็นทาง กระทิงแดง ที่เหนือกว่าชัดเจน แต่ต้องยอมรับว่า เกมรับของทีมเยือน ก็สร้างความลำบาก ให้ทางเจ้าบ้านพอสมควร จนแทบจะไม่มีโอกาสจบใกล้เคียง เท่าไหร่นัก
ช่วงครึ่งแรกยังเสมอกัน แบบแทบไม่มีโอกาสทำประตู แม้ทางเจ้าบ้าน แทบจะเอาบอลไปเล่นอยู่ฝั่งเดียว จนในช่วงท้ายเกม ถึงมีโอกาสลุ้นเสียวๆ กันอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งจังหวะเตะมุม ในนาทีที่ 80 กว่าๆ
แนวรับของทาง เรนเจอส์ ที่โหม่งเคลียบอลได้ดีแล้ว แต่จังหวะสองดันเก็บบอลไม่ได้ แถมยังประกบห่างมาก จนโดน อังเจลินโญ่ วอลเล่ย์สวนเข้าไปอย่างงดงาม น่าเสียดายแทนผู้มาเยือนจริงๆ ที่แท็คติกของพวกเขา กำลังจะได้ผลแล้วแท้ๆ
จบเกมทาง ไลป์ซิก ที่ได้เล่นในบ้านตัวเอง กุมความได้เปรียบไว้ก่อน และแม้นัดสองพวกเขา จะต้องเป็นฝ่ายออกไปเยือนก็ตาม แต่ด้วยคุณภาพแล้ว มองยังไงก็เหนือกว่า แถมเกมสวนกลับของ เรนเจอส์ ดูไม่ค่อยจะมีน้ำยาเท่าไหร่นัก
แฟนบอลโปรไลเซนส์