ราล์ฟ รังนิค ลาออกจากที่ปรึกษา

ถือว่าน่าแปลกใจ หลังจาก ราล์ฟ รังนิค ลาออกจากที่ปรึกษา ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ตอนที่เจ้าตัวเซ็นสัญญารับงาน คือการคุมทีมชั่วคราว จนจบฤดูกาล ก่อนที่จะขยับไปนั่งเป็น ที่ปรึกษาให้กับสโมสร

โดย เก่งหลังเกม จะลองมาหาเหตุผล ว่าทำไมเจ้าตัว ถึงเลือกลาออกจากสโมสร ทั้งๆ ที่เคยตกลงกันไว้ดิบดี จนแฟนบอลอาจจะร้อง อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา

ทำไม ราล์ฟ รังนิค ลาออกจากที่ปรึกษา ทั้งๆ ที่เคยตกลงกันไว้ดิบดี แบบไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า

ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดี หรือข่าวร้าย สำหรับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กุนซือชั่วคราว ของพวกเขาอย่าง ราล์ฟ รังนิค ลาออกจากสโมสร แม้ว่าจะมีสัญญา ที่จะขึ้นมาเป็น ที่ปรึกษาให้กับสโมสร หลังจบฤดูกาลนี้

โดยสโมสรได้ตัว เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ เข้ามานั่งตำแหน่ง กุนซือใหญ่ของทีม เริ่มจากฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามแผน เพราะทาง รังนิค เองก็ตั้งใจ ที่จะมาเป็นที่ปรึกษา ให้ทีมเพียงเท่านั้น

แต่ล่าสุด ได้มีประกาศออกมา อย่างเป็นทางการแล้ว ว่าตัว ราล์ฟ รังนิค จะออกจากสโมสรแบบถาวร โดยไม่นั่งตำแหน่งที่ปรึกษา ให้กับทีมในฤดูกาลหน้า ซึ่งต่างจากที่ตกลงกันไว้

ซึ่งทาง รังนิค จะเข้าไปรับตำแหน่งกุนซือใหญ่ ทีมชาติออสเตรีย ที่เคยเซ็นสัญญากันไว้ก่อนหน้า และเดิมที เจ้าตัวจะรับตำแหน่ง ควบกับการเป็นที่ปรึกษา ให้กับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เบื้องลึกเบื้องหลังในเรื่องนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ รังนิค ได้โทรศัพท์คุยกับทาง เอริค เทน ฮาก เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากได้ที่คุยกัน ก็มีประกาศออกมา ว่าเจ้าตัวจะไปโฟกัส ให้กับการคุมทีมออสเตรีย เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ตรงนี้น่าสนใจครับ แปลว่าการพูดคุย กับกุนซือใหญ่ของทีม ในฤดูกาลหน้า ออกมาในรูปแบบที่ไม่ดีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะรูปแบบ ของการเป็นที่ปรึกษา มักจะมีบางจุด ที่จะเป็นเข้ามาก้าวก่าย การคุมทีมของกุนซือ

เพราะการคุมทีม โดยมีปรึกษามานั่งให้คำแนะนำ ในบางครั้งอาจจะเป็นดาบสองคม หากมันดีก็ดีไป แต่ความดีความชอบ อาจจะต้องแบ่ง หากมันแย่ก็ต้องมีคนต้องไปอยู่ดี อยู่ที่ใครจะเป็นคนสังเวย

ยิ่งการทำงานของ รังนิค คือการวางพื้นฐาน การเล่นฟุตบอล ในรูปแบบเพลสซิ่ง เท้าสู่เท้า แม้ช่วงหลังจะห่างหาย จากการคุมทีม แบบจริงๆ จังๆ ย่อมหลีกไม่ได้ กับการทำงานทับกับตัวกุนซือของทีม

อิทธิพลในห้องแต่งตัว ย่อมจะนำมาซึ่งปัญหา เพราะตัวผู้เล่นในทีม ไม่รู้จะเชื่อใครดี หากความคิดของทั้งฝ่าย ไม่ได้ออกมาในแนวทางเดียวกัน เพราะถ้าเห็นตรงกัน ไม่มีเรื่องหรอกครับ แต่ในความเป็นจริง ไม่มีการเห็นตรงกันได้ทุกเรื่อง

ทางด้าน เทน ฮาก เอง ก็น่าจะอยากได้อำนาจ ในการคุมทีมแบบ 100% เพราะเมื่อไหร่ที่กุนซือ เสียอำนาจในห้องแต่งตัว รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ย่อมจะทำให้การทำงานของเขา ยากขึ้นเป็นเท่าทวี

หรืออาจจะมาจากปัญหา ในห้องแต่งตัวของ แมนยู เพราะด้วยสไตล์ของ รังนิค ที่เป็นเยอรมันขนานแท้ ความมืออาชีพอันสูงส่ง กลับอาจจะสร้างผลเสีย มากกว่าผลดีก็ได้

เพราะครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา เราได้เห็นข่าว ปัญหาภายในของทีม หลุดออกจากปากของเจ้าตัว รวมไปถึงผู้เล่นรายอื่นๆ กันมานักต่อนัก ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่สมควร หลุดออกมาสู่โลกภายนอก เท่าไหร่นัก

และที่เป็นปัจจัยสำคัญ คือการไปคุมทีมชาติออสเตรีย ซึ่งแม้บางคนจะมอง ว่าคนเราสามารถ แยกแยะกันได้ แต่เชื่อเถอะครับว่า การโฟกัสมันจะไม่เหมือนเดิม กับคนที่ทำงานเพียงอย่างเดียว

ซึ่งทางสโมสร แมนยู อาจจะมองแล้วว่า การมี รังนิค นั่งที่ปรึกษา อาจจะไม่ได้ส่งผล คุ้มค่ากับเงินที่พวกเขาเสียไป ยิ่งทาง เอริค เทน ฮาก น่าจะมีแนวทางการทำทีม ที่เป็นตัวของตัวเอง แบบชัดเจน

การแยกทางกัน อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับทุกฝ่ายก็ได้ โดยทาง รังนิค ก็ได้ไปทำงานของตัวเอง แบบเต็มประสิทธิภาพ ส่วนทางสโมสร ก็เริ่มนับ 1 ใหม่ กับกุนซือที่พวกเขาเชื่อใจ 100%

ถือว่ายังดี ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ปล่อยให้เวลา มันเสียไปแบบเปล่าประโยชน์ แบบที่ผ่านๆ มา เพราะดูจากปัจจุบัน คุณภาพของพรีเมียร์ลีก เริ่มทิ้งห่างพวกเขา ออกไปเรื่อยๆ แล้ว

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *