ในที่สุด ฟุตบอลไทยลีก ก็ได้ฤกษ์กลับมาประเดิม การแข่งขันกันอีกครั้ง โดยฤดูกาลใหม่นี้ จะเปลี่ยนช่วงเวลาการแข่งเป็นแบบยุโรป หลังจากที่เดิมที พวกเราเล่นกันตามปีปฎิทิน เหมือนกับลีกส่วนใหญ่ในเอเชีย ดังนั้นต่อไปนี้ โควต้า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อาจจะดูงงๆ เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม วันนี้เราก็จะมาพูดถึง ไทยลีก สัปดาห์แรก ที่เพิ่งแข่งครบกันไปครับ
พวกเรา Kickoff88 อยากชวนเพื่อนๆ ที่ไม่เคยดูบอลไทย ให้มาติดตามฟุตบอลของบ้านเรากัน แม้จะไม่ได้เข้มข้นเหมือนบอลยุโรปที่เราคุ้นตา แต่นี่ก็คือลีกของบ้านเรา ที่จะเป็นพื้นฐานให้กับ ทีมชาติไทย ต่อไปในอนาคตครับ
วิเคราะห์บอล ไทยลีก สัปดาห์แรก เป็นยังไงกันบ้าง
อย่างแรกที่ต้องขอพูดถึง คือ ไทยลีก 1 มีการเปลี่ยนตัวกุนซือกันค่อนข้างบ่อย และช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ก็มีการเปลี่ยนตัวเฮ้ดโค้ชกันถึง 7 ทีม จากจำนวนทีมบนลีกสูงสุด ที่มีกันอยู่ 16 ทีม เรียกได้ว่าเกือบครึ่งกันเลยทีเดียว
ในส่วนของ โควต้าต่างชาติ ยังใช้ระบบ 3 + 1 + 3 นั่นคือต่างชาติแบบไม่จำกัดสัญชาติ จำนวน 3 คน ต่างชาติที่เป็นสัญชาติเอเชีย 1 คน และ โควต้านักเตะอาเซียนอีก 3 คน
ซึ่งฤดูกาลใหม่นี้ ประเดิมคู่แรกกันในคืนวันศุกร์ เป็นเกมระหว่าง น้องใหม่อย่าง หนองบัว พิชญ เปิดบ้านพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยเกมนี้เป็นทางเจ้าบ้าน สามารถเอาชนะไปได้ 2-0 จากการเหมาของ แฮมิลตัน ซัวเรซ ต่างชาติตัวใหม่ ที่เพิ่งดึงมาจาก คาซม่า เอสซี
ส่วนในวันเสาร์ มีเกมลงเล่นกันทั้งหมด 4 คู่ ซึ่งหลายคู่ถือว่าเกิดดราม่าพอสมควร โดยเฉพาะการตัดสินของกรรมการ และ VAR ที่ก็ไม่รู้ว่าจะมีไว้เพื่ออะไร หากยังตัดสินกันแบบนี้
คู่แรก พีที ประจวบ เปิดบ้านเสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 ซึ่งเกมนี้ทาง กิเลนผยอง ทำได้ดีกว่าเยอะมาก แต่ดันมาเสียประตูในช่วงท้ายเกม จากลูกโทษ ที่หากดูจาก VAR จะเห็นได้เลยว่า เซฟตัวเองเต็มที่แล้ว หากจะให้ทำมากกว่านี้คงต้องตัดแขนทิ้ง
แต่อีกคู่อย่าง คู่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี เกมนี้จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 และเป็นทาง ปราสาทสายฟ้า ครองเกมบุก และเป็นฝ่ายสร้างโอกาสทำประตู ได้ชัดเจนกว่าก็จริง แต่จังหวะก่ำกึ่งที่ควรจะแฮนบอล กรรมการกลับเฉยเสียอย่างนั้น
ทำให้เกิดการเปรียบเทียบพอสมควร สำหรับจังหวะแฮนบอล จากสองทีมใหญ่ ไอ้ทีมที่ควรจะเสียดันไม่เสีย ไอ้ทีมที่ไม่ควรจะเสียดันเสีย ไม่แปลกที่หลายคนจะสงสัย และตั้งข้อสังเกตุการทำงานของกรรมการ และสมาคมฟุตบอล ที่มักจะมีการตัดสินเอนเอียงเข้าทาง บุรีรัมย์ ที่ใครก็รู้ว่ามีสัมพันธ์ยังไงกับ นายกสมาคมฟุตบอล คนปัจจุบัน
ส่วนอีกสองคู่ ทาง แบ็งคอก ยูไนเต็ด บุกไปแซงเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-1 โดยได้สองประตูจาก เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ซึ่งทางน้องใหม่ ที่ได้ประตูนำไปก่อน ไม่สามารถต้านทานเกมบุกของ แข้งเทพ ไว้ได้จริงๆ
และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด น้องใหม่ที่สุดท้าย เปิดบ้านพ่าย ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 0-2 แต่รูปเกมต้องบอกว่า ทางเจ้าบ้านไม่เป็นรองเลย จะมีก็เรื่องคุณภาพนักเตะเท่านั้น
สำหรับเกมวันอาทิตย์ มีเกมลงเล่นอีก 3 คู่เหลือ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าทั้งสามคู่นั้น แบ่งแต้มกันทั้งสามคู่เลย ทำให้สัปดาห์แรก จบลงด้วยผลเสมอ ถึง 5 จาก 8 เกมที่ลงเล่น
คู่แรก สิงห์ท่าเรือ การท่าเรือ เอฟซี ที่ขนผู้เล่นชื่อดังมาเต็มทีม เปิดบ้านเสมอกับ โปลิศ เทโร 3-3 เรียกว่าดีทุกอย่าง ยกเว้นกุนซือจริงๆ สำหรับทางเจ้าบ้าน ที่แม้มีผู้เล่นดีๆ มากมาย แต่การจัดการต้องบอกว่า สอบตก เพราะเล่นสู้ทาง โปลิศ เทโร ของโค้ชอ้น ไม่ได้เลย
คู่ต่อมา ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเจ๊ากับ แชมป์เก่า อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-1 เกมนี้ต้องบอกว่า โค้ชเตี้ย สอนบอล วิดมาร์ พอสมควร แถมทางทีมเยือนต้องเสีย วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ปราการหลังตัวแบก ที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรก
ส่วนคู่สุดท้าย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจ๊ากับ สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี 2-2 แบบพลิกไปพลิกมาในช่วงท้ายเกม ถือว่าเป็นคู่ที่เล่นได้สูสีกัน ด้วยคุณภาพของทีมนั้นไม่หนีกันมาก
ดูๆ แล้วไทยลีกปีนี้ คุณภาพไม่หนีกันมาก แม้แชมป์เก่าจะเป็นตัวเต็ง แต่จากการเสียเจ้านิว แถมตัวหลักคนอื่นก็เริ่มโรย บวกกับเกมทางด้านซ้าย ที่ดูแล้วยังต้องปรับปรุง ทำให้ในระยะยาว ทุกทีมยังมีโอกาส
และด้วยเจ้าของทีมในไทยลีก ส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีเงิน ทำให้ดูแล้วอาจจะไม่ได้ผลกระทบจาก โควิด-19 เท่าไหร่นัก เพราะลำพังช่วงคนดูพีคๆ ก็ไม่น่าจะมีไหนทำกำไร จากการทำทีมได้อยู่แล้ว เรียกว่ามาก่อนกาลจริงๆ สำหรับวงการฟุตบอลไทย
แฟนบอลโปรไลเซนส์