มาสรุปผลฟุตบอล เอเอฟเอฟ แชมเปี้ยนชิพ 2021 รอบแบ่งกลุ่ม กันซักหน่อย หลังฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือเอเอฟเอ แชมเปี้ยนชิพ รอบแบ่งกลุ่ม ได้แข่งขันกันจนเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ จะเริ่มลงแข่งกัน ในวันพรุ่งนี้
โดย เก่งหลังเกม มาสรุปผลทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B โดยจะมาดูกันว่า แต่ละทีมทำผลงานเป็นยังไง และมีใครได้ไปต่อกันบ้าง
สรุปผลฟุตบอล เอเอฟเอฟ แชมเปี้ยนชิพ 2021 รอบแบ่งกลุ่ม
โดยรอบแบ่งกลุ่ม เป็นออกเป็น 2 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 5 ทีม แข่งแบบพบกันหมด ทำให้แต่ละทีม จะได้ลงเตะกันทั้งหมด ทีมละ 4 นัด หาสองทีมที่ดีที่สุด ที่จะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป ในรอบรองชนะเลิศ
กลุ่ม A
เริ่มจากแชมป์กลุ่มกันก่อน แน่นอนว่าเป็น ทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ด้วยผลงาน ชนะรวดทั้ง 4 นัด ไล่ตั้งแต่ ติมอร์-เลสเต้ 2-0, เมียนมาร์ 4-0, ฟิลิปปินส์ 2-1 และปิดท้ายด้วย ส่งสำรองยกทีม เอาชนะ สิงคโปร์ เจ้าภาพ 2-0
ตามมาด้วย สิงคโปร์ ชาติเจ้าภาพ ที่ทำผลงาน ชนะ 3 แพ้ 1 โดยพวกเขาเริ่มจาก ชนะ เมียนมาร์ 3-0, ฟิลิปปินส์ 2-1, ติมอร์-เลสเต้ 2-0 และแพ้ไทย ต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง 0-2 ทั้งๆ ที่ทาง ช้างศึก ส่งตัวสำรองลงหมด
อันดับสาม เป็นทาง ฟิลิปปินส์ ที่มีแข้งจากไทยลีกหลายคน เริ่มต้นด้วยการแพ้ สิงคโปร์ 1-2 ก่อนที่จะลถ่ม ติมอร์-เลสเต้ 7-0 แต่หลังจากนั้นมาแพ้ ไทย 1-2 ทำให้หมดสิทธิ์เข้ารอบทันที แม้เกมสุดท้ายจะเอาชนะ พม่า 3-2 แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เมียนมาร์ ก็มาตามคาด เริ่มด้วยการแพ้ สิงคโปร์ ในนัดเปิดสนาม 0-3 ก่อนที่จะชนะสมันน้อยอย่าง ติมอร์ 2-0 ก่อนที่จะแพ้สองนัดที่เหลือ ต่อ ไทย 0-4 และ ฟิลิปปินส์ 2-3 เก็บได้เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
ปิดท้ายด้วย ติมอร์-เลสเต้ ที่ยังตามหลังทีมอื่นอยู่เยอะ แพ้รวดทุกเกมที่ลงแข่ง แถมยิงไม่ได้เลย เริ่มจาก แพ้ ไทย 0-2 ต่อด้วย เมียนมาร์ 0-2 และ ฟิลิปปินส์ 0-7 ปิดท้ายด้วยแพ้เจ้าภาพ สิงคโปร์ 0-2 กินไข่ทั้งคะแนน และสกอร์
กลุ่มนี้ทีมที่ได้ไปต่อ มี ไทย กับ สิงคโปร์ ส่วนอีกสามทีมที่เหลือ ต้องตกรอบไปก่อน ด้านทัพช้างศึกไม่แปลก เพราะผ่านเข้ารอบเป็นประจำ ส่วนเจ้าภาพนั้น เพิ่งผ่านรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกในรอบหลายปี
กลุ่ม B
แชมป์กลุ่มเป็น มหามิตร อินโดนีเซีย แทนที่จะเป็น เวียดนาม อย่างที่หลายคนคาด โดย อิเหนา ชนะ 3 เสมอ 1 เริ่มจากการชนะ กัมพูชา 4-2 ต่อด้วยถล่ม ลาว 5-1 ก่อนที่เสมอกับ เวียดนาม 0-0 และปิดท้ายด้วยการเอาชนะ มาเลเซีย 4-1 เข้ารอบเป็นอันดับ 1
ด้านทัพ ดาวทอง หล่นมาจบอันดับสองแทน หลังจากที่ทำผลงาน ชนะ 3 เสมอ 1 เช่นเดียวกัน แต่ลูกได้เสียเป็นรอง เริ่มจากการเอาชนะ ลาว 2-0 ต่อด้วยถล่ม มาเลเซีย 3-0 ก่อนที่จะทำได้เพียงเสมอกับ อินโดนีเซีย 0-0 แม้จะปิดท้ายด้วยการ ถล่ม กัมพูชา 4-0 ก็ตาม
มาเลเซีย ไม่ดีพอต่อการเข้ารอบ หลังจากทำผลงาน ชนะ 2 แพ้ 2 เริ่มจากเอาชนะ กัมพูชา 3-1 และถล่ม ลาว 4-0 แต่หลังจากนั้น อีกสองนัดดันแพ้รวด ต่อ เวียดนาม 0-3 และ อินโดนีเซีย 1-4
กัมพูชา ก็ตามเนื้อผ้า ทำผลงาน ชนะ 1 แพ้ 3 ไล่ตั้งแต่ แพ้ มาเลเซีย 1-3 และ อินโดนีเซีย 2-4 ก่อนที่จะชนะนัดเดียว ด้วยการถล่ม ลาว 5-1 และเกมสุดท้ายก็โดน เวียดนาม ถล่ม 0-4
ปิดท้ายด้วย ลาว ที่แพ้รวดทั้ง 4 นัด เริ่มจาก เวียดนาม 0-2, มาเลเซีย 0-4, อินโดนีเซีย 1-5 และ กัมพูชา 0-3 ทำให้ทาง ลาว เก็บไม่ได้ซักคะแนน พร้อมยิงได้เพียงประตูเดียว
กลุ่มนี้ทาง อินโดนีเซีย ได้เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วย เวียดนาม ที่ทีมหลังเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ ส่วนทีมที่เหลือก็ตกรอบตามสเต็ป ซึ่งก็ถือว่าตามคาด ไม่มีอะไรพลิก นอกจากอันดับแชมป์และรองแชมป์
ทำให้ทีมที่เข้ารอบ มี ไทย ที่เป็นแชมป์กลุ่ม A จะได้ไปเจอกับ อันดับสองของกลุ่ม B อย่าง เวียดนาม ซึ่งคู่นี้จะลงเล่นกันในวันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์
ส่วนอันดับหนึ่งของกลุ่ม B อย่าง อินโดนีเซีย จะไปเจอกับอันดับสองของกลุ่ม A อย่าง สิงคโปร์ โดยคู่นี้จะแข่งก่อน ในวันพุธ และวันเสาร์ นั่นเอง
ก่อนที่จะหาสองทีมสุดท้าย ที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป ซึ่งเดิมทีรอบนี้ ที่แข่งกันสองเลก เพราะจะสลับกัน เหย้า-เยือน ไม่ได้เตะกันที่ชาติเจ้าภาพ แต่ในครั้งนี้ จากปัญหา โควิด-19 ทำให้เกมทุกนัดต่อจากนี้ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ จะเล่นกันที่ สิงคโปร์
โดยสองทีมสุดท้ายจะเป็นใคร อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กัน ซึ่งจากผลงานแล้ว ต้องยอมรับว่า ทีมชาติไทย มาแรงที่สุด จากฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งคู่แข่งสำคัญ อาจจะเป็นเกมรอบรองชนะเลิศ ที่จะต้องเจอกับ เวียดนาม แชมป์เก่า
สุดท้ายนี้ อยากให้เพื่อนๆ มาให้กำลังใจทีมชาติไทยกันเยอะๆ แม้จะไม่ได้กลับมาแข่งกันที่ประเทศไทย เหมือนครั้งก่อนๆ ก็ตาม แต่แฟนบอลชาวไทย ก็สามารถรับชมกันได้ ผ่านทางช่อง 7 สี
แฟนบอลโปรไลเซนส์