สถานการณ์ เลสเตอร์ ซิตี้

วันนี้เรามาพูดถึง สถานการณ์ของทีมระดับ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ซึ่งนั้นก็คือทัพ จิ้งจองสีน้ำเงิน เพราะว่า สถานการณ์ เลสเตอร์ ซิตี้ ในตอนนี้ ถือว่าย่ำแย่พอสมควร

จึงเป็นที่มาว่าทำไม เก่งหลังเกม จะมาวิเคราะห์สาเหตุ และสถานการณ์โดยรวม ว่าพวกเขาน่าเป็นห่วงหรือไม่ หากดูจากผลงานของพวกเขา ในปีนี้

สถานการณ์ เลสเตอร์ ซิตี้ น่าเป็นห่วงหรือไม่ หากดูจากผลงานของพวกเขาในปีนี้

โดยผลงานของพวกเขาในปีนี้ เพิ่งจะพบกับชัยชนะ เป็นนัดแรกของฤดูกาล ก็เอาเกมนัดที่ 8 ของฤดูกาล โดยเป็นการเปิดบ้านเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 4-0 แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ให้พวกเขา หนีพ้นโซนตกชั้น

เมื่อปัจจุบัน พวกเขาเพิ่งจะมีเพียง 4 คะแนน หากไม่นับเกมล่าสุดเท่ากับว่า การลงเล่นในเกมลีก 7 นัดแรกของฤดูกาล พวกเขามีเพียง 1 คะแนน เท่านั้น

ซึ่งคะแนนเดียว ที่พวกเขาได้ในปีนี้ เกิดขึ้นในนัดแรกของฤดูกาล ด้วยการเปิดบ้านเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 แม้ในเกมนั้น พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน แถมออกนำไปก่อน ถึง 2 ประตู ก็ตามที

ก่อนที่ 6 เกมต่อมา พวกเขาจะแพ้รวด จนลงไปอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง ทำให้หลายคน แสดงความเป็นห่วง อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2016 ว่าจะตกชั้นหรือเปล่า

ปัจจัยหลัก ที่ทำให้พวกเขา เจอกับความยากลำบาก คือสถานการณ์เงิน ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ FFP เนื่องจากพวกเขา เป็นทีมที่มีภาระรายจ่าย เรื่องค่าเหนื่อยของผู้เล่น สูงกว่าทีมอื่นๆ หากไม่นับทีม BIG6

ส่วนรายรับของทีม ก็ไม่อาจเทียบเท่า กับทีมหัวแถวทั้ง 6 ผนวกกับกฎ FFP ที่ไม่ยอมให้สโมสรฟุตบอล ขาดทุนมากจนเกินไป ทำให้ในปีนี้ พวกเขาขยับขายเรื่องผู้เล่น ได้ค่อนข้างยากนั่นเอง

เท่านั้นยังไม่พอ นักเตะเดิมบางราย ก็ไม่อาจเก็บไว้กับทีม ยกตัวอย่างดีล แคสเปอร์ ชไมเคิล ที่ร่วมหัวจมท้าย กับทีมมาหลายปี ต้องถูกปล่อยออกไป แบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ก่อนที่จะดัน มือสองอย่าง แดนนี่ วอร์ด ขึ้นมาเป็นมือหนึ่ง

ในแดนหลัง สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเสีย อนาคตของทีมอย่าง เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัวระดับ 70 ล้านปอนด์ ก่อนไปเสริมด้วยกองหลัง ที่ชื่อไม่ดังนักจาก ลีกเอิง ฝรั่งเศส

ถือว่ายังดีที่ แมวของพวกเขาแต่ละคน ต่างก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม มักจะหาผู้เล่นฝีเท้าดี ในราคาย่อมเยาว์ มาร่วมทัพได้เป็นประจำ แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไร ที่มันแน่นอนอยู่แล้ว

อีกปัญหา ที่หลายคนอาจจะมองข้าม คืออายุที่มากขึ้นของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่เป็นความหวังสูงสุด ของพวกเขาในแดนหน้า ปัจจุบันอายุร่วงเลย เข้าสู่ปีที่ 35 เข้าไปแล้ว

8 นัดที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่า วาร์ดี้ ยังทำไม่ได้ซักประตู ซึ่งนั่นส่งผล ต่อผลงานของทีมอย่างมหาศาล ส่วนทาง แพตสัน ดาก้า กองหน้าความหวังคนใหม่ ก็ยังทำผลงาน ได้ไม่เข้าตานัก เพิ่งยิงในลีก ได้แเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น

ปัจจุบัน พวกเขายิงในลีกได้ 14 ประตู ซึ่งหากไม่นับเกมล่าสุด ที่พวกเขาชนะ 4-0 เท่ากับว่า 7 เกมแรก พวกเขายิงได้เพียง 10 ประตูเท่านั้น นั่นจึงไม่แปลกนัก ที่พวกเขา จะจมบ๊วยอยู่นานแสนนาน

แน่นอนว่าในฤดูกาลนี้ จะไม่เหมือนฤดูกาลที่ผ่านๆ มา พวกเขาน่าจะต้องเจอ กับฤดูกาลอันยากลำบาก จากเดิมที่ลุ้นพื้นที่ ฟุตบอลยุโรป ส่วนในปีนี้ ดูเหมือนจะต้องลุ้นหนีตกชั้น

แต่หากมาดูกันจริงๆ ในช่วง 7 เกมแรก ที่พวกเขาไม่ชนะใครเลย มากกว่าครึ่ง เป็นการเจอกับทีมในระดับ BIG6 ไปถึง 4 ทีมด้วยกัน เรียกได้ว่าเกินครึ่งกันเลยทีเดียว นั่นแปลว่าหลังจากนี้ โปรแกรมของพวกเขา จะเบาขึ้นเยอะเลยทีเดียว

นั่นจึงเป็นโอกาสของพวกเขา ที่จะโกยคะแนนรัวๆ ในช่วงต่อจากนี้ ซึ่งหากทำได้ สถานการณ์ของพวกเขา จะดีขึ้นมากทีเดียว แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ อย่างที่ว่ามา ก็น่าจะทำให้พวกเขา น่าจะเหนื่อยหลังจากนี้อยู่ดี

เพราะดูแล้ว ไม่มีปัจจัยใดๆ ที่จะยกระดับทีมของพวกเขา จากเดิมได้เลย ยกเว้นแต่การเปลี่ยนแปลง ครั้งสำคัญนั่นเอง

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *