ต่อเนื่องจากเมื่อวานเลย วันนี้เรามา สรุปผลฟุตบอล ยูซีแอล 13 เมษายน ซึ่งเป็นเกมใน รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกที่สอง ในอีกสองคู่ที่เหลือ ทำให้เรา 4 ทีมสุดท้าย ในรอบรองชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเรารู้ผล สองคู่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ดังนั้น เก่งหลังเกม เลยจะมาสรุปผลฟุตบอล ในเกมนัดดังกล่าว มาฝากเพื่อนๆ พร้อมกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา ว่าทีมใด จะเป็นผู้ผ่านเข้าสู่ รอบรองชนะเลิศ ตาม เรอัล มาดริด และ บียาร์เรอัล ที่เข้ารอบไปรอก่อนแล้ว
สรุปผลฟุตบอล ยูซีแอล 13 เมษายน กับ 2 ทีมสุดท้าย ที่ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
1. แอตเลติโก มาดริด 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในนัดแรก เป็นทางด้าน แมนซิตี้ ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้ก่อน 1-0 ทำให้ในเกมนี้ พวกเขาต้องการเพียงผลเสมอ ก็เพียงพอที่จะเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วนทางด้าน ตราหมี ต้องชนะสถานเดียว หนึ่งลูกอย่างน้อย เพื่อต่อเวลาพิเศษ
โดยพวกเขา มาด้วยทีมชุดเดิมๆ แต่ปรับเล็กน้อย โดยการส่ง โธมัส เลอมาร์ ลงเล่นเป็นตัวจริง แทนที่ของ ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ ซึ่งเกมนี้ แอต มาดริด ปรับแผนมาเล่น 4-4-2 เพราะอยู่ไม่ไหว ต้องชนะสถานเดียว
ด้าน เรือใบสีฟ้า ยังคงเล่น 4-3-3 แผนเดิม โดยปรับผู้เล่นแค่บางต่ำแหน่ง เพราะเกมลีกนัดล่าสุด บดกับทาง ลิเวอร์พูล มา 90 นาทีเต็ม ซึ่งเกมนี้ส่ง ริยาด มาห์เรซ กับ อิลคาย กุนโดกัน ลงเล่นเป็นตัวจริง
เกมนี้ส่วนใหญ่ ทาง ทีมเยือนเป็นฝ่ายครองเกม ซะส่วนมากตามสไตล์ แต่แท็คติกในเกมนี้ ที่เปลี่ยนไป คือพวกเขาเล่นแบบเผาเวลา เรียกว่าเป็นแท็คติก ย้อนศรทางเจ้าบ้าน ที่เล่นแบบนี้จนเคยตัว
ทำให้ในช่วงครึ่งแรก แอต มาดริด แทบไม่มีโอกาสทำประตู หนำซ้ำยังเป็นทาง แมนซิตี้ ที่เกือบออกนำอีกด้วย ดีที่เสายังช่วยเจ้าบ้านไว้ ให้ในครึ่งแรก สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้
ครึ่งหลังมา อย่างกับคนละเกม กลายเป็นเจ้าบ้าน ที่เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ แต่ส่วนใหญ่จะยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เพราะทางทีมเยือนเอง ก็ปรับมาเล่นเกมรับ จนเหมือนกับบีบ ให้คู่แข่งต้อง เสี่ยงยิงไกลเป็นหลัก
จนกระทั่งช่วงท้ายเกม ทาง ตราหมี เปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง กะโถมเพื่อเอาประตู ซึ่งก็ได้ผล เพราะเกมบุกพวกเขา เริ่มจะออกฤทธิ์ มีโอกาสทำประตูจะๆ หลายต่อหลายหน แต่ยังเฉียบคมไม่พอ
เมื่อมองไปที่นาฬิกา ดูเหมือนพวกเขา จะตัดสินใจช้าไปซักหน่อย เนื่องจากเหลือเวลาไม่มากแล้ว ยิ่งเวลายิ่งเหลือน้อย ยิ่งเป็นการบีบให้พวกเขาร้อนลน จนมีประเด็นในช่วงท้ายเกม
โดยนักเตะทั้งสองทีม มีการปะทะกันหนัก ในช่วงก่อนหมดเวลา ทำให้มีใบเหลืองปลิวว่อน และทางด้านของ เฟลิเป้ โดนใบเหลืองใบที่สอง ถูกไล่ออกจากสนาม ก่อนที่เกมนี้จะจบลง แบบไม่มีสกอร์ ทำให้รวมผลสองนัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบด้วยสกอร์ 1-0
2. ลิเวอร์พูล 3-3 เบนฟิก้า
จากเกมแรกที่ หงส์แดง บุกไปชนะมาถึง 3-1 ประกอบกับ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ พวกเขามีโปรแกรมเจอกับ แมนซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ทำให้พวกเขา โรเตชั่นนักเตะ เกือบทุกตำแหน่ง
โดยมีเพียง อลิสซอน เบ็คเกอร์ โจเอล มาติป จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ดิโอโก้ โชต้า เท่านั้น ที่เป็นผู้เล่นที่ลงเล่น ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา แต่ดูแล้ว ขุมกำลังชุดที่ลง ก็ถือว่ามีคุณภาพเหมือนกัน
ส่วน เหยี่ยวลิสบอน หากพวกเขายังหวังเข้ารอบ เกมนี้ต้องชนะ 2 ลูกเป็นอย่างน้อย และแน่นอนว่า ผู้เล่นที่ลงเล่น ต่างก็เป็นชุดใหญ่ของทีม เพราะพวกเขา ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
แต่เริ่มเกมมา ก็เป็นบอลของเจ้าบ้าน เกือบทั้งหมดส พวกเรายังคงเป็นฝ่าย ที่ครองเกมเข้าใส่ โดยทีมเยือน ก็หวังเอาชนะกัปดักล้ำหน้า เป็นอาวุธหลัก ในการเข้าทำประตู
ซึ่งทางเจ้าบ้าน เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน จากจังหวะเตะมุม คอสตาส ซิมิคาส เปิดไปเข้าหัว อิบราฮิม่า โกนาเต้ เจ้าเก่า โหม่งให้ทีมออกนำไปก่อน เหมือนในเลกแรกเลย
ก่อนที่ทีมเยือน จะมาตามตีเสมอได้ จากการเอาชนะกัปดักล้ำหน้า ทำให้ กอนคาโล่ รามอส หลุดเข้าไปยิงผ่านตัว อลิสซอน ทำให้ทาง เหยี่ยวลิสบอน ตามตีเสมอเป็น 1-1 แต่สกอร์รวม ยังคงห่างไกล่อยู่ดี
ก่อนที่ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล จะมาได้สองประตูรวด จาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ซึ่งมาจากจังหวะคล้ายๆ กัน คือ หอกฟันขาว วิ่งหาช่องเข้าไปแท็บอินง่ายๆ ซึ่งจุดเริ่มต้นก็มาจากลูกครอส ทั้งสองจังหวะเลย
หลังจากนั้น พวกเขาเปลี่ยนตัวหลายคน เพื่อเก็บแรงเอาไว้ สำหรับเกมวันเสาร์นี้ หลังจากนั้นโดนดีเลยครับ เบนฟิก้า มายิงสองประตูรวด จาก โรมัน ยาเลมชุค และ ดาร์วิน นูเญซ ซึ่งทั้งสองประตู มาจากการเอาชนะ กัปดักล้ำหน้าทั้งคู่เลย
ถึงขนาดผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงล้ำหน้าทั้งสองจังหวะ แต่ดีที่ VAR ยังช่วยให้ผู้มาเยือน ได้สองประตูสำคัญ ทำให้พวกเขา บุกมาเก็บผลเสมอในนัดนี้ ออกไปได้ แต่ถึงอย่างไร เมื่อรวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายเข้ารอบไป ด้วยสกอร์ 6-4 อยู่ดี
แฟนบอลโปรไลเซนส์