แมนเชสเตอร์ซิตี้ เรอัลมาดริด ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ

ประเดิมสนามกันไปแล้ว สำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก ซึ่งเกม แมนเชสเตอร์ซิตี้ เรอัลมาดริด ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ ถือว่าเป็นคู่ใหญ่ ไฮไลท์ของรอบนี้เลยก็ว่าได้ หลังจ่าฝูงของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และลาลีกา สเปน ต้องมาเจอกันเอง

โดย เก่งหลังเกม จะมาสรุปผลฟุตบอลนัดดังกล่าว พร้อมกันกับ บทวิเคราะห์ฟุตบอล ในสไตล์ของพวกเรา เช่นเคย

สรุปผลฟุตบอล แมนเชสเตอร์ซิตี้ เรอัลมาดริด ยูซีแอล รอบรองชนะเลิศ

เจ้าบ้านถือว่าเหนื่อยเลย หลังแนวรับ ค่อนข้างย่ำแย่ จากปัญหาอาการบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ของผู้เล่นตัวหลัก ดีที่ได้ รูเบน ดิอาส กลับมาเป็นตัวจริงในช่วงหลัง เพราะก่อนหน้านี้ ต้องเจ็บจนพักไปหลายเกม

แต่แบ็คขวา ยังขาดทางด้านของ ไคล์ วอร์คเกอร์ ที่เจ็บในเกมเยือน แอตเลติโก มาดริด ส่วนแบ็คซ้ายอย่าง ชูเอา คันเซโล่ ก็ดันมาติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ จอห์น สโตนส์ ต้องไปยืนเป็นแบ็คขวา ส่วนฝั่งซ้ายเป็น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

กองกลางใช้สามตัวหลัก อย่าง แบร์นาโด้ ซิลวา โรดรี้ และ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งถือว่าเป็นชุดที่ดีที่สุด ด้านแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ ฟิล โฟเด้น และหน้าเป้าอย่าง กาเบรียล เฆซุส ที่ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ ในเกมหลังๆ

ด้านทีมเยือน ถือว่ามาเต็มสูบเช่นกัน แม้จะขาด คาเซมิโร่ กองกลางตัวตัดเกม คนสำคัญที่ดัน ได้รับบาดเจ็บ ส่วน ดาวิด อลาบา ที่โดนเปลี่ยนตัวออก ในเกมลีกนัดล่าสุด เกมนี้ฟิตกลับมายืนตัวจริงได้

โดยผู้รักษาประตู ยังเป็นคนเดิม ส่วนแนวรับใช้ ดานี่ การ์บาฆาล เอแดร์ มิลิเตา ดาวิด อลาบา และ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ สามกองกลาง ใช้ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ เล่นร่วมกับสองตำนาน อย่าง โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช

สามแนวรุกนำมาโดย คาริม เบนเซม่า เดอะแบกของทีมในเวลานี้ ประกอบข้างด้วย 2 เด็กนรกอย่าง โรดรีโก้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ เรียกได้ว่าดีที่สุด เท่าที่พวกเขาจะส่งได้ ในแบบฉบับที่ไม่มี คาเซมิโร่

แต่เริ่มเกมมาได้ ไม่ถึงสองนาที เรือใบสีฟ้า ออกนำเร็วจากการโซโล่ของ ริยาด มาห์เรซ ทางด้านขวา แล้วตัดเข้ากลาง แบบผ่านผู้เล่น มาดริด 4-5 คน แล้วหยอดให้ เดอ บรอยด์ วิ่งสอดขึ้นมาโหม่ง ให้เจ้าบ้านออกนำไว

และการที่ ราชันชุดขาว ในช่วงหลัง เกมรับค่อนข้างมีปัญหา ยิ่งเกมนี้เปิดเกมบุกสู้ ยิ่งทำให้หลังบ้าน ยุ่ยยิ่งเข้าไปอีก เพราะเพียงนาทีที่ 10 ก็โดนทาง ซิตี้ หนีห่างไปเป็น 2-0 จากการพลิกบอลของ กาเบรียล เฆซุส หลุดเข้าไปยิงง่ายๆ

หลังจากนั้น ทีมเยือนยิ่งอยู่ไม่ติด ยิ่งพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ จนเกือบจะโดนเจ้าบ้าน หนีออกไปอีก จากจังหวะสวนกลับ โดยใช้ผู้เล่นเพียงไม่กี่คน ก่อนที่ มาห์เรซ จะตัดสินใจยิงเอง แต่บอลไม่แม้แต่จะเข้ากรอบ

