เรื่องการเปลี่ยนม้ากลางศึก เป็นสิ่งที่ไม่ควร เชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยินคำพูดนี้มานาน แต่คำพูดที่ว่านั้น ไม่สามารถเอามาใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ตัวอย่างเช่นกัน วงการฟุตบอล การเปลี่ยนตัวกุนซือกลางฤดูกาล หากถึงจุดที่วิกฤติจริงๆ ก็อาจจะต้องทำ แต่ไม่ใช่กับ ไทยลีก ของเราแน่นอน เพราะฟุตบอลไทย ค่อนข้างขึ้นชื่อกับการเปลี่ยนโค้ช จนได้ชื่อว่า ลีกกินโค้ช เลยทีเดียว
วันนี้ Kickoff88 จะพาไปวิเคราะห์กัน ว่าทำไม ไทยลีก ถึงได้ชื่อว่าเป็นลีกกินโค้ช จนกุนซือคนใดได้คุมทีมเต็มฤดูกาล ถึงกลายเป็นเรื่องแปลกไปเลย สำหรับลีกแห่งนี้
ทำไม ไทยลีก ถึงได้ขึ้นชื่อว่า ลีกกินโค้ช
จากประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้ติดตามฟุตบอลไทย มานานพอสมควร เรียกว่าตั้งแต่ไทยลีก นั้นเริ่มตั้งไข่ สมัยสโมสร ทีโอที ยังเตะอยู่ที่สนามน้ำแก้จน นั่นแหละครับ
สิ่งที่ได้ประสบพบจนชินตา คือหลายสโมสร มีการเปลี่ยนตัวกุนซือ ค่อนข้างบ่อย ทั้งช่วงจบฤดูกาล รวมทั้งระหว่างฤดูกาล จนไม่สามารถนับได้จริงๆ ว่าแต่ละทีมเปลี่ยนไปกี่ครั้งกี่หน
ซึ่งสิ่งที่น่าตลกอีกอย่าง คือบางสโมสรในบางฤดูกาล ใช้เฮ้ดโค้ชถึง 3-4 คนด้วยกัน หากเพื่อนๆ ไม่เชื่อ สามารถลองไปค้นหาข้อมูล ของแต่ละสโมสรดูได้เลยครับ
ในบางทีม อาจจะด้วยเหตุผลของผลงาน ที่ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่บางทีมก็มีสาเหตุการเปลี่ยนตัวกุนซือที่ยากจะเข้าใจ ทั้งที่ผลงานดี บางคนคุมทีมได้แชมป์ลีก ยังต้องกระเด็นออกจากตำแหน่ง เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่หาดูได้ง่ายๆ เลย
โดยสาเหตุสำคัญ ของการเปลี่ยนตัวกุนซือค่อนข้างบ่อย ของแต่ละทีมในไทยลีก จริงๆ แล้วอาจจะมีสาเหตุ มาจากเรื่องใกล้ตัวมากก็ได้ครับ เพราะถ้าคิดดูให้ดี เพื่อนๆ น่าจะเห็นอะไรๆ ที่น่าสนใจ
อย่างแรกเลย ต้องบอกว่า ความใกล้ชิดของ เจ้าของสโมสร กับตัวกุนซือ มีความแยกจากกันไม่ขาด เชื่อว่าเพื่อนๆ อาจจะไม่เคยเห็นเจ้าของทีม แมนยู ลิเวอร์พูล หรือทีมใหญ่ๆ ทีมอื่น ลงไปอยู่ข้างสนาม เวลาทีมตัวเองมีแข่ง
เพราะเจ้าของทีมเกือบทั้งหมด จะไม่วุ่นวายกับเรื่องในสนาม ด้วยพวกเค้าจะยุ่งกับการบริหารทีม เรื่องเงินๆ ทองๆ หรือช่วยดีลสปอนเซอร์ อะไรเทือกๆ นี้มากกว่า
แต่ไม่ใช่ที่ไทยแลนด์แน่นอน เพราะที่นี่เราได้เห็นเจ้าของทีม ลงไปนั่งอยู่ในซุ้มมานั่งสำรอง อนึ่งเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชของทีม กันเลยทีเดียว บางทีมก็นั่งดูเฉยๆ แต่บางทีมไปช่วยออกความเห็น ไปช่วยเลือกตัวผู้เล่น ช่วยแก้เกมก็มีครับ
จนมีตำแหน่งที่น่าตลก เพิ่มมาอีกตำแหน่งนึง นั่นคือตำแหน่ง เฮ้ดของเฮ้ดโค้ช ที่เหล่าแฟนบอลอาจจะอึดอัดใจ ด้วยทั้งเอือมระอา แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะคนเหล่านั้น คือเจ้าของทีม คือเจ้าของเงิน ที่ทำให้ทีมเดินหน้าต่อไปได้
ด้วยฟุตบอลไทย ยังต้องพึ่งพาเงินจากเจ้าของ แทบจะเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเอง เพราะทั้งค่าเหนื่อยของนักเตะ และสต๊าฟโค้ช ไม่สัมพันธ์กับรายได้ จากทั้งรางวัลจาการแข่ง รวมถึงเงินอัดฉีด จากทั้งสมาคมฟุตบอล และสปอนเซอร์
ซึ่งหากโค้ชบางคน หัวแข็งซักหน่อย ไม่สามารถทนรับการกระทำ ที่ไร้ซึ่งความเป็นมืออาชีพแบบนี้ได้ บางทีอาจจะเป็นการขัดใจ เหล่าผู้บริหาร หรือเจ้าของทีม จนต้องเก็บกระเป๋า ออกจากสโมสรไปเลยก็มี
อีกสาเหตุที่สำคัญ ก็มาจาก เหล่าผู้บริหารหรือเจ้าของทีมพวกนี้ อยากได้คนที่บันดาลความสำเร็จให้สโมสร ได้อย่างรวดเร็ว ปานจะกินบะหมี่สำเร็จรูป ที่แค่เทน้ำร้อนและใส่เครื่องปรุง ก็พร้อมรับประทาน
แต่ในโลกของฟุตบอล มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเสมอไป ยอดโค้ชที่เก่งที่สุดของโลกใบนี้ อย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ และ เป๊ป กวาดิโอล่า ยังต้องการเวลา ในการวางพื้นฐานการเล่นให้กับทีมเลย
แล้วจะมาหวังอะไร กับโค้ชที่จะมาคุมทีมในประเทศโลกที่สาม อย่างในไทยลีก จะให้มาถึงใช้เวลาไม่นาน แล้วเปลี่ยนทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ แบบนี้เป็นอะไรที่ดูเพ้อฝัน ไปซักหน่อย
อย่าว่าแต่วางพื้นฐาน ให้กับทีมเลย บางคนยังจำชื่อลูกทีม ได้ไม่ครบคน พอผลงานไม่ดี ก็ยกเลิกสัญญากันอย่างรวดเร็ว แบบนี้จะมาหวังอะไรให้มันมากมาย มันก็ไม่ใช่ไหมหละ
เราถึงได้เห็น สัญญาของนักเตะ และโค้ชของทีม ในวงการฟุตบอลไทย เป็นสัญญาที่ไม่ยาวนัก จะเป็นแบบสั้นๆ สาเหตุก็มาจาก การทำอะไร ที่ไม่ค่อยจะเป็นมืออาชีพ ของเหล่าสโมสร ในฟุตบอลไทยนั่นเอง
หากมาดูกันให้ดีๆ แล้ว จะเห็นได้เลย ว่าปัญหาที่แท้จริงของฟุตบอล มาจากตัวของเจ้าของสโมสรนั่นแหละ ที่ทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทั้งการล้วงลูก การข้ามหน้าข้ามตากุนซือใหญ่ รวมถึงการไปนั่งอยู่ที่มานั่งอยู่ข้างสนาม
ลองจินตนาการเราเป็นนักเตะคนนึง การเจอเจ้าของทีม มานั่งอยู่ในซุ้มมานั่งสำรอง หากกุนซือของทีม กับเจ้าของสโมสร มีความเห็นไม่ตรงกัน เราจะฟังคำพูดของใคร ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ ว่าโค้ชเดี๋ยวมาเดี๋ยวก็ไป ส่วนเจ้าของทีมนั้นอยู่คงกระพันสุดๆ
แค่นี้ก็เห็นแล้ว ว่าการที่กุนซือคนนึง ไม่มีสิทธิ์และอำนาจเด็ดขาด สำหรับเรื่องในสนาม จะวาดฝันให้กุนซือคนนั้น ทำผลงานออกมาดีได้ ดูจะเป็นเรื่องตลก และน่าสลดในเวลาเดียวกัน
จนบางครั้งก็น่าอึดอัดใจ จนอยากให้พวกเจ้าของทีมเหล่านี้ ไปเรียนโค้ช ไปอบรมโปรไลเซนส์ซะให้จบๆ จะได้มาคุมทีมได้อย่างที่ต้องการได้ดั่งใจ ไม่รู้ว่าขี้เกียจ หรือแค่กลัวเวลาที่อะไรๆ ไม่ได้ดั่งใจ จะไม่มีที่ระบายอีกต่อไปก็ไม่รู้
แฟนบอลโปรไลเซนส์