จากนั้นไม่กี่นาที ภาพเดิมก็ฉายซ้ำ ซึ่งคราวนี้เป็นคิวของ โฟเด้น ที่เลือกจะยิงเอง แต่ดีไม่พอ บอลไม่แม้แต่จะเข้ากรอบ จนเหลือเชื่อ ที่สกอร์ยังไม่ขยับเพิ่มไปไหน ทั้งๆ ที่โอกาสนั้นมากมาย

หนำซ้ำ เป็นการที่ตีงู แล้วดันตีไม่ตาย เพราะ เบนเซม่า มาโฉบตัดหน้ายิงลูกครอสของ เมนดี้ เข้าประตูไปแบบเหลือเชื่อ จนทำให้ ชุดขาว ตีไข่แตก แล้วไล่มาอยู่ที่สกอร์ 1-2 ลูกนี้ต้องชม โมดริช ที่สไตล์สุดตัว แย่งบอลเอามาได้

ช่วงครึ่งหลัง โอกาสส่วนใหญ่ ยังคงเป็นของเจ้าบ้าน ที่ยังรุกได้น้ำได้เนื้อกว่า จนมีโอกาสจะบวกประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ได้โต้กลับ แต่ต้องบอกว่าแนวรุกของ เรือใบ ยังเฉียบคมไม่พอ

แต่ไม่นาน พวกเขาก็หนีเป็น 3-1 ได้สำเร็จ จากการเติมขึ้นมาของ แฟร์นันดินโญ่ ที่ต้องมาเล่นแบ็คขวาจำเป็น หลังจาก สโตนส์ เจ็บจนต้องเปลี่ยนออกไป ในช่วงพักครึ่ง แล้วครอสมาเข้าหัว โฟเด้น ที่ได้โหม่งจ่อๆ แบบใครๆ ก็ต้องโหม่งเข้า

อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่นาที มาดริด จะได้ วินิซิอุส โซโล่เดี่ยวครึ่งสนาม แบบที่แนวรับของ แมนซิตี้ ตามไม่ทันจริงๆ แล้วเด็กชาวบราซิล ก็ลากเข้าไปยิง เข้าเสาสองได้อย่างสวยงาม สกอร์กลับมาที่ 3-2

ในช่วงกลางครึ่งหลัง เจ้าบ้านมาหนีออกไปเป็น 4-2 จากจังหวะที่เหมือนจะฟาวล์ จนแนวรับทีมเยือน หยุดเล่นกันไปหมด แต่ แบร์นาโด้ ซิลวา ที่สมาธิดีพอ จะวิ่งเข้าไปเอาบอล แล้วยิงเสาแรกเสยคานเข้าไป

ก่อนที่ในช่วงท้ายเกม มาดริด จะไล่มาอีกครั้ง จากจุดโทษของ คิงคาริม ให้ทีมเยือน บุกมาแพ้เพียงแค่ประตูเดียว ทั้งๆ ที่โดนเจ้าบ้านล่อเป้า ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ซึ่งการเอาชนะ มาดริด ได้ลูกเดียว แล้วต้องกลับไปเล่นที่ เบอร์นาบิว ไม่มีอะไรปลอดภัยทั้งสิ้น

ซึ่งการแพ้ลูกเดียว หากเทียบกับรูปเกม และโอกาส ถือว่าทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียหายมากๆ ส่วนทางด้าน เรอัล มาดริด แม้เกมนี้จะแพ้ แต่แพ้เหมือนไม่แพ้ เนื่องจากในเลกที่สอง พวกเขาจะได้กลับไปเล่นในบ้าน

แถมความพร้อมก็ดีกว่า เนื่องจากสถานการณ์ในลีก ค่อนข้างลอยลำ หลังนำห่างคู่แข่ง อยู่หลายคะแนน ด้าน แมนซิ ต้องใส่เต็ม ในเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์ หลังโดนทาง ลิเวอร์พูล จี้มาเหลือแต้มเดียว ตัวหลักไม่ได้พักแน่ๆ

แต่ก็ต้องบอกว่า บอลคู่นี้ สนุกระดับ 5 ดาว แม้ทั้งสองทีม จะมีแนวรุกที่ดีด้วยกัน แต่ก็มีจุดอ่อนที่หลังบ้านทั้งคู่ ถึงกระนั้น ก็ยังเปิดเกมรุกใส่กันแบบสะใจ เรียกว่าใครนอนดึกเมื่อคืน คุ้มที่อดหลับอดนอนดู แน่นอนครับ

แฟนบอลโปรไลเซนส์

By KICKOFF

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